นายกฯให้ดูใหม่ "เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ" สาวชุดขาวเฮ! 3 ปี รัฐบรรจุ 10,992 อัตรา

23 พ.ค. 2560 | 10:29 น.
อัปเดตล่าสุด :23 พ.ค. 2560 | 17:40 น.
วันที่ 23 พ.ค.60--พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเสนอให้เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเป็นรายละ 1,200-1,600 บาทต่อรายว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีจำนวนผู้สูงอายุมากที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งภายใน 4-5 ปีจะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นด้วย โดยผู้สูงอายุที่ขึ้นทะเบียนแล้วมี 4.9 ล้านคน แต่มีผู้สูงอายุที่เดือดร้อนจริง 3.5 ล้านคน จึงต้องพิจารณาว่าจะจ่ายทั้งหมด หรือจะเพิ่มให้กับผู้สูงอายุที่เดือดร้อนจริงเพียง 3.5 ล้านคน

 

 

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า หากคำนึงว่าต้องได้รับเท่ากันทั้งหมด มันทำไม่ได้ เพราะต้องนำเงินไปสนับสนุนการมีบุตรเพิ่มด้วย ที่สำคัญรัฐบาลต้องควบคุมการใช้จ่าย โดยไม่เป็นภาระให้หน่วยงานของรัฐ ซึ้งหากผู้สูงวัยบางรายมีรายได้เพียงพออยู่แล้ว อาจจะสละสิทธิแล้วรัฐบาลมอบเหรียญตราให้ได้หรือไม่ เพื่อลดรายจ่ายลดแล้วมาเพิ่มให้ผู้สูงอายุที่มีรายได้ต่ำ เพราะหากทุกคนเอาแต่สิทธิรัฐบาลก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมา เพราะรัฐบาลไม่มีสิทธิขึ้นภาษี จึงอยากให้รับฟังความคิดเห็นกันทั้งหมด

 
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมครม.ว่า ครม.เห็นชอบการเพิ่มอัตราข้าราชการตั้งใหม่ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตามที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ(คปร.) เสนอ โดยอนุมัติอัตราบรรจุพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราว จำนวน 10,992 อัตรา แบ่งเป็นบรรจุในอัตราที่ว่าง2,200 อัตรา ส่วนที่เหลือ8,792อัตรา จะเฉลี่ยบรรจุใน3ปี โดยปี 2560 บรรจุ 2,992 อัตรา ปี 2561 บรรจุ 2,900 อัตรา และ ปี2562บรรจุ 2,900 อัตรา

 

 

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า นอกจากนั้น ครม.อนุมัติอัตราตั้งใหม่ของแพทย์และทันตแพทย์ เนื่องจากจำนวนของแพทย์และทันตแพทย์ยังมีจำนวนไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากรเฉลี่ยหนึ่งหมื่นคน โดยให้บรรจุแพทย์ 2,000 อัตรา แบ่งเป็นอัตราตั้งใหม่ 779 อัตรา บวกกับตำแหน่งที่ว่าง 1,221 อัตรา ขณะที่ทันตแพทย์จบใหม่บรรจุ 600 อัตรา แบ่งเป็นอัตราตั้งใหม่ 70 อัตรา บวกกับตำแหน่งที่ว่าง 530 อัตรา สำหรับเภสัชกร ครม.ได้รับหลักการแต่นายกฯ ให้กระทรวงสาธารณสุขกลับไปพิจารณาตัวเลขอัตรากำลังให้ชัดเจนก่อน เพราะอาจจะมีความคลาดเคลื่อนได้ เนื่องจากอัตรากำลังที่สำรวจพบว่าจำนวนอัตราเภสัชกร 1 คน ต่อประชากร 6,200 คน ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ใกล้เคียงกับตัวเลขที่กระทรวงตั้งไว้แล้ว จากนั้นเมื่อเกิดความชัดเจนให้เสนอครม.เพื่อขอความเห็นชอบต่อไป