ขับเคลื่อน‘ชูชัยบุรี ศรีอัมพวา’แลนด์มาร์กใหม่เที่ยวสมุทรสงคราม

13 มี.ค. 2559 | 08:00 น.
ผ่านมากว่า 5 ปี ในที่สุดโครงการชูชัยบุรี ศรีอัมพวา ก็เปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2559 หลังดีเลย์มานาน เพราะต้องปรับแบบของโครงการใหม่ และใช้เวลาในการทำความเข้าใจกับชาวบ้านพักใหญ่ จนโครงการลงทุนร่วม 1 พันล้านบาทนี้แจ้งเกิดได้สำเร็จ อ่านได้จากสัมภาษณ์นายชูชัย ชัยฤทธิเลิศ ประธานกรรมการบริหารโครงการชูชัยบุรี ศรีอัมพวา

[caption id="attachment_37468" align="aligncenter" width="329"] ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ  ประธานกรรมการบริหาร โครงการชูชัยบุรี ศรีอัมพวา ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ
ประธานกรรมการบริหาร
โครงการชูชัยบุรี ศรีอัมพวา[/caption]

 5 จุดขายท่องเที่ยวในที่เดียว

คุณชูชัย เปิดใจว่า โครงการชูชัยบุรี ศรีอัมพวา ไม่ได้เป็นแค่โรงแรมเหมือนที่หลายคนชอบคิด เพราะเขาได้มีการปรับแบบของโครงการใหม่ จากตอนแรกที่คิดจะทำโรงแรมขนาด 75 ห้อง แต่เมื่อถูกคัดค้าน เนื่องจากคนกลัวว่าเราจะไปแย่งลูกค้ารีสอร์ต หรือโฮมสเตย์ในย่านอัมพวา ทำให้เขาต้องทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่ถึงความตั้งใจในการเข้ามาพัฒนาในพื้นที่ จนคนเข้าใจ และยอมที่จะลดสเกลของโรงแรมลง เพื่อไปเพิ่มจุดขายใหม่ๆในโครงการ เพื่อให้ชูชัยบุรี ศรีอัมพวา เป็นอะไรที่เหนือกว่าการมีแค โรงแรม ขับเคลื่อน‘ชูชัยบุรี ศรีอัมพวา’แลนด์มาร์กใหม่เที่ยวสมุทรสงคราม แต่จะสร้างให้เป็นเดสติเนชันใหม่ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดสมุทรสงคราม ภายใต้จุดเด่นที่รวบรวม 5 โปรเจ็กต์มาไว้ให้เป็นหนึ่งเดียวในโครงการนี้

ทั้งนี้โครงการชูชัยบุรี ศรีอัมพวา จริงๆมีพื้นที่ 7 ไร่ แต่ปัจจุบันพัฒนาไป 3 ไร่ มูลค่าการลงทุนร่วม 1 พันล้านบาท ซึ่งมี 5 จุดขายอยู่ในโครงการเพื่อให้เป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว นักช็อป นักชิม และนักชม ได้แก่ โรงแรมชูชัยบุรี ศรีอัมพวา จำนวน 18 ห้อง แต่ละห้องจะมีการตกแต่งที่แตกต่างกันออกไป เน้นความหรูหรา สวยงาม มีสิ่งอำนวยความสะดวกในระดับเดียวกับโรงแรมระดับ 5 ดาว รวมถึงยังมีห้องแกรนด์บอลรูม จะได้ 300-400 คนรองรับงานประชุม สัมมนาและจัดเลี้ยง

ทั้งยังจะเป็นแหล่งรวมอาหารเลิศรส ซึ่งจะมี 4 ร้าน อาทิ ร้าน ณ คิดถึง ที่มีอาหารหลากหลายเมนู ร้านชิมชู เป็นร้านเบเกอรี่ ตกแต่งสไตล์วินเทจริมน้ำ ร้านแม่สมใจ ร้านขายสินค้าที่ระลึก แหล่งรวมเทพสถิตเทวสถาน หรือ ลานรัก ลานศรัทธา ที่จะเป็นเทวสถาน รวมเทพที่คนนับถือ อาทิ พระพิฆเนศ พระนารายณ์ พระศิวะ พระแม่อุมาเทวี นอกจากนี้ยังมีองค์พระศิวลึงค์ หยกทองคำประดับเพชร ประดิษฐานอยู่ด้วย 4.แหล่งรวมการค้าพาณิชย์ เพราะในโครงการมีคอมมิวนิตี ขนาด 400 ตารางเมตร มีผู้ประกอบการ 40 ร้านเน้นตกแต่งแบบวิถีไทย จำหน่ายสินค้าขึ้นชื่อของชุมชนและ 5.แหล่งรวมศิลปวัฒนธรรม เพราะจะมีการแสดงโชว์รำไทย เน้นความตระการตาและงดงาม เฉพาะโชว์ลงทุนกว่า 60 ล้านบาท เสื้อผ้า ก็ร่วม 10 ล้านบาท

[caption id="attachment_37469" align="aligncenter" width="377"] ชูชัยบุรี ศรีอัมพวา ชูชัยบุรี ศรีอัมพวา[/caption]

"โครงการนี้เป็นความตั้งใจจริงของผมที่อยากให้เกิดขึ้น ใช้เวลานานกว่า 5 ปี เฉพาะออกแบบทำมาเป็น 5 คอนเซ็ปต์ในโครงการเดียว ก็ใช้เวลากว่า 8-9 เดือน ไหนจะก่อสร้างอีก หลายคนอาจมองว่าทำไมถึงเอาเงินร่วม 1 พันล้านบาท มาลงทุนในเมืองเล็กๆนี้ แทนที่จะเป็นเมืองหลักๆ ที่มีนักท่องเที่ยวมากๆ แต่ผมมองว่าอยากทำอะไรที่แตกต่าง ทำเป็นคนแรก เพราะในป่าใหญ่ ถ้าเราทำได้ไม่ใหญ่เท่าเขา ไม่มีใครเห็นถ้าเราทำเล็ก คู่แข่งก็มาก การลงทุนก็สูงเกินไป เฉพาะค่าที่ดินก็สูงมาก ใช้เวลานานกว่าจะดำเนินธุรกิจได้กำไร ผมจึงมองว่าการทำโปรเจ็กต์ใหญ่ในป่าเล็ก ถ้ามันเกิดก็เปรี้ยงไปเลย ถือว่าการเอื้อประโยชน์ให้สังคม ดึงให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่นี้ได้ทุกวัน ไม่ใช่ขายได้เฉพาะช่วงเสาร์-อาทิตย์ ร้านค้าต่างๆเปิดให้บริการได้ทุกวัน และถ้าเกิดได้ก็จะเป็นผลงานที่ผมฝากไว้ ก็ต้องลองดู"

 หวังลูกค้า 10%ที่มาเที่ยวอยู่เดิม

คุณชูชัย ฉายภาพถึงสิ่งแรกที่เขาต้องทำหลังการเปิดตัวโครงการนี้แล้ว คือ ทำให้ ชูชัยบุรี ศรีอัมพวา เป็นที่รับรู้ในแง่ของเดสติเนชันท่องเที่ยวให้ได้เสียก่อน นี่เองเขาจึงต้องการสร้างความแปลกใหม่ของโครงการนี้ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ของอาคารต่างๆที่เน้นความวิจิตรงดงามด้วยสถาปัตยกรรมศิลปะ อาคารทัศนียภาพตระการตา หรูหรา ประณีตมีเอกลักษณ์

ทำให้การออกแบบในทุกจุดมีลักษณะ Conceptual ดีไซน์ การนำองค์เทพต่างๆมาประดิษฐสถาน โดยเฉพาะองค์พระศิวลึงค์ ฝังเพชร องค์แรกองค์เดียวที่ใหญ่สุดและแพงที่สุดในโลก หอนาฬิกา เหมือนกรุงปราก โชว์ศิลปวัฒนธรรมในแบบอลังการ ก็จะเหมาะกับการดึงนักท่องเที่ยวจากเอเชียเข้ามาได้ ส่วนอาหารต่างๆในร้านอาหาร หรือเบเกอรี่ต่างๆ ก็มีดีไซน์เหมือนโรงแรมแต่ขายราคาท้องตลาด ซึ่งก็เหมาะสำหรับเจาะตลาดนักท่องเที่ยวไทย

ส่วนเป้าหมายของการดำเนินธุรกิจ เขาย้ำว่าต้องการให้โครงการอยู่รอดก่อน เอาแค่ให้คุ้มกับค่าใช้จ่ายก็พอแล้ว ซึ่งเขาได้คำนวณแล้วพบว่าหากพึ่งรายได้จากโรงแรมหรูที่มีเพียง 18 ห้องคงมีรายได้ไม่มากพอ ทำให้โครงการนี้ต้องมีการขายบัตรเข้าชม ซึ่งคนไทยคิดราคา 150 บาท แต่ในช่วง 60 วันเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม-30 เมษายน2559 จะให้คนไทยเข้าชมฟรี และจัดแจกเพชรผู้เข้าโครงการร่วมกันลุ้นทุกวันที่ 1 และ 16ของทุกเดือน มูลค่าร่วม 1 ล้านบาท โดยผู้เข้าชมโครงการแล้วถ่ายรูปจุดเช็กอิน ลงไอจี หรือเฟซบุ๊ก แล้วใส่แฮชแท็ก #chuchaiburi รับคูปองหย่อนตู้ลุ้นรับรางวัล วันนี้ถึง 1 สิงหาคมนี้ ในกิจกรรม "เข้าฟรี มีเพชรใส่"

ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ คิดค่าเข้าชมราคา 300 บาท โครงการนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ 10.00-22.00 น.โดยเขาหวังว่าเบื้องต้นหากสามารถดึงนักท่องเที่ยวได้สัก 10% จากคนที่มาเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา อยู่เดิมที่มีราว 2-7 หมื่นคนต่อสัปดาห์ ก็น่าจะทำให้อยู่ได้ จากนั้นก็จะโหมโปรโมตความแปลกใหม่ของโครงการ เพื่อดึงให้คนนักท่องเที่ยวมาเที่ยว รวมถึงการดึงตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเน้นร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยว ดึงนักท่องเที่ยวจีนที่มีคุณภาพ นักท่องเที่ยวเกาหลีญี่ปุ่นมาเที่ยว ซึ่งต้องใช้เวลาในการทำตลาดราว 1 ปี

 Canal Night Market ของโลก

ทั้งยังมีความฝันในใจ ว่าต้องการสร้างแบรนด์อิมเมจของ ตลาดน้ำอัมพวา ให้พื้นที่นี้เป็น Canal Night Market แห่งแรกของโลก ซึ่งก็ต้องค่อยๆพัฒนาไป ซึ่งก็มีหลายกิจกรรมที่เขาคิดจะทำอีเวนต์ที่นี่ได้ อาทิ งานเทศกาลหน้ากาก เหมือนที่เมืองเวนิช งานมาดิกราส์ ที่บราซิล แต่ของที่นี่จะเป็นการจัดงานน้ำ แต่งแนวไทย เป็นต้น ที่ในอนาคตเขาอยากจัดอีเวนต์ธีมวิถีไทยที่นี่ในทุกเดือนให้ครบ 12 เดือน เพราะจากประสบการณ์ในการทำธุรกิจร้านเพชร "เจม พีช บาย ชูชัย" เขามองว่าอีเวนต์จะเป็นจุดขายในการดึงดูดให้เกิดการท่องเที่ยวได้นั่นเอง

รวมทั้งคุณชูชัย ยังมองหากโครงการชูชัยบุรี ศรีอัมพวา ในพื้นที่ 3 ไร่ ซึ่งเป็นการลงทุนในเฟสแรก ประสบความสำเร็จ ในอนาคตความต้องการห้องพักที่จะเพิ่มขึ้น เขาก็ยังมีพื้นที่เหลือในโครงการนี้อีกกว่า 3 ไร่ ที่จะพัฒนาสร้างห้องพักเพิ่มหรือจุดขายใหม่อื่นได้ หรือจะไปลงทุนสร้างโรงแรมในที่ใหม่ก็ได้ เพราะ เขาได้ซื้อที่ดินอีกร่วม 5-6 แปลง บริเวณ ย่านค่ายบางกุ้ง และวัดจุฬามณี ที่อาจจมองการพัฒนาเป็นโรงแรมในอนาคตได้ โดยการเดินทางสามารถเชื่อมกันได้ทางแม่น้ำแม่กลอง เขามองถึงการขยายห้องพักอีก 50-70 ห้องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเขายอมรับว่าค่อนข้างผูกพันกับเมืองเล็กๆแห่งนี้ จึงมองโอกาสในการลงทุน และสร้างเมืองแห่งนี้ ให้คนมาเที่ยวและแวะพัก ไม่ใช่มาแค่วันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันเดย์ ทริป อย่างที่ผ่านมา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,139 วันที่ 13 - 16 มีนาคม พ.ศ. 2559