'วอริกซ์' ท้ารบสปอร์ตแฟชั่น! ชู "สปอร์ตแวร์" ขยายฐานลูกค้า

21 ธ.ค. 2561 | 07:39 น.
'วอริกซ์' กางแผนรุกตลาดสปอร์ตแฟชั่นเมืองไทย บุกอี-คอมเมิร์ซ ขยายไลน์สินค้า ขยายฐานลูกค้า พร้อมทุ่ม 30 ล้านบาท ชูกลยุทธ์ตลาดครบวงจร เตรียมกรุยทางเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปีหน้า



Main Poster
นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าแบรนด์กีฬาสัญชาติไทย 'วอริกซ์' เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างแบรนด์วอริกซ์ในไทยนับจากนี้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ผ่านรูปแบบของสปอร์ตแวร์แฟชั่นที่สามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน ให้มีความหลากหลายผสมผสานเอาความเป็นแฟชั่นเข้าไปในแต่ละคอลเลกชัน เพื่อขยายฐานลูกค้าของแบรนด์ให้มีวงกว้างทั้งในกลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มวัยผู้ใหญ่ ที่มีอายุตั้งแต่ 15-45 ปี เพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่กลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัทเป็นกลุ่มแฟนบอลและกลุ่มผู้ใช้ดั้งเดิม ที่มีอายุ 18-35 ปี


th pr1

"สปอร์ตแฟชั่นเป็นกระแสที่มาแรงมาก แน่นอนว่า แผนงานหลักของบริษัท คือ การขยายไลน์สินค้าเพื่อรุกเข้าไปยังตลาดดังกล่าวมากขึ้น ทั้งในกลุ่มสปอร์ต แวร์, สตรีต แวร์ และแอกทีฟ แวร์ เพื่อเป็นการรองรับเทรนด์ตลาดแฟชั่นเมืองไทย พร้อม ๆ กับเป็นการขยายฐานลูกค้าของบริษัทให้มีวงกว้างมากขึ้น"


Poster2

ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทย ปี 2562 ในชื่อว่า ChangsuekThe First Eleven ด้วยงบประมาณการตลาด 10 ล้านบาท ผ่านแคมเปญ Now or Never พร้อมขยายกลุ่มสินค้าให้ครอบคลุมกลุ่มไลฟ์สไตล์แวร์ โดยเตรียมนำเสนอ "Street Collection" ที่มีสินค้าหลากหลาย ทั้งเสื้อลำลอง เสื้อออกกำลังกาย รองเท้ากีฬา สนีกเกอร์ ถุงเท้า และสินค้าอื่น ๆ ที่จะเปิดตัวในช่วงกลางปี 2562 เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกไลฟ์สไตล์ โดยชูจุดเด่นความเป็นแบรนด์ไทยที่มีคุณภาพ เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย แต่มีราคาถูกกว่าอินเตอร์แบรนด์ 50%

 

[caption id="attachment_362827" align="aligncenter" width="299"] วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล[/caption]

ทั้งนี้ ในปี 2562 บริษัทเตรียมใช้งบ 30 ล้านบาท ในการสื่อสารแบรนด์แบบครบวงจรมากขึ้น โดยจะให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์เป็นหลัก พร้อมกันนี้ ยังได้มีการขยายพื้นที่สาขาสเตเดี้ยม วัน จุฬาฯ ซอย 4 ซึ่งถือเป็นแฟล็กชิพสโตร์ พร้อมกับอาคารสำนักงานของแบรนด์ ให้มีพื้นที่ทั้งหมด 1,500 ตร.ม. และมีพื้นที่ขายอยู่ 750 ตร.ม. ให้มีความกว้างมากยิ่งขึ้น


Warrix3

พร้อมกันนี้ ยังได้มีการขยายตลาดไปยังช่องทาง อี-คอมเมิร์ซ มากขึ้นตลอดช่วง 5 ปีนับจากนี้ เพื่อรองรับการเติบโตของการเข้ามาของ อี-คอมเมิร์ซ ในไทย โดยในปีหน้าบริษัทมีแผนใช้เงินลงทุน 10 ล้านบาท ทั้งการพัฒนามาร์เก็ตเพลสของบริษัทเอง และการเข้าร่วมในเว็บไซต์ออนไลน์อย่าง LAZADA และ SHOPEE เป็นต้น หลังจากปีนี้บริษัทได้ใช้งบประมาณในการพัฒนาระบบหลังบ้านเพื่อรองรับการเข้ามาของ อี-คอมเมิร์ซ ไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท โดยวางเป้าหมายช่วง 5 ปีนับจากนี้ จะสามารถเพิ่มสัดส่วนยอดขายของช่องทางดังกล่าวเป็น 50% จากปัจจุบันที่ยังมีสัดส่วนน้อยอยู่


th blue1 (1)

อย่างไรก็ตาม บริษัทวางเป้าหมายยอดขายในสิ้นปีนี้ไว้ที่ 665 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 564 ล้านบาท ขณะที่ ปัจจุบันยอดขายที่มาจากต่างประเทศยังมีสัดส่วนเพียงแค่ 5% ซึ่งเป็นยอดขายที่มาจากเมียนมา มาเลเซีย ลาว และสิงคโปร์ โดยในปีหน้าบริษัทจะโฟกัสการทำตลาดไปยังประเทศเมียนมามากขึ้น ภายหลังบริษัทได้รับสิทธิ์ผลิตชุดแข่งทีมชาติเมียนมาเป็นเวลา 6 ปี และประเดิมชุดแรกในศึกซูซูกิ คัพ 2018 ที่ผ่านมา ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตในเมียนมาได้สูงขึ้นอย่างแน่นอน ด้านเป้าหมายในปีหน้า คาดการณ์ว่าจะปิดรายได้มากกว่า 800 ล้านบาท พร้อมกับวางเป้าหมายในการเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีจุดมุ่งหมายในระยะยาว คือ การก้าวสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก ด้วยแนวคิด From Local to Global

หน้า 35 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,428 ระหว่างวันที่ 20-22 ธันวาคม 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว