ศรีจันทร์ปูพรมสินค้าดันยอดขายครึ่งปีหลังแตะ 500 ล้าน

17 มิ.ย. 2560 | 00:12 น.
อัปเดตล่าสุด :17 มิ.ย. 2560 | 07:20 น.
ศรีจันทร์ ปรับแผน เปลี่ยนคอนเซ็ปท์ แบรนด์ "ศศิ" เจาะตลาดแมส ตั้งราคาต่ำกว่า 100 บาท ประกาศพร้อมวางตลาดสิงหาคมนี้ พร้อมขยายเอสเคยูแบรนด์ศรีจันทร์เพิ่มอีก 60 เอสเคยู ปูพรมตลาดครึ่งปีหลัง มั่นใจดันรายได้แตะ 500 ล้าน เติบโตจากปีที่แล้วที่มีรายได้ 300 ล้าน

28C0AA35-F764-4DEC-A275-54EFAEC9F6C3-266-0000005975C6DD41 นายรวิศ  หาญอุตสาหะ กรรมการผู้จัดการ  บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด ผู้พลิกตำนาน “ศรีจันทร์” เปิดเผยว่า เดือนสิงหาคมนี้ บริษัทฯ จะออกสินค้าไฟติ้งแบรนด์ กำหนดราคาสินค้าไม่เกิน 100 บาท เพื่อรองรับตลาดแมส โดยนำแบรนด์ "ศศิ" (Sasi) ที่ก่อนหน้านี้จะนำมาทพเป็นแบรนดเครื่องสำอางตลาดเฉพาะ (Nitch Market) มาทำเป็นแบรนด์สำหรับตลาดแมส ที่ยังมีความต้องการในตลาดสูง โดยมีแผนจะออกสินค้าภายใต้แบรนด์นี้อีก 20 เอสเคยู วางจำนวนในเทรดดิชั่นนอลเทรด(ร้านค้าปลีกดั่งเดิม)

IMG_5967 พร้อมกันนี้ ยังมีแผนเพิ่มเอสเคยูแบรนด์ "ศรีจันทร์" ให้อีกกว่า 60 เอสเคยูภายในปีนร้ และปีหน้ามีเป้าเพิ่มเป็นอีกกว่า 100 เอสเคยู

"สินค้าของเราถือเป็นแบรนด์เครื่องสำอางค์ ที่มีมีเอสเคยูน้อยที่สุดในตลาด เพราะฉะนั้น การเพิ่มเอสเคยูใหม่ๆ จึงเป็นการทำตลาดให้ครอบคลุม" นายรวิศกล่าวและว่า

บริษัทฯ ยังไม่มีแผนลงทุนลงงานเพิ่ม จากโรงงานผลิตที่ขณะนี้มีอยู่แห่งเดียวในย่านลาดพร้าว แต่ใช้ลักษณะการจ้างผลิต (โออีเอ็ม) ในโรงานต่างๆ ที่มีความเขี่ยวชาญเ้านการผลิตเครื่องสำอางเป็นหลัก ซึ่งประเมินแล้วต้นทุนไม่ต่างกัน

ส่วนแผนการลงทุน สนใจที่จะลงทุนในศูนย์อาร์แอนด์ดีหรือศูนย์วิจัยผลิตภัณฑ์มากกว่า เพราะการแข่งขันในตลาดเครื่องสำอาง เรื่องของนวัตกรรมถือเป็นหัวใจสำคัญ

ภายในปีนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนนำผลิตภัณฑ์ผงหอมศรีจันทร์ ซึ่งวางขายในตลาดอยู่แล้ว มาเพิ่มแพ็คเกจจิ้งใหม่ เป็นแบบซองใช้ครั้งเดียว ขายในราคาไม่เกิน 10 บาท และปีหน้า จะนำเสนอสินค้านวัตกรรม ที่ผลิตจากวัตถุดิบในไทยออกวางจำหน่าย เป็นสินค้าไฮไลท์ที่จะช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทย หันมาใช้วัตถุดิบในประเทศมากขึ้น

นายรวิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้สภาพตลาดเครื่องสำอางค่อนข้างทรงตัว แต่จากแผนการขยายไลน์สินค้าเพิ่มเอสเคยูใหม่ๆ และการเพิ่มแบรนด์ "ศศิ"ในตลาด มั่นใจว่า ปีนี้จะสร้างยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท จากปีที่แล้ว มียอดขาย 300 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าตลาดรวมเครื่องสำอางทั้งนำเข้าและส่งออกของไทยมีกว่า 2.5 แสนล้าน หรือคิดเป็น 2.2% ของจีดีพี เพราะฉะนั้นโอกาสในการขยายตัวของแบรนด์เครื่องสำอางไทยยังมีอยู่มาก

ก่อนหน้านี้ นายรวิศ วางแบรนด์ศศิ (Sasi) ภายใต้ บริษัท ศศิ แล็ป จำกัด เพื่อรองรับกลุ่มตลาดนิชมาร์เก็ต ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับบุคคล โดยลูกค้าสามารถกำหนดได้ว่าต้องการผลิตภัณฑ์คุณสมบัติอย่างไร จากนั้นจึงผลิตให้ตามต้องการ
Sasi เป็น คัสตอมไมซ์ คอสเมติก คือ ทำขึ้นมาสำหรับคนนั้นคนเดียว