แล็บโซไซตี้รุก  อี-คอมเมิร์ซ  จ่อขยาย CLMV

18 ส.ค. 2563 | 10:48 น.

“แล็บโซไซตี้” ปรับแผนฝ่าโควิด -19 เบนเข็มโฟกัสออนไลน์ ทุ่มงบ 30 ล้านบาท สร้างแบรนด์ ขยายสาขาครบ 10 แห่งในปีหน้า ก่อนสยายปีกต่างประเทศ

นายวรานนท์ พลายวงษ์ ประธานกรรมการบริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท เอ็น. ดับเบิลยู. ไฟน์เนสท์ โพรดักส์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านสินค้าสุขภาพและความงาม “แล็บโซไซตี้” (LAB Society) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ภาพรวมครึ่งปีแรกที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าผู้ประกอบการทุกรายได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะช่องทางการขายในห้างสรรพสินค้าที่ถูกปิดไปจากมาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ยอดขายของบริษัทได้รับผลกระทบ 100% จากการปิดทั้ง 4 สาขา ได้แก่ ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์, เดอะมอลล์ บางกะปิ, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และเดอะมอลล์ บางแค ทำให้บริษัทต้องปรับแผนหันมาโฟกัสการทำตลาดในช่องทางออนไลน์ทดแทน

 

ด้วยการเปิดช่องทางอี-คอมเมิร์ซของบริษัทในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเลื่อนให้เร็วกว่าแผนงานเดิมที่วางไว้ พร้อมกันนี้ยังโหมกิจกรรมการตลาดในช่องทางออนไลน์มากขึ้นในช่วงที่มีการเปิดตัว ควบคู่กับการใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นดาราคนรุ่นใหม่เข้ามาสร้างการจดจำแบรนด์และกระตุ้นการตลาดอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงเดือนกันยายน ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีทำให้สามารถสร้างยอดขายเข้ามาทดแทนยอดขายในช่วง 3 เดือนที่หายไปได้ โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทกลับมามียอดขายเติบโตแล้วกว่า 30% ก่อนจะขยายสาขาเพิ่มอีก 1 สาขาในสิ้นปีนี้ในย่านกลางเมืองที่มีศักยภาพในสิ้นปีนี้ ควบคู่กับการโหมจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งออนไลน์-ออฟไลน์ และการเปิดตัวบิ๊กอีเวนต์ของบริษัทในช่วงปลายปี

แล็บโซไซตี้รุก   อี-คอมเมิร์ซ   จ่อขยาย CLMV

ด้านแผนการดำเนินธุรกิจในปีหน้าบริษัทใช้งบลงทุนราว 30 ล้านบาท ในการทำการตลาดและขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ 10 สาขา โดยจะเริ่มขยายสาขาต่างจังหวัดตามหัวเมืองต่างๆ เช่น พัทยา ภูเก็ต อุดรธานี เชียงใหม่ เป็นต้น พร้อมกับการเปิดตัวแอพพลิเคชั่น แล็บโซไซตี้ (LAB Society) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในช่องทางการขายของบริษัท ก่อนจะขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา, สปป.ลาว, เมียนมาและเวียดนาม) ต่อไป โดยวางเป้าหมายยอดขายหลักจากช่องทางอี-คอมเมิร์ซราว 70-80% ในช่วง 3 ปีนับจากนี้

นายณิชพน แซ่ตั้ง ประธานกรรมการบริหารร่วม กล่าวว่า การทำแบรนด์สินค้าที่เป็นออร์แกนิก หรือสินค้าเพื่อสุขภาพที่ไม่ใช่แบรนด์แมสทั่วไปในท้องตลาด ถือเป็นอีกหนึ่งโจทย์ความท้าทายในตลาดสุขภาพและความงาม ดังนั้นแผนงานหลักคือการปั้นแบรนด์ที่มีคุณภาพให้เป็นที่รู้จักผ่านกิจกรรมการตลาดอย่างรอบด้านและตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย ผ่านความน่าเชื่อถือของร้านทั้งออนไลน์และออฟไลน์ คุณภาพ มาตรฐาน โดยสินค้าจะต้องเป็นเอ็กซ์คลูซีฟแมส คือการทำสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ ให้เป็นแมสนั่นเอง

 

“LAB Society เป็นแพลตฟอร์มของคนไทยอีกแพลตฟอร์มหนึ่งที่ผสมผสานระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ ให้เติบโตขึ้นเพื่อแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ๆ ในตลาดได้ แบ่งเป็นส่วนของหน้าร้าน หรือออฟไลน์ เพื่อสร้างความเชื่อถือ และส่วนของช่องทางออนไลน์ในการสร้างการเข้าถึงให้ครอบคลุมไปยังลูกค้าวงกว้าง”

อย่างไรก็ตามบริษัทวางเป้าหมายในสิ้นปีนี้เติบโต 100% โดยปัจจุบันมีสินค้าวางจำหน่าย 200-300 แบรนด์หรือราว 2,000 รายการแบ่งเป็น เพอร์ซัลนอลแคร์ 70% กลุ่มบิวตี้ คอสเมติก 30% เป็นแบรนด์ในประเทศราว 50% ส่วนที่เหลือเป็นแบรนด์จากอเมริกา ยุโรป เกาหลี เป็นต้น โดยมีราคาตั้งแต่หลักสิบไปจนถึง 3,000 บาท นอกจากนี้ยังมีแผนนำเข้าแบรนด์ใหม่ๆเข้ามาเสริมทัพในร้านอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่วัยเด็ก-ผู้ใหญ่ ทั้งชายและหญิง 

 

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,601 วันที่ 16 - 19 สิงหาคม พ.ศ. 2563