แพคริมฯ ปั้นคอร์สแก้วิกฤติผู้นำ ชูหลักสูตรพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพนักบริหาร

09 ธ.ค. 2559 | 07:00 น.
ปั้นหลักสูตรภาวะผู้นำป้อนโลกธุรกิจ หลังพบขาดแคลนเข้าขั้นวิกฤติ "แพคริม ฟิวเจอร์ฯ" ชูคอร์สสั้น/ยาวตามออร์เดอร์ เผยกวาดลูกค้าทั้งเครือเจริญโภคภัณฑ์ ธนาคารกสิกรไทย การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ไทยเบฟเวอเรจ ก่อนต่อยอดสู่เวิร์กช็อปสำหรับประชาชน

นางสาวพรทิพย์ อัยยิมาพันธ์ ประธานบริหารและผู้ก่อตั้งกลุ่ม บริษัท แพคริม ฟิวเจอร์ ลีดเดอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัทแพคริมฯ บริษัทที่ปรึกษาด้านการพัฒนาศักยภาพผู้นำให้กับสถาบัน การศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการแข่งขันที่สูงขึ้นของหลายธุรกิจในปัจจุบัน ส่งผลให้หลายองค์กรมีความต้องการผู้บริหารระดับสูงที่มีความสามารถและมีภาวะผู้นำเพื่อนำพาองค์กรให้เติบโตและสามารถรองรับการแข่งขันได้ แต่ขณะเดียวกันเมืองไทยยังขาดแคลนผู้บริหารที่มีภาวะผู้นำอยู่พอสมควร เนื่องจากโครงสร้างองค์กรและการแข่งขันของธุรกิจในอดีตให้ความสำคัญกับการสร้างตำแหน่งงานในระดับผู้จัดการมากกว่าในระดับผู้บริหาร

ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างคนทำงานในระดับผู้บริหารบริหารที่มีภาวะผู้นำในการป้อนออกสู่ตลาดเพื่อรองรับความต้องการ ภายใต้หลักสูตรการพัฒนาศักยภาพผู้นำให้กับสถาบัน การศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนต่างๆ โดยหลักสูตรในการให้คำปรึกษาประกอบไปด้วยหลักสูตรมาตรฐานจำนวน 20 หลักสูตร ในการให้คำปรึกษาและจะโฟกัสไปที่หลักสูตรพัฒนาภาวะผู้นำ เรื่องของวัฒนธรรมองค์กร และการรับมือกับการเปลี่ยนปลงรอบตัว ขณะเดียวกันยังมีการปรับหลักสูตรตามความเหมาะสมที่ลูกค้าต้องการได้ โดยใช้ระยะเวลาในการอบรมตั้งแต่ 1-3 วันไปจนถึง 5 เดือน แล้วแต่หลักสูตรและความต้องการของแต่ละองค์กร โดยมีทีมบุคลากรที่รับหน้าที่ดูแล 75 ราย

"นอกเหนือจากความคาดหวังต่อตัวหลักสูตรและความสำฤทธิ์ผลภายแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่ลูกค้าให้ความสำคัญเรื่องของเวลาที่ต้องมีการใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เนื่องจากการแข่งขันในการทำงานที่ค่อนข้างสูงของคนทำงานในปัจจุบัน ส่งผลให้หากลูกค้าจะสละเวลาในการมานั่งรับฟังคำปรึกษาหรือรับการอบรมนั้นจะต้องเกิดประโยชน์คุ้มค่ากับเวลามากที่สุด"

ปัจจุบันบริษัทเน้นให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าที่เป็นหน่วยงานองค์กรทั้งจากภาครัฐและเอกชน หน่วยงานการศึกษากว่า 500 องค์กรชั้นนำของประเทศไทยเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน), เครือเจริญโภคภัณฑ์, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นต้น

กลุ่มลูกค้าที่เป็นบุคคลทั่วไปนั้นแม้บริษัทยังจะไม่มีการเปิดหลักสูตรให้คำปรึกษาอย่างเป็นทางการ แต่ว่าทางบริษัทก็มีการเปิดหลักสูตรเวิร์คชอป สำหรับประชาชนทั่วไปที่ให้ความสนใจเดือนละ 2-3 ครั้ง เพื่อรองรับความต้องการสำหรับกลุ่มคนทั่วไป ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มประชาชนทั่วไป และกลุ่มผู้บริหารที่เคยมารับการอบรมพร้อมกับองค์กรในการมารับเข้าร่วมอีกด้วย

อย่างไรก็ตามการแข่งขันในธุรกิจที่ปรึกษาในเมืองไทยปัจจุบันถือว่าเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง โดยมีผู้ที่เข้ามาแข่งขันทั้งในรูปแบบของการเปิดบริษัท การรับจ้างฟรีแลนซ์ เป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกันความคาดหวังของกลุ่มลูกค้าก็เพิ่มสูงขึ้นไปด้วย ซึ่งสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญมากที่สุดคือเรื่องของคุณภาพในการให้คำปรึกษาที่สัมฤทธิ์ผลคุ้มค่ากับเวลาที่มารับการอบรมและพัฒนา โดยบริษัทมีการวัดผลในแง่ของความสำเร็จนอกเหนือจากการที่ผู้บริหารมีภาวะผู้นำที่ดีแล้วนั้น ยังประเมินจาก 4 ส่วนหลักได้แก่ 1.การเติบโตขององค์กรที่ผู้บริหารแต่ละท่านบริหารในแต่ละปี 2.ควาพอใจของลูกค้าที่เข้ามารับการอบรมและเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง 3.เรื่องของวัฒนธรรมองค์กร ผู้นำที่ดีจะต้องเข้าใจและมีวัฒนธรรมองค์กรที่ดี และ4.การสร้างผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ที่ดีให้แก่สังคม

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,215 วันที่ 8 - 10 ธันวาคม 2559