จับตา “ก้าวไกล” แลนด์สไลด์

27 เม.ย. 2566 | 21:19 น.

จับตา “ก้าวไกล” แลนด์สไลด์ คอลัมน์ฐานโซไซตี โดย...กาแฟขม

***THANDIGITAL หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3882 ระหว่างวันที่ 27-29 เม.ย.2566 โดย...กาแฟขม

*** นับถอยหลังเหลือระยะเวลาอีกไม่กี่วัน จะถึงวันหย่อนบัตรลงคะแนนเลือกตั้งใหญ่ของประเทศ เลือกคนที่ใช่ เลือกพรรคที่ชอบเข้าไปทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชนในสภาผู้แทนราษฎร เลือกพรรคการเมืองที่ชอบเข้าไปจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี 2560 

*** พรรคการเมืองลุยหาเสียงกันอย่างหนัก แคมเปญหนักๆ แรงๆ เพื่อช่วงชิงคะแนนเสียงถูกงัดมาใช้มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อผลสำรวจหลายๆ สำนักออกมา พรรคตัวเองมีคะแนนเป็นรอง พรรคตัวเองชนะไม่ขาด การออกหมัดทิ่มกันตรงๆ ก็แรงขึ้น อย่าเลือกให้เสียของ เลือกให้ขาด เพื่อนกันแต่แทงข้างหลังกันได้อย่างไร เริ่มมีคำพูดคำถามนี้ออกมา อย่าเลือกให้เสียของ บางคนในพรรคเพื่อไทย ออกมาทิ่มไปที่พรรคก้าวไกล กันแบบนี้ หลังโพลล์ออกมา ก้าวไกลมาแรงอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในฝ่ายที่เอา “ลุงกลับบ้าน” จึงต้องช่วงชิงคะแนนเสียงกลับคืนมาในฟากฝั่งนี้ที่รักพี่เสียดายน้องแบ่งโหวต แบ่งเลือกกัน

*** ถ้าดูกันตามพฤติกรรมและการเลือกในอดีต คะแนน 2 ฟากฝ่ายระหว่างขั้ว “อนุรักษ์นิยม” และ “เสรีนิยม” คะแนน 2 ข้างเท่าๆ กัน หรือ คนรักชอบใกล้เคียงกัน การแย่งชิงคะแนนจึงต้องฟาดกันในข้างเดียวกัน เมื่อฝั่งนี้ก้าวไกลขึ้น แน่นอนย่อมตัดคะแนนของเพื่อไทยลง แน่นอนในอีกฟากฝั่ง เมื่อพลังประชารัฐลง ก็ไป รวมไทยสร้างชาติ ไป ประชาธิปัตย์

*** ว่าที่ “พรรคก้าวไกล” มาไกลจริงๆ โดยเฉพาะในโลกโซเชียล มีทั้งฟอลโลวเวอร์ และ ไม่ใช่ฟอลโลเวอร์ กดหัวใจให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กว่า 31 ล้านในสื่อสังคมออนไลน์ หลังระดมขุนพลระดับนำปราศรัยใหญ่ที่สามย่านมิตรทาวน์ แหล่งชุมนุมวัยรุ่น และเมื่อรู้ว่าแกนนำก้าวไกลหาเสียงที่สยาม ทำเอาสยามแทบแตกกันเลยทีเดียว เมื่อคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น ยกโขยงกันไปกรี๊ดๆๆ

“พิธา” ประกาศดังๆ ในรายการเนชั่นสุดสัปดาห์กับ 3 บก.ล่าสุดมีโอกาสคว้าเก้าอี้ ส.ส. 160 ที่นั่งไปจัดตั้งรัฐบาล โดยส.ส.เขตจากคราวที่แล้วมั่นใจว่าจะรักษาที่นั่งไว้ได้ และมีแพ้พรรคใหญ่เพียงเล็กน้อย ในจำนวนหลายที่นั่งที่มีโอกาสพลิกกลับมาชนะในรอบนี้ ตามม็อตโต้ใหญ่ เลือกก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม แถมด้วย “มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง” ก็ว่ากันไป ไม่นานก็รู้ คาดการณ์ได้ ตั้งเป้าหมายได้ แต่ถ้าเป็นไปตามคาดการณ์ เป็นไปตามคาดหวังทั้งหมด จะมีผู้แทนกันเป็นพันคนเลยทีเดียว 

**** เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ธปท. ออกมาบอกไปถึงพรรคการเมืองที่หาเสียงกันอยู่ขณะนี้ กับนโยบายที่เรียกกันว่า ประชานิยม หรือ นโยบายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ณ ขณะนี้ไม่มีความจำเป็นมากนักที่จะทำเช่นนั้น ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องแล้ว เศรษฐกิจโตได้มากกว่า 3% ใกล้เคียงกับศักยภาพของเศรษฐกิจในระยะยาว 

ไม่เหมือนช่วงโควิด การดำเนินนโยบายจึงควรเข้าสู่ภาวะปกติ โดยใช้นโยบายการคลังแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงการนโยบายใดที่จะสร้างพฤติกรรมทางการเงินที่มีความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจต้องระมัดระวัง เพราะเสถียรภาพเศรษฐกิจถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ต้องเน้นเรื่องเสถียรภาพมากกว่าการกระตุ้น การจะออกมาตรการกระตุ้นตลอดเวลาเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมมาตรการการคลังต้องมี แต่ต้องเน้นการดูแลกลุ่มเปราะบาง เป็นการทำเฉพาะจุด แต่ส่วนมากที่ออกมาเป็นมาตรการเหวี่ยงแห ฟังๆๆกันบ้าง อย่าหน้ามืดไล่เกทับบลัฟแหลก แจกกระตุ้นกันอย่างเดียว

*** ร้อนแรงและถกเถียงกันมากที่สุดในทุกแวดวงเวลานี้ เห็นจะไม่พ้น “ค่าไฟแพง” ตะลึงกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง เมื่อบิลค่าไฟขึ้นมามากกว่า 30% แน่นอนตำบลกระสุนตกไปอยู่ที่รัฐบาล ลามเข้าสู่การเมือง เป็นเพราะปล่อยทุนผูกขาดเอื้อโรงไฟฟ้ารายใหญ่ ทำให้ค่าไฟแพง รัฐเลยส่งอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีออกมาแจงสี่เบี้ย ย้อนไปโครงสร้างค่าไฟฟ้า ปี 2555 รัฐบาลขณะนั้นได้ปรับปรุงแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของไทย หรือ PDPฉบับปี 2010 โดยได้ประมาณการความต้องการไฟฟ้าใหม่ตามแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจการขยายตัวของ GDPขึ้นมาอยู่ในระดับร้อยละ 4 - 5 ตั้งแต่ปี 2555 - 2569 จึงเพิ่มโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (ก๊าซธรรมชาติ) เข้าไปในแผน PDP 2010 รวมถึงโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน รองรับความต้องการที่จะเพิ่มขึ้นภายใต้ประมาณการว่าการสำรอง (Reserve) ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 15 - 24 

*** รัฐบาลประยุทธ์ทบทวนโครงการแล้วแต่เลิกไม่ได้ จึงทำแผน PDP 2018 แต่อัตราความต้องการใช้พลังงานไม่ได้เป็นไปตามที่รัฐบาลก่อนหน้านี้ได้ประมาณการไว้ ซึ่งทำให้ Reserve Margin % ณ ปี 2558 ที่เคยคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 15 กลายเป็นร้อยละ 30 และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในอนาคต โรงไฟฟ้าที่อนุมัติไปทั้งหมดก่อนหน้านี้ รัฐบาลต้องจ่ายค่าความพร้อม แผนจัดหาแหล่งพลังงานสะอาดและพลังงานน้ำมีจำกัด เป็นปัจจัยที่ทำค่าไฟแพงว่างั้น ประมาณฉันไม่ใช่ต้นเหตุนะ เอากันเข้าไปพี่น้องประชาชน