ไทยตื่น! บิ๊ก กยท.เตือนชาวสวนยางทั่วประเทศระวังโรคใบจุด เผยระบาดยางอินโดฯ เสียหาย 2 ล้านไร่ คาดผลผลิต หายวูบกว่า 5.6 แสนตัน หวั่นลามเข้าไทย สะเทือนส่งออกกว่า 4 แสนล้าน หากพบผิดปกติรีบแจ้ง สนง.ในจังหวัดทันที
นายสุนันท์ นวลพรหมสกุล รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.)ด้านบริหาร เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สำนักข่าว thejakartapost ได้รายงานโรคใบจุดระบาดที่ประเทศอินโดนีเซียเสียหายกว่า 2 ล้านไร่ คาดว่าผลผลิตเสียกว่า 5.6 แสนตัน ดังนั้นขอให้ชาวสวนยางตรวจสอบต้นยางของตนเองด้วยหากพบอะไรผิดปรกติขอให้รีบแจ้งสำนักงาน กยท.ได้ทุกจังหวัด เนื่องจากโรคนี้มีโอกาสเป็นได้ทุกอายุของช่วงต้นยาง เมื่อเป็นโรคมีความเสี่ยงสูงที่จะทำต้นยางพาราตายได้ อย่างไรก็ตามในแต่ละปีไทยจะส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางประมาณ 4-5 แสนล้านบาท
อนึ่ง สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร รายงานข้อมูล การผลิตยางพาราโลก ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เนื้อที่ปลูกยางพาราของโลกเพิ่มขึ้นอย่สงต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นจาก 77.98 ล้านไร่ในปี 2557 เป็น 89 ล้านไร่ในปี 2561 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ต่อปี สำหรับผลผลิตยางพาราของโลก เพิ่มขึ้นจาก 12.14 ล้านตันในปี 2557 เป็น 14.59 ล้านตันในปี 2561 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ4.79 ต่อปี เนื่องจาก ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่ให้ผลตอบแทนสูงเมื่อเทียบกับพืชเศรษฐกิจอื่น จึงจูงใจให้มีการขยายเนื้อที่ปลูกเพิ่ม ขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 6-7 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในประเทศผู้ผลิตหลัก ส่งผลให้เนื้อที่เปิดกรีดเพิ่มมากขึ้น
ประเทศผู้ผลิตยางพารารายใหญ่ของโลก 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ในปี 2561 มีเนื้อที่ปลูกยางพารารวม 49.87 ล้านไร คิดเป็นร้อยละ 56.03 ของเนื้อที่ปลูกยางพาราของโลกและมีผลผลิตรวม 8.94 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 61.27 ของผลผลิตโลก โดยอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีเนื้อที่ปลูกยรงพารามากที่สุดในโลก มีการขยายเนื้อที่ปลูกเพิ่มขึ้นอย่ำงต่อเนื่องร้อยละ 0.55 ต่อปี จำก 22.45 ล้านไร่ในปี 2557 เป็น 22.99 ล้านไร่ในปี 2561 แต่มีผลผลิตมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากไทย
โดยผลผลิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.85 ต่อปีจาก 3.15 ล้านตันในปี 2557 เป็น 3.61 ล้านตันในปี 2561 สำหรับมาเลเซีย มีเนื้อที่ปลูกเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากอินโดนีเซีย ไทย และเวียดนาม โดยมีเนื้อที่ปลูกเพิ่มขึ้นร้อยละ0.69 ต่อปี จาก 6.54 ล้านไร่ ในปี 2557 เป็น 6.77 ล้านไร่ในปี2561 ในขณะที่ผลผลิตลดลงร้อยละ 3.26 ต่อปี จาก 0.67 ล้านตันในปี 2557 เหลือ 0.56 ล้านตันในปี 2561