อภัยภูเบศร-TCELS บุกกัมพูชา พร้อมจับมือลุยตลาดอาเซียน
นพ.จรัญ บุญฤทธิการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เปิดเผยว่า คณะผู้บริหารของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร นำโดย ตนเอง และ ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร ได้รับเชิญจาก ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (TCELS) โดย ดร.นเรศ ดำรงชัย ผู้อำนวยการฯ เข้าร่วมโครงการขยายความร่วมมือและส่งเสริมวิสาหกิจด้านชีววิทยาศาสตร์สู่ภูมิภาคอาเซียน ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ระหว่างวันที่ 3-4 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา เพื่อเผยแพร่งานวิจัยทางชีววิทยาศาสตร์ของ TCELS และเครือข่าย ให้แก่ผู้ประกอบการด้านชีววิทยาศาสตร์ในประเทศกัมพูชา เพื่อหาความร่วมมือและพัฒนาต่อยอดธุรกิจด้านนี้
ในส่วนของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรในประเทศไทย ซึ่งได้รับความสนใจจากทั้งผู้ประกอบการและภาครัฐเป็นอันมาก โดยเฉพาะภาครัฐนั้นทางคณะได้เข้าพบ ดร. Yim Chhayly รองนายกรัฐมนตรีด้านเกษตรและพัฒนาชนบทของกัมพูชา ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีกัมพูชามีความสนใจเรื่องสมุนไพรมาก เนื่องจากในปัจจุบันทางภาครัฐกำลังส่งเสริมให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 ผลิตภัณฑ์ หรือ One Village One Product (OVOP) โดยมองว่า ไทยและกัมพูชาเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาก มีวัฒนธรรมร่วมกันมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะการใช้สมุนไพร นับเป็นวัฒนธรรมร่วมอย่างหนึ่ง อยากจะร่วมมือกับอภัยภูเบศรพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร เพื่อจำหน่ายในตลาดอาเซียนและตอบรับคำเชิญการเดินทางมาดูงานในประเทศไทยของอภัยภูเบศรด้วย ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ ดร.Chea Samnang เลขาธิการโครงการ OVOP เป็นผู้ประสานงานหลักในโครงการดังกล่าว
“โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร มีความประสงค์จะร่วมมือกับทางกัมพูชามานานแล้ว เนื่องจากจังหวัดปราจีนเองก็ห่างจากกัมพูชาเพียง 150 กม.เท่านั้น มาครั้งนี้ ดีใจที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากท่านรองนายกฯและคณะ ส่วนราชการต่างๆ และผู้ประกอบการเอง ในงานนี้มีผู้ประกอบที่ต้องการนำสินค้าของอภัยภูเบศรไปจำหน่ายหลายราย ซึ่งคงต้องคุยรายละเอียดกันต่อไป ในการมาครั้งนี้ทางอภัยภูเบศรได้ไปเยี่ยมสถาบันวิทยาศาสตร์สุขภาพของกองทัพ ซึ่งทางสถาบันได้เปิดสอนหลักสูตรบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งแพทย์ทันตแพทย์เภสัชกร พยาบาล เพื่อใช้ในกองทัพนั้นก็มีความสนใจเรื่องสมุนไพรมาก โดยเฉพาะคณะเภสัชศาสตร์นั้นมีความสนใจมาก อยากให้เรามาแลกเปลี่ยนกับอาจารย์และนักศึกษาที่นี่ เบื้องต้นเราก็ได้เชิญอาจารย์จากสถาบันนี้มาดูงานเรื่องสมุนไพรในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือด้านต่างๆ ของสองประเทศ”นพ.จรัญ กล่าว
ด้าน ภญ.ดร.สุภาภรณ์ กล่าวถึงรายละเอียดของความร่วมมือว่า กัมพูชามีวัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่คล้ายกับไทยหลายอย่าง เรามีนวดไทย กัมพูชาก็มีนวด สมุนไพรหลายชนิดก็คล้ายกัน ความร่วมมือที่กำลังจะเกิดขึ้นจึงเป็นไปในลักษณะพึ่งพากัน เรียนรู้แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน เช่น ในไทยเราพัฒนายาฆ่าเชื้อจากเปลือกมังคุด กัมพูชาก็มีเปลือกมังคุดที่สามารถจะนำมาพัฒนาต่อยอดได้เช่นกัน แต่อาจจะพัฒนาไปในรูปแบบที่มีความแตกต่างจากของไทย เนื่องจากรสนิยมการบริโภคของคนกัมพูชา หรือวัตถุดิบที่มีอาจแตกต่างกัน