ก.แรงงาน การันตีไก่ไทยได้มาตรฐาน GLP ตรวจเข้มบังคับใช้กฎหมาย
นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยและต้องการให้การดูแลแรงงานในทุกประเภทกิจการดำเนินไปอย่างมีมาตรฐานเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด จึงได้สั่งการให้นายวรานนท์ ปีติวรรณ รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยแนวคิดการแก้ไขควรให้ความสำคัญกับการดูแล การจ้างงานโดยใช้หลักธรรมาภิบาล เพื่อให้แรงงานได้รับความเป็นธรรมจากการจ้างงาน ไม่มีการบังคับใช้แรงงาน
สำหรับมาตรการของกระทรวงแรงงานเชิงรุกในการป้องกัน 3 ด้าน คือ 1) จัดทำแนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดี (GLP) และนำไปสู่การปฏิบัติให้ครบถ้วน เนื่องจากหากฟาร์มที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ไม่นำมาตรการ GLP ไปปฏิบัติจะไม่ได้รับการต่อสัญญาและไม่ให้เลี้ยงไก่อีกต่อไป การจัดทำบทบัญญัติการใช้แรงงานที่ดีในกิจการปศุสัตว์ และการส่งเสริมและสนับสนุนให้สถานประกอบกิจการส่งออกจัดทำมาตรฐานแรงงานไทย มรท. 8001-2546 (Thai Labor-Standard : TLS 8001-2546) 2) มาตรการในการบังคับใช้กฎหมาย โดยการจัดตั้งชุดเฉพาะกิจตรวจแรงงาน ทำหน้าที่ตรวจสถานประกอบกิจการและฟาร์มที่เกี่ยวข้องกับไก่ในฟาร์มกลุ่มเสี่ยงทุกแห่ง และ 3) มาตรการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ โดยเน้นความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์เพื่อสื่อสารไปยังต่างประเทศ ทั้งนี้ มาตรการทั้ง 3 ด้านจะต้องเร่งรัดดำเนินการให้เห็นผลเป็นรูปธรรม ภายใน 3 เดือน ซึ่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้ส่งเสริมการทำ GLP กับสถานประกอบการ ที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ แล้วจำนวน 13 บริษัท รวมถึงห่วงโซ่การผลิตที่เป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ จำนวน 4,102 ฟาร์มให้ครบถ้วน ซึ่งขณะนี้มีฟาร์มประสงค์เข้าร่วม GLP แล้วจำนวน 3,617 ฟาร์ม
โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวต่อว่า ส่วนการแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายนั้น กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้ออกพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 โดยมีสาระสำคัญ คือ กำหนดห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างเด็กอายุต่ำกว่า ๑๘ ปีทำงานในงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของลูกจ้างเด็ก เช่น งานหลอม เป่า หล่อ หรือรีดโลหะ งานที่ต้องทำบนนั่งร้านที่สูงกว่าพื้นดินตั้งแต่ 10 เมตรขึ้นไป งานเกี่ยวกับวัตถุมีพิษ วัตถุระเบิด หรือวัตถุไวไฟ เว้นแต่งานในสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น จึงขอให้นายจ้าง เจ้าของสถานประกอบกิจการที่มีการจ้างแรงงานเด็กเข้าทำงาน ให้ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวอย่างเคร่งครัด เพราะหากฝ่าฝืนจะได้รับโทษหนัก ทั้งนี้ กสร.ได้ปรับปรุงแก้ไขโทษสำหรับความผิดดังกล่าวโดยอัตราโทษปรับตั้งแต่ 400,000 บาท ถึง 800,000 บาท ต่อลูกจ้างหนึ่งคน หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ และหากการฝ่าฝืนของนายจ้างเป็นเหตุให้ลูกจ้างเด็กได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ หรือถึงแก่ความตายนายจ้างจะได้รับโทษสูงขึ้นเป็นปรับตั้งแต่ 800,000 บาท ถึง 2,000,000 บาท ต่อลูกจ้าง 1 คน หรือจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ