โรซ่าลุ้นโต 2 หลักเผชิญวิกฤติวัตถุดิบขาดแคลนหนัก เร่งบริหารความเสี่ยง พร้อมทุ่มงบ 100 ล้านทำตลาดและสร้างแบรนด์ ผ่านกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งและซีเอสอาร์
ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบหลักในการผลิตปลากระป๋อง ส่งผลให้แบรนด์โรซ่าผู้ผลิตและจำหน่ายปลากระป๋องต้องเร่งปรับตัว เพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจ ด้วยการรุกการทำตลาดสินค้าใหม่ กลุ่มอาหารพร้อมทาน พร้อมกับการสร้างแบรนด์โรซ่า ให้อยู่ในใจผู้บริโภค รวมถึงการทำตลาดผ่านกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งและกิจกรรมซีเอสอาร์ เพื่อผลักดันให้ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องด้วยตัวเลข 2 หลัก
นายสุวิทย์ วังพัฒนมงคล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอาหารแบรนด์โรซ่า เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ปัญหาการขาดแคลนปลาซึ่งเป็นวัตถุดิบหลัก ทำให้ต้องซื้อจากแหล่งผลิตในต่างประเทศ ซึ่งมีราคาสูงและไม่มีความแน่นอน ส่งผลกระทบต่อตลาดปลากระป๋องมาอย่างต่อเนื่อง ตลาดปลากระป๋องมีมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท เติบโตเพียง 3-5% ลงมาอย่างต่อเนื่องจากช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเติบโต 10-12% ปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดยังรักษาการเติบโตได้ เป็นผลจากการควบคุมราคาสินค้า
ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทรักษาอัตราการเติบโตได้แบบคงที่ด้วยเลขตัวเดียว จากอดีตที่เคยเติบโตสูงสุดถึง 18% ซึ่งปีที่ผ่านมามียอดขาย 3,500 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากกลุ่มปลากระป๋องสัดส่วน 55% กลุ่มซอสสัดส่วน 35% และกลุ่มอาหารพร้อมทานอีก 10% ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากแนวทางการทำตลาดและการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมงบประมาณการตลาดทั้งปีไว้ 100-120 ล้านบาท ผ่านกิจกรรมการตลาดต่างๆ รวมถึงกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ที่สนับสนุนกีฬาประเภทต่างๆ และการนำนักกีฬามาสื่อสารการตลาด นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคม หรือ ซีเอสอาร์ ในรูปแบบต่างๆ ด้วย
สำหรับภาพรวมกำลังซื้อปีนี้ คงต้องดูปัจจัยเรื่องปริมาณน้ำว่ามีมากน้อยเพียงใด และจะส่งผลต่อภาคการเกษตรอย่างไร เนื่องจากหากราคาพืชผลทางการเกษตรดี จะทำให้กำลังซื้อฟื้นตัวดีขึ้น ส่วนยอดขายของบริษัทในช่วง 2 เดือนแรกถือว่าปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันเล็กน้อย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,249 วันที่ 2 - 5 เมษายน พ.ศ. 2560