นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังร่วมเปิดตัว “หมูชีวา หรือ Cheeva Pork” นวัตกรรมหมูเพื่อสุขภาพแบรนด์ U-Farm โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมปศุสัตว์ ร่วมกับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ณ โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ ว่า การเปิดตัว “หมูชีวา” นวัตกรรมหมูเพื่อสุขภาพแบรนด์ U-Farm ในวันนี้ ถือเป็นการเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพของสินค้าปศุสัตว์เพื่อผู้บริโภค สอดรับกับนโยบายในการพัฒนามาตรฐานการผลิตสินค้าปศุสัตว์ภายในประเทศเพื่อผู้บริโภค ซึ่งการยกระดับคุณภาพมาตรฐานการผลิตและการบริโภคนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการประสานงานร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจและภาครัฐ อีกทั้งนวัตกรรมหมูเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ U-Farm นี้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกรมปศุสัตว์และ CPF เป็นอย่างดี จึงถือว่าเป็นการพัฒนาความร่วมมือเพื่อพัฒนาประเทศร่วมกับภาครัฐอีกทางหนึ่ง
สำหรับในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้กรมปศุสัตว์กำกับดูแลงานด้านปศุสัตว์ ตั้งแต่การส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ การจัดการด้านสุขภาพสัตว์ การจัดการสวัสดิภาพสัตว์ การเชือดชำแหละเนื้อสัตว์ การขนส่งสินค้าปศุสัตว์ รวมถึงการจำหน่ายเนื้อสัตว์ เพื่อให้ผู้บริโภคทั้งในประเทศและประเทศคู่ค้าต่าง ๆ ได้มีโอกาสบริโภคสินค้าปศุสัตว์ที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานและถูกต้องตามกฎหมาย ตั้งแต่ฟาร์มจนถึงสถานที่จำหน่าย ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มตื่นตัวและให้ความสำคัญกับคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าและอาหารมากขึ้น
ในส่วนของสินค้าปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมปศุสัตว์ได้วางแผนและริเริ่มส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ให้สอดคล้องกับกระแสความต้องการของผู้บริโภค เช่น โครงการลดการใช้ยาปฏิชีวนะในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ โครงการปศุสัตว์อินทรีย์ และโครงการมาตรฐานฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เพื่อให้ได้สัตว์ที่มีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคและสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ผ่านกระบวนการเชือดและชำแหละเนื้อสัตว์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการโรงฆ่าสัตว์ที่มีศักยภาพ พัฒนาโรงฆ่าสัตว์ให้ได้รับการรับรอง GMP เพื่อให้กระบวนการเชือดและชำแหละเนื้อสัตว์ได้มาตรฐานปลอดภัยต่อผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ให้รองรับการตรวจสอบย้อนกลับอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเนื้อสัตว์ที่จำหน่ายเพื่อการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงการส่งออกต้องสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบหรือฟาร์มเลี้ยงสัตว์ได้ ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้พยายามส่งเสริมให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสเข้าถึงการบริโภคเนื้อสัตว์ที่มีมาตรฐานการผลิต และส่งเสริมให้เกษตรกรและผู้ประกอบการเข้าใจขั้นตอนต่าง ๆ ของกระบวนการผลิต ที่จะทำให้ได้รับประโยชน์จากการประกอบอาชีพและธุรกิจที่เสริมสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทย จึงได้จัดทำ “โครงการปศุสัตว์ OK” ขึ้น เพื่อบูรณาการงานผลิตสินค้าปศุสัตว์ทั้งหมด ภายใต้ตราสัญลักษณ์ปศุสัตว์ OK
ปัจจุบันได้ให้การรับรองสินค้าทั้งหมด 7 ชนิด ได้แก่ เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อเป็ด เนื้อโค ไข่ไก่สด ไข่เป็ดสด และไข่นกกระทาสด และมีสถานที่จำหน่ายที่ได้รับการรับรองจำหน่ายสินค้า ที่ผ่านการผลิตตามมาตรฐานที่กรมปศุสัตว์กำหนดแล้วไม่น้อยกว่า 7,000 ราย ประกอบด้วย สถานที่จำหน่ายทั่วไปในตลาดสดและห้างสรรพสินค้า รวมถึง Modern trade โดยสถานที่จำหน่ายที่จะเข้าร่วมโครงการฯ ต้องผ่านหลักเกณฑ์ 4 ข้อ ได้แก่ 1) สินค้าปศุสัตว์ที่นำมาขายต้องมาจากฟาร์มมาตรฐาน (GAP) 2) มาจากโรงฆ่าสัตว์ที่ได้รับใบอนุญาต หรือผลิตจากสถานที่รวบรวมไข่ที่ได้รับการรับรอง 3) จำหน่ายในสถานที่จำหน่ายที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ และ 4) ต้องสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของสินค้าได้ ซึ่งถือเป็นการยกระดับคุณภาพมาตรฐานการผลิตเนื้อสัตว์อย่างครบวงจร
"กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความมุ่งมั่นที่จะนำภาคเกษตรไทยก้าวสู่ความมั่นคงและยั่งยืน ผ่านการขับเคลื่อนโดยร่วมมือกับภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม ภายใต้กรอบการทำงาน 3 ด้าน คือ ความปลอดภัยของอาหาร ความมั่นคงทางอาหาร และความยั่งยืนภาคเกษตร เพื่อสนับสนุนและมุ่งเป้าให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลก ซึ่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมอาหารของ CPF ในครั้งนี้ ถือป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐานรองรับ และตรงตามความต้องการของตลาด อีกทั้งยังช่วยสร้างความมั่นคงทางอาหารให้ประเทศ และต่อยอดนวัตกรรมที่นำไปสู่ความยั่งยืนภาคเกษตรและอาหาร ที่มีการวิจัยพัฒนา บนมาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาตรฐานปศุสัตว์ OK ของกรมปศุสัตว์ ที่ได้วางรากฐานฟาร์มที่ดีให้แก่ทั้งเกษตรกรและภาคเอกชนทั่วประเทศ รวมถึงช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร เกิดเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคยุคใหม่ที่สนใจในสุขภาพและสวัสดิภาพการเลี้ยงสัตว์" นายเฉลิมชัย กล่าว
ด้าน น.สพ. สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่ากรมฯ มีหน้าที่ในการกำกับดูแลเรื่องสุขภาพสัตว์ให้ปลอดโรค การส่งเสริมการผลิตของเกษตรกรรายย่อย และการผลิตอาหารปลอดภัยซึ่งเป็นเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภค ที่กรมฯให้ความสำคัญมากขณะนี้สำหรับหมูชีวา เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่การผลิต และเป็นผลิตภัณฑ์ที่คัดเลือกทุกองค์ประกอบเป็นอย่างดี เพื่อสุขภาพและเป็นการเลี้ยงตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ ทั้งยังได้รับเครื่องหมายรับรองคุณภาพ 'ปศุสัตว์ OK' นั่นหมายความว่าเป็นเนื้อหมูที่มาจากสัตว์ที่เลี้ยงในฟาร์มมาตรฐาน GAP แปรรูปจากโรงงานแปรรูปที่ได้รับใบอนุญาตและคุณภาพจากกรมฯ สถานที่จำหน่ายถูกสุขลักษณะและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มุ่งมั่นผลักดันมูลค่าการส่งออกปศุสัตว์ไทยสู่เป้าหมาย 2 แสนล้านบาท ในปี 2563 ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคปศุสัตว์ 5.6% ในปีนี้ จากการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์
สำหรับงานเปิดตัวนวัตกรรมหมูเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ U-Farm ของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้ กรมปศุสัตว์มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่บริษัทผู้ผลิตอาหารชั้นนำของประเทศได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพของสินค้าปศุสัตว์เพื่อผู้บริโภค ซึ่งสอดรับกับนโยบายของกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการพัฒนามาตรฐานการผลิตสินค้าปศุสัตว์ภายในประเทศเพื่อผู้บริโภคเช่นเดียวกัน การที่จะยกระดับคุณภาพมาตรฐานการผลิตและการบริโภค จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการประสานงานร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจ และภาครัฐ และจากนวัตกรรมหมูเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ U-Farm สะท้อนให้เห็นถึงการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกรมปศุสัตว์และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) อย่างดีเยี่ยม ซึ่งกรมปศุสัตว์หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) จะพัฒนาความร่วมมือเพื่อการพัฒนาประเทศร่วมกับภาครัฐต่อไป