ศรีจันทร์ ปรับแผน เปลี่ยนคอนเซ็ปท์ แบรนด์ "ศศิ" เจาะตลาดแมส ตั้งราคาต่ำกว่า 100 บาท ประกาศพร้อมวางตลาดสิงหาคมนี้ พร้อมขยายเอสเคยูแบรนด์ศรีจันทร์เพิ่มอีก 60 เอสเคยู ปูพรมตลาดครึ่งปีหลัง มั่นใจดันรายได้แตะ 500 ล้าน เติบโตจากปีที่แล้วที่มีรายได้ 300 ล้าน
นายรวิศ หาญอุตสาหะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด ผู้พลิกตำนาน “ศรีจันทร์” เปิดเผยว่า เดือนสิงหาคมนี้ บริษัทฯ จะออกสินค้าไฟติ้งแบรนด์ กำหนดราคาสินค้าไม่เกิน 100 บาท เพื่อรองรับตลาดแมส โดยนำแบรนด์ "ศศิ" (Sasi) ที่ก่อนหน้านี้จะนำมาทพเป็นแบรนดเครื่องสำอางตลาดเฉพาะ (Nitch Market) มาทำเป็นแบรนด์สำหรับตลาดแมส ที่ยังมีความต้องการในตลาดสูง โดยมีแผนจะออกสินค้าภายใต้แบรนด์นี้อีก 20 เอสเคยู วางจำนวนในเทรดดิชั่นนอลเทรด(ร้านค้าปลีกดั่งเดิม)
พร้อมกันนี้ ยังมีแผนเพิ่มเอสเคยูแบรนด์ "ศรีจันทร์" ให้อีกกว่า 60 เอสเคยูภายในปีนร้ และปีหน้ามีเป้าเพิ่มเป็นอีกกว่า 100 เอสเคยู
"สินค้าของเราถือเป็นแบรนด์เครื่องสำอางค์ ที่มีมีเอสเคยูน้อยที่สุดในตลาด เพราะฉะนั้น การเพิ่มเอสเคยูใหม่ๆ จึงเป็นการทำตลาดให้ครอบคลุม" นายรวิศกล่าวและว่า
บริษัทฯ ยังไม่มีแผนลงทุนลงงานเพิ่ม จากโรงงานผลิตที่ขณะนี้มีอยู่แห่งเดียวในย่านลาดพร้าว แต่ใช้ลักษณะการจ้างผลิต (โออีเอ็ม) ในโรงานต่างๆ ที่มีความเขี่ยวชาญเ้านการผลิตเครื่องสำอางเป็นหลัก ซึ่งประเมินแล้วต้นทุนไม่ต่างกัน
ส่วนแผนการลงทุน สนใจที่จะลงทุนในศูนย์อาร์แอนด์ดีหรือศูนย์วิจัยผลิตภัณฑ์มากกว่า เพราะการแข่งขันในตลาดเครื่องสำอาง เรื่องของนวัตกรรมถือเป็นหัวใจสำคัญ
ภายในปีนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนนำผลิตภัณฑ์ผงหอมศรีจันทร์ ซึ่งวางขายในตลาดอยู่แล้ว มาเพิ่มแพ็คเกจจิ้งใหม่ เป็นแบบซองใช้ครั้งเดียว ขายในราคาไม่เกิน 10 บาท และปีหน้า จะนำเสนอสินค้านวัตกรรม ที่ผลิตจากวัตถุดิบในไทยออกวางจำหน่าย เป็นสินค้าไฮไลท์ที่จะช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทย หันมาใช้วัตถุดิบในประเทศมากขึ้น
นายรวิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้สภาพตลาดเครื่องสำอางค่อนข้างทรงตัว แต่จากแผนการขยายไลน์สินค้าเพิ่มเอสเคยูใหม่ๆ และการเพิ่มแบรนด์ "ศศิ"ในตลาด มั่นใจว่า ปีนี้จะสร้างยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท จากปีที่แล้ว มียอดขาย 300 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าตลาดรวมเครื่องสำอางทั้งนำเข้าและส่งออกของไทยมีกว่า 2.5 แสนล้าน หรือคิดเป็น 2.2% ของจีดีพี เพราะฉะนั้นโอกาสในการขยายตัวของแบรนด์เครื่องสำอางไทยยังมีอยู่มาก
ก่อนหน้านี้ นายรวิศ วางแบรนด์ศศิ (Sasi) ภายใต้ บริษัท ศศิ แล็ป จำกัด เพื่อรองรับกลุ่มตลาดนิชมาร์เก็ต ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับบุคคล โดยลูกค้าสามารถกำหนดได้ว่าต้องการผลิตภัณฑ์คุณสมบัติอย่างไร จากนั้นจึงผลิตให้ตามต้องการ
Sasi เป็น คัสตอมไมซ์ คอสเมติก คือ ทำขึ้นมาสำหรับคนนั้นคนเดียว