บทวิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองคำแท่ง ประจำวันที่ 26 ตุลาคม 2561 โดยบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
คำแนะนำ
หากราคาสามารถยืนเหนือ 1,227-1,217 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ให้เปิดสถานะซื้อ โดยตัดขาดทุนหากหลุดโซน 1,217 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกทั้งควรพิจารณาการแกว่งตัวของค่าเงินบาทเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน
ช่วงที่ราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมีแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาไว้ แต่เมื่อพยายามจะดีดตัวขึ้นไปเข้าใกล้โซนแนวต้านระดับ 1,240-1,246 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก็ยังคงไม่มีแรงซื้อเข้ามาหนุนมากพอ ทั้งนี้ หากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับระดับ 1,227 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างมั่นคง จะเกิดแรงขายกดดันให้ราคาลงมาสู่แนวรับถัดไปโซน 1,217 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ 1,227 1,217 1,208
แนวต้าน 1,246 1,254 1,266
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 1.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากในระหว่างวันขึ้นไปใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือนบริเวณ 1,239.19 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะถูกกดดันจากแรงขายทำกำไร และการแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนของดัชนีดอลลาร์ หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีเกินคาด อาทิ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ขยายตัวเกินคาดที่ 0.8%ในเดือนก.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดรอบ 49 ปี ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐหลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้เป็นปัจจัยกดดันทองคำเพิ่มเติม ด้านตลาดหุ้นสหรัฐทั้งดัชนีดาวน์โจนส์, S&P500 และNasdaq ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จากแรงซื้อเพื่อเก็งกำไรหลังจากตลาดหุ้นร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ นอกจากนี้ผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนทั้งไมโครซอฟท์, เทสลา และคอมแคสต์ ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐให้พุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้นักลงทุนขายทำกำไรทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยออกมาบ้าง สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยประมาณการครั้งแรกจีดีพีช่วงไตรมาส 3/2018, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายและคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อช่วงท้ายเดือนต.ค.จาก ม.มิชิแกน
ที่มา : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด