"ดีมานด์เทียม-กำลังซื้อจีน" ระเบิดเวลาทุบตลาดคอนโดฯ!!

08 ต.ค. 2561 | 12:15 น.
แม้ภาวะตลาดคอนโดมิเนียมในปัจจุบันยังไม่ฟื้นตัว อีกทั้งกำลังซื้อมีอยู่จำกัด แต่ผู้ประกอบการเองก็ไม่ยอมที่จะชะลอหรือว่าหยุดการเปิดขายโครงการใหม่ คาดทั้งปี 2561 นี้ ทะลุกว่า 5 หมื่นยูนิต

สถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รอบ 1-2 ปีนี้ ค่อนข้างร้อนแรง เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีโครงการเปิดขายใหม่คึกคัก ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ประเมินว่า ปี 2561 มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่กว่า 1.17 แสนยูนิต ในจำนวนนี้เป็นโครงการบ้านจัดสรรกว่า 4.9 หมื่นยูนิต และคอนโดมิเนียมกว่า 6.7 หมื่นยูนิต ใกล้เคียงปีที่ผ่านมา ทั้งที่ปี 2558 และปี 2559 มีคอนโดมิเนียม เปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดประมาณกว่า 3 หมื่นยูนิตเท่านั้น

จากความร้อนแรงของตลาดคอนโดมิเนียม สร้างความกังวลใจให้กับธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างยิ่ง โดยช่วงกลางปีออกมาส่งสัญญาณหนี้เสียสินเชื่อ บ้านพุ่ง และล่าสุด การเก็งกำไรในคอนโดฯ หรือ คอนโดฯเงินทอน


MP31-3407

จับตาดีมานด์เทียม
จากการที่ผู้ประกอบการแห่เปิดตัวโครงการใหม่ เพื่อหวังปั้นตัวเลขยอดขาย โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดมิเนียม ล่าสุด จำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่สะสมใน 3 ไตรมาส ของปี 2561 อยู่ที่ประมาณ 45,899 ยูนิต และในไตรมาสที่ 4 ยังมีอีกหลายโครงการที่มีแผนจะเปิดขายเติมเข้ามาอีก ขณะที่ กำลังซื้อมีจำกัดอยู่ที่ประมาณ 60% เพราะประสบปัญหาหนี้ครัวเรือน สร้างความกังวลให้กับผู้ประกอบการ ต้องเร่งระบายของเหลือขาย ทั้งที่สร้างเสร็จแล้วและกำลังก่อสร้าง ออกไปให้มากที่สุด

แนวทางหนึ่ง คือ การระบายให้กับผู้ซื้อชาวต่างชาติ และลูกค้าหลักในปัจจุบัน คือ กลุ่มคนจีน ที่เข้ามาช่วยเติมกำลังซื้อที่ขาดหายไปของผู้ซื้อชาวไทย สร้างความปลื้มปริ่มให้กับผู้ประกอบการไทยยิ่งนัก จนไม่สามารถชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ได้

อีกทางหนึ่ง ตัดขายล็อตใหญ่ให้กับเอเยนต์ หรือ กลุ่มผู้ซื้อลงทุน จนเกิดกระแสชักชวนลงทุนในคอนโดฯ สามารถได้ผลตอบแทนสูง โดยผ่านการอบรมก่อนจะลงทุนซื้อจริง จนเกิดปรากฏการณ์คอนโดฯเงินทอน

ไม่ว่าจะเป็น กำลังซื้อคนจีน หรือ ลงทุนคอนโดฯเงินทอน ถือเป็นความต้องการที่ไม่ยั่งยืน หากวันใดวันหนึ่งที่ผลตอบแทนไม่เป็นไปตามคาดหมายของนักลงทุน ก็อาจจะเมินคอนโดฯ ได้เช่นกัน

นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนลประเทศไทย กล่าวว่า ต้องยอมรับวันนี้ลูกค้าจีนมีบทบาทต่อตลาดคอนโดฯ ของไทย นอกจากกรุงเทพฯ แล้ว ยังมีในเมืองท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต ในอนาคตถ้าหากนักลงทุนจีนมองว่า ผลตอบแทนที่ได้รับไม่เป็นที่น่าพอใจ ก็อาจจะเลิกซื้อลงทุน ดังเช่นสมัยหนึ่งที่ลูกค้ารัสเซียทิ้งตลาดคอนโดฯ ในพัทยา ทำให้เกิดปัญหาล้นตลาด แต่ต่อมาได้จีนมาหนุนแทน อนาคตถ้าลูกค้าจีนทิ้งตลาดอสังหาฯไทย จะมีชาติไหนสามารถมาทดแทนได้

"ดีมานด์เทียมจะก่อปัญหาต่อตลาดอสังหาฯ ของไทยในระยะยาว โดยเฉพาะกลุ่มที่ลงทุนคอนโดฯเงินทอน หรือ แรงซื้อต่างชาติ เช่น จีนจะยืนนานแค่ไหน หรือ เมื่อถึงวันที่โครงการสร้างเสร็จแล้ว จะรับโอนครบหรือไม่"

ขณะที่ นายสุรเชษฐ กองชีพ นักวิจัยอสังหาริมทรัพย์ ให้ความเห็นว่า ผู้ประกอบการเปิดขายโครงการใหม่มากเกินไปแต่ยังไม่พบภาวะฟองสบู่อสังหาฯ แต่อาจเกิดปัญหาสินค้าล้นตลาดในบางพื้นที่ได้ เกิดจากการเปิดขายไม่สอดคล้องกับกำลังซื้อของคนไทยในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีคอนโดมิเนียมเหลือขายในตลาดมากแบบที่เห็น อีกทั้งการเน้นที่กลุ่มผู้ซื้อที่เป็นนักลงทุน หรือว่า นักเก็งกำไรคอนโดมิเนียมก่อนหน้านี้ ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้อาจจะมีคอนโดมิเนียมเหลือขายในตลาดมากกว่าที่สำรวจได้ เพราะมีคอนโดมิเนียมที่อยู่ในมือของผู้ซื้อเพื่อเก็งกำไรหรือลงทุนระยะยาวนั้นอีกไม่น้อย และพร้อมเข้าสู่ตลาดตลอดเวลา ภาวะตลาดคอนโดมิเนียมในปัจจุบันจึงเป็นที่กังวลใจของธนาคารแห่งประเทศไทยและอีกหลายหน่วยงาน


090861-1927-9-335x503-3

ลุยอสังหาฯเช่า
จากสถานการณ์ตลาดแข่งขันสูงในทุกกลุ่มและทุกทำเล อีกทั้งกำลังซื้อจำกัด ซํ้าหนัก ธนาคารพาณิชย์คุมเข้มการอนุมัติสินเชื่อ ทำให้ตลาดมีการเติบโตช้าหรือค่อนข้างทรงตัว ผลักดันให้ผู้ประกอบการรายใหญ่เตรียมแผนขยับขยายสู่ธุรกิจอื่น ๆ เช่น ธุรกิจอาหาร, ธุรกิจค้าปลีก และอสังหาฯเช่า ทั้งนี้ บริษัทที่เริ่มเดินเครื่องแล้วก็มี บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ประกาศลงทุนโรงแรม 3 โครงการ โดยเซ็นสัญญานำแบรนด์และเชนเครือโรงแรมอินเตอร์ คอนติเนนตัล (IHG) เข้ามาบริหาร 2 แบรนด์ คือ ฮอลิเดย์อินน์ และสเตย์บริดจ์ สวีท (Staybridge Suites) แบรนด์ใหม่ของไอเอชจีที่เข้ามาครั้งแรกในไทยและเอเชีย

นอกจากนี้ ยังมีแผนพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส-อาคารสำนักงาน อีกรายบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เตรียมพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส "สิงห์ คอมเพล็กซ์" ที่ย่านห้าแยกลาดพร้าว หรือ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่เตรียมผุดโรงแรมในกรุงเทพฯ และบริษัท พฤกษาโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ประกาศรุกธุรกิจโรงพยาบาล และในอนาคตอาจจะมีมากกว่าที่กล่าวมา โดยส่วนใหญ่จะเน้นอสังหาฯ เพื่อเช่าเป็นหลัก หวังสร้างรายได้ต่อเนื่อง


หน้า 31 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3407 ระหว่างวันที่ 7 - 10 ตุลาคม 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว