ทีเอฟลุยตลาดความงาม ผนึกพันธมิตร-นักวิจัยแตกไลน์สินค้าใหม่

22 พ.ย. 2560 | 05:03 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ทีเอฟ เดินหน้าลงทุน 150 ล้าน เพิ่มไลน์ผลิตเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ชูกลยุทธ์พันธมิตรจากทั่วโลก สร้างการเติบโตปี 61 ทะลุ 500 ล้านบาท

ตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและความงามของไทย มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดภายในประเทศและการส่งออก เพราะไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน หันมาใส่ใจและดูแลเพิ่มมากขึ้น สินค้าเครื่องสำอางและความงาม ถูกนำมาใช้กลายเป็นสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน มากกว่าสินค้าฟุ่มเฟือย ที่สำคัญปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ผลิตที่มีความรู้ความสามารถ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาได้ไม่แตกต่างจากบริษัทชั้นนำในระดับอินเตอร์เนชันแนล จนได้รับการว่าจ้างให้ผลิตสินค้าแบรนด์ชั้นนำของโลก ส่งกลับไปขายทั่วทุกมุมโลก

นางสาวอัครภัสสร์ ชนะจินดาโสภณ ประธานกรรมการบริษัททีเอฟคอสเมโทโลจี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตเครื่องสำอาง ของใช้ส่วนบุคคล และสินค้าสุขภาพ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้รับจ้างผลิตสินค้าเครื่องสำอางและความงามที่ได้รับมาตรฐาน GMP อย่างถูกต้อง 182 แห่ง โดยมีลูกค้าทั้งผู้ประกอบการภายในประเทศและต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันภาพรวมตลาดสินค้าสุขภาพและความงามทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 9 แสนล้านบาท ส่วนในภูมิภาคอาเซียนมีมูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาทและตลาดประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 2.7 แสนล้านบาท ถือได้ว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าที่สำคัญของภูมิภาค

[caption id="attachment_232648" align="aligncenter" width="393"] อัครภัสสร์ ชนะจินดาโสภณ ประธานกรรมการบริษัททีเอฟคอสเมโทโลจี (ประเทศไทย) จำกัด อัครภัสสร์ ชนะจินดาโสภณ ประธานกรรมการบริษัททีเอฟคอสเมโทโลจี (ประเทศไทย) จำกัด[/caption]

สำหรับบริษัทได้ดำเนินธุรกิจรับจ้างผลิตสินค้าเครื่องสำอางและความงาม ให้กับลูกค้ามานานกว่า 10 ปี โดยมีความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำของโลก ทั้งจากประเทศอิตาลี ฝรั่งเศส เกาหลี และญี่ปุ่น ซึ่งไม่ได้ดำเนินธุรกิจเฉพาะการรับจ้างผลิตเท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนาโมเดลธุรกิจตั้งแต่ต้นจนถึงการจัดจำหน่าย โดยมีฐานลูกค้าตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจจนถึงปัจจุบันกว่า 5,000 ราย หรือเฉลี่ยปีละกว่า 500 ราย เป็น กลุ่มผู้ประกอบการคนไทย 60% และผู้ประกอบการต่างชาติ 40%

ทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทจะมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้า ด้วยการร่วมมือกับห้องแล็บชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับการพัฒนาสูตรสินค้าต่างๆ ล่าสุดได้ร่วมมือกับนักวิจัยจากอิตาลีเพื่อแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและความรู้ในด้านการผลิตเครื่องสำอางและสินค้าเพื่อความงาม จากก่อนหน้านี้ได้เป็นตัวแทนรับจ้างผลิตสินค้าจากโรงงานในประเทศฝรั่งเศสให้กับผู้สนใจด้วย

ด้านแผนธุรกิจในปี 2561 ได้ชูกลยุทธ์การทำธุรกิจด้วยการสร้างความแตกต่างจากการพัฒนาสินค้า และการร่วมมือกับพันธมิตรห้องแล็บ และนักวิจัยจากทั่วโลกในการพัฒนาสินค้า รวมถึงได้เตรียมงบประมาณ 150 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจ โดยแบ่งเป็นงบประมาณด้านการตลาด การขยายธุรกิจ และสร้างแบรนด์มูลค่า 100 ล้านบาท และงบประมาณด้านการขยายโรงงานอีก 50 ล้านบาท ที่จะเพิ่มไลน์การผลิตสินค้าเครื่องสำอางกลุ่มสีสัน ที่ได้ร่วมมือกับดีไซเนอร์จากประเทศเกาหลี เข้ามาเป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งเริ่มต้นจากกลุ่มลิปสติกและแป้งก่อน โดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิตลิปสติกวันละ 5,000 แท่ง และกำลังการผลิตแป้งวันละ 1 หมื่นตลับ นอกจากกลุ่มเครื่องสำอางสีสันแล้ว บริษัทยังวางแผนขยายไลน์การผลิตสินค้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพิ่มเติมด้วย เนื่องจากที่ผ่านมามีความต้องการจากลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ผลการดำเนินงานในปีหน้า บริษัทคาดว่าจะสร้างการเติบโตโดยมียอดขายประมาณ500 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะมียอดขาย 300 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 20-30% ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตรา 15-20%ปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าแบ่งเป็นกลุ่มดารา ศิลปิน และสัดส่วน 60% กลุ่มผู้ประกอบการทั่วไป 20% และกลุ่มหน่วยงานภาครัฐ โรงพยาบาล และคลินิก สัดส่วน 20%

สำหรับผลการดำเนินงานในรอบปีนี้ถือว่าบริษัทมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าใหม่เข้ามาใช้บริการให้ผลิตสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มศิลปินดารา และเซเลบ รวมถึงกลุ่มคลินิกและโรงพยาบาลต่างๆเนื่องจากบริษัทมีสูตรสำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ กว่า 5,000 สูตร ที่ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการผลิตสินค้าได้ตามความต้องการ ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้ามีทั้งนำเข้าจากต่างประเทศ และการใช้วัตถุดิบที่เป็นสมุนไพรไทย อาทิ กวาวเครือ ใบบัวบกและขมิ้นชัน ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 40% โดยได้ทำงานร่วมกับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสมุนไพรและโรงงานสกัดสารสำคัญจากสมุนไพรซึ่งในอนาคตจะมีการพัฒนาสินค้าที่ใช้สมุนไพรออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,315 วันที่ 19 - 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว