แบรนด์ดัง‘ไฮเซ่นส์’บุกไทย ชิงแชร์เครื่องไฟฟ้า/ยึดเป็นฐานเจาะตลาดCLMV

16 ต.ค. 2559 | 10:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

"ไฮเซ่นส์" ยักษ์เครื่องใช้ไฟฟ้าแดนมังกร หันหัวรบบุกไทย หวังใช้เป็นฐานเจาะตลาด CLMV ประเดิมด้วย LED TV ตั้งแต่ขนาด 32-85นิ้ว ขายผ่านเทสโก้ โลตัส ก่อนพาเหรดครบไลน์ทั้งตู้เย็น แอร์ ต้นปีหน้า มั่นใจชิงแชร์ขึ้นเบอร์ 3 ตลาดทีวีใน 5 ปี

นายจาง ฟิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่จากประเทศจีน ภายใต้แบรนด์ "ไฮเซ่นส์" เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า หลังจากที่ไฮเซ่นส์ขยายธุรกิจกระจายไปทั่วโลกทั้งเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ล่าสุดบริษัทแม่ ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ตัดสินใจขยายธุรกิจเข้าสู่ประเทศไทย เพราะเห็นว่าไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพและมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก รวมทั้งไทยยังเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคทั้งด้านงานขาย งานบริการ งานวิจัยและพัฒนา และเป็นฐานการผลิตสำคัญในการขยายธุรกิจเข้าสู่ภูมิภาค CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาและเวียดนามด้วย

เบื้องต้นบริษัทจะนำผลิตภัณฑ์กลุ่มโทรทัศน์เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยอย่างจริงจัง หลังจากศึกษาพบว่าตลาดทีวีซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท มีแบรนด์ต่างๆ เข้ามาทำตลาดมากมายทั้งแบรนด์ไทยและต่างชาติ ส่งผลให้มีการแข่งขันที่รุนแรง แต่ขณะเดียวกันพบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ชื่นชอบสินค้านวัตกรรม และทีวีที่มีเทคโนโลยีสูง ดีไซน์สวย จึงเป็นโอกาสให้กับไฮเซ่นส์ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาแอลอีดีทีวี สมาร์ทฟังก์ชัน ด้วยนวัตกรรมหน้าจอแบบ ULED ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ ความละเอียดสูงระดับ 4K ทำให้มีความแตกต่าง โดยเน้นกลุ่มสินค้าขนาดกลางถึงไฮเอนด์ ตั้งแต่ 32-85 นิ้ว ถือเป็นอีกทางเลือกให้กับผู้บริโภคระดับกลางขึ้นไป

ด้านกลยุทธ์การตลาดบริษัทจะวางจำหน่ายไฮเซ่นส์ ทีวีผ่านเทสโก้ โลตัส จำนวนกว่า 120 สาขาทั่วประเทศ ก่อนที่จะขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังโมเดิร์นเทรดชั้นนำ ร้านตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า และช่องทางออนไลน์ รวมทั้งการใช้กลยุทธ์สปอร์ต มาร์เก็ตติ้งในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง จากก่อนหน้านี้ที่บริษัทเริ่มสร้างแบรนด์ผ่านการเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในการแข่งขันฟุตบอลแห่งชาติยุโรป หรือ Euro 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส และเป็นผู้สนับสนุนทีมการแข่งขันรถรถยนต์ฟอร์มูล่าวัน "Redbull Racing", ผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขันเทนนิสออสเตรเลียน โอเพ่น โดยได้รับสิทธิ์ใช้ชื่อแบรนด์เป็นชื่อสนามแข่ง คือ "ไฮเซ่นส์ สเตเดี้ยม", ผู้สนับสนุนสโมสรฟุตบอลชาลเก 04 ทีมชั้นนำของประเทศเยอรมนี, ผู้สนับสนุนการแข่งขันรถยนต์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในสหรัฐอเมริกา NASCAR เป็นต้น

อย่างไรก็ดีในต้นปีหน้าบริษัทจะทยอยวางจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ และโทรศัพท์มือถือ พร้อมขยายช่องทางการจำหน่ายและบริการให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อให้เกิดความสะดวกสบาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคที่เลือกซื้อสินค้า

อนึ่งไฮเซ่นส์ ถือกำเนิดขึ้นที่เมืองชิงเต่า ประเทศจีน ตั้งแต่ปี 2512 ก่อนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ในปี 2540 และร่วมทุนกับฮิตาชิในการผลิตเครื่องปรับอากาศออกวางจำหน่ายใน 5 ปีต่อมา และร่วมทุนกับเวิร์ลพูลในการพัฒนานวัตกรรมเครื่องใช้ภายในบ้าน และล่าสุดในปี 2558 ได้เข้าซื้อกิจการโรงงานผลิตทีวีชาร์ป ในประเทศเม็กซิโก พร้อมด้วยสิทธิการใช้แบรนด์ชาร์ป และช่องทางการจำหน่ายทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา โดยปัจจุบันไฮเซ่นส์ มีวางจำหน่ายใน 130 ประเทศ มีศูนย์วิจัยและพัฒนา 13 แห่งทั่วโลก ทั้งในจีน สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเยอรมนี โดยในปีที่ผ่านมามีรายได้รวมกันทั่วโลก 15.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,200 วันที่ 13 - 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559