‘มาร์เวล’ บูมตลาดแว่น ดึง6แบรนด์ดังปูพรมเมืองไทย

02 มิ.ย. 2562 | 05:48 น.

      เทรนด์แว่นตาเมืองไทยโตต่อเนื่อง “กลุ่มบริษัทมาร์เวลฯ” สบช่องส่ง 6 แบรนด์น้องใหม่ทั้งทอมฟอร์ด,บาเลนเซียก้า, มองบลังค์, ทิมเบอร์แลนด์,เกส และ Haffmans เสริมแกร่งพอร์ตสินค้าครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์มั่นใจดันรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาทใน 2-3 ปี พร้อมกรุยทางเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

      นายสิทธิศักดิ์ ภูมิโภคาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทมาร์เวลฯ ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแว่นตาแบรนด์ชั้นนำในไทย อาทิ Rayban, Dior, Dior Homme, Fendi, Hugo Boss ฯลฯ เปิดเผยว่า ตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการธุรกิจแว่นตาไทยมีจำนวนลดลงเหลือเพียง 10 ราย จากในอดีตที่มีผู้เล่น 20 ราย ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนผ่านการบริหารงานจากรุ่นต่อรุ่นที่ไม่ต่อเนื่อง การขาดทายาททางธุรกิจเข้ามาสานต่อ รวมทั้งเทรนด์แฟชั่นที่รวดเร็วและเทคโนโลยีใหม่ๆ คือ ที่เข้ามาดิสรัปต์ธุรกิจแว่นตาในไทยให้ค่อยๆหายไป และแม้ผู้เล่นจะลดจำนวนลงแต่ทว่าการเติบโตของตลาดแว่นกลับเติบโตสูงขึ้น เห็นได้จากพฤติกรรมของลูกค้าที่นิยมสวมใส่แว่นตามากขึ้นทั้งแบบแฟชั่นและฟังก์ชันนัล ทำให้บริษัทเล็งเห็นโอกาสทางการเติบโตและเริ่มรุกธุรกิจแว่นตาอย่างจริงจัง โดยปัจจุบันมีแบรนด์แว่นตาในเครือแล้ว 35 แบรนด์หรือคิดเป็น 30% ของจำนวนแบรนด์แว่นตาในตลาดเมืองไทย

‘มาร์เวล’ บูมตลาดแว่น ดึง6แบรนด์ดังปูพรมเมืองไทย

      ล่าสุดในปีนี้ได้นำเข้าแว่นตาใหม่ 6 แบรนด์ ได้แก่ ทอม ฟอร์ด (TOM FORD), บาเลนเซียก้า(Balenciaga),มองบลังค์ (MontBlanc), ทิมเบอร์แลนด์(Timberland),เกส (Guess) และแบรนด์ Haffmans แว่นตาในกลุ่มฟังก์ชันแบรนด์น้องใหม่จากเยอรมนี เข้ามาเสริมพอร์ตของบริษัทให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้พอร์ตแว่นตาของบริษัทมีความหลากหลายและครบในทุกเซ็กเมนต์ตั้งแต่ Luxury Fashion, Premium Fashion และ Cool Mass ที่ตอบโจทย์ในทุกตลาด

‘มาร์เวล’ บูมตลาดแว่น ดึง6แบรนด์ดังปูพรมเมืองไทย

      พร้อมกันนี้ได้เตรียมงบการตลาดสำหรับทุกแบรนด์ในเครือราว 20-30 ล้านบาท เพื่อใช้ในการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง โดยจะโฟกัสการทำตลาดในส่วนของแบรนด์โพลารอยด์ (Polaroid) เป็นหลักด้วยงบ 10 ล้านบาท เนื่องจากมีศักยภาพทางการเติบโตสูง ภาพลักษณ์ของแบรนด์มีความเหมาะสมกับคนไทย โดยได้เตรียมเปิดตัวพรีเซนเตอร์พร้อมกับเดินหน้าจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างครบวงจรในช่วง 2-3 เดือนนับจากนี้ โดยปัจจุบันแบรนด์ที่ทำรายได้สูงสุดได้แก่ Rayban, Super และ Polaroid

‘มาร์เวล’ บูมตลาดแว่น ดึง6แบรนด์ดังปูพรมเมืองไทย

      “แนวคิดการทำตลาดนับจากนี้จะให้ความสำคัญกับการเติบโตไปพร้อมกับดีลเลอร์ที่มีอยู่ 1,200 รายที่ครอบคลุมทั่วประเทศโดยบริษัทพร้อมที่จะซัพพอร์ตดีลเลอร์ในการทำกิจกรรมทางการตลาด โปรโมชัน โดยไม่เข้าไปขยายสาขาเองเพื่อแย่งฐานลูกค้า ขณะที่จะใช้ช่องทางออนไลน์เป็นหลักในการสื่อสารแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นโดยไม่เน้นการขาย เนื่องจากพฤติกรรมลูกค้าในปัจจุบันยังนิยมเข้ามาเลือกซื้อและทดลองสวมใส่แว่นตาที่หน้าร้านก่อนการซื้อมากกว่าการซื้อหาในช่องทางออนไลน์”

‘มาร์เวล’ บูมตลาดแว่น ดึง6แบรนด์ดังปูพรมเมืองไทย

      อย่างไรก็ตามช่วง 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถสร้างการเติบโตได้ 25% โดยในปีก่อนมีรายได้ 600 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตเฉลี่ย 25% ต่อปี ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาทในช่วง 2-3 ปีนี้ พร้อมกับวางแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อระดมทุนในการขยายธุรกิจของบริษัทให้มีการเติบโตและสร้างโอกาสในตลาดมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันตลาดแว่นตาเมืองไทยมีมูลค่ากว่าปีละ 1 หมื่นล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 10% โดยไทยถือเป็นฐานการผลิตและส่งออกเลนส์สายตาสำคัญเป็นอันดับ 2 รองจากจีน

‘มาร์เวล’ บูมตลาดแว่น ดึง6แบรนด์ดังปูพรมเมืองไทย

      “ในส่วนของตลาดต่างประเทศบริษัทมีแผนงานตลาดใน CLMV ใน 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งเบื้องต้นมีบริษัทแม่ของหลายแบรนด์เริ่มติดต่อเข้ามาในการทำตลาดบ้างแล้ว ทางกลุ่มคงต้องพิจารณาและศึกษาตลาดอีกรอบว่าจะมีการเจรจากับพาร์ตเนอร์ท้องถิ่นหรือจะเข้าไปทำตลาดในรูปแบบใดต่อไป” 

หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3472 ระหว่างวันที่ 23 - 25 พฤษภาคม 2562

‘มาร์เวล’ บูมตลาดแว่น ดึง6แบรนด์ดังปูพรมเมืองไทย