ฤดูกาลไหว้พระ​ที่อินเดีย​ 

19 พ.ย. 2568 | 22:00 น.

ฤดูกาลไหว้พระ​ที่อินเดีย​ คอลัมน์ ทำมาธรรมะ โดย ราชรามัญ

 

นับแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคมของทุกปี​ เป็นฤดูหนาวของประเทศอินเดีย​ สาธุชนชาวไทยและอีกหลายประเทศนิยมไปประเทศอินเดียเพื่อไหว้พระสวดมนต์​ และ​เรียนรู้ด้านจิตวิญญาณ​ ความศรัทธานิยมนี้หาใช่เพิ่งเกิดขึ้นแต่มีมากว่าครึ่งศตวรรษแล้วสำหรับประเทศไทย

ด้วยคติที่เชื่อและศรัทธาว่า​ผู้ใดได้ไปกราบสังเวชนียสถานทั้ง 4​ อันสถานที่ประสูติ​ (เนปาล)​ตรัสรู้​ แสดงธรรม​ และ​ปรินิพพาน​ ย่อมมีอานิสงส์มากในด้านจิตวิญญาณ​ บางท่านถึงขนาดเชื่อว่าสามารถปิดอบายภูมิได้​ 

ทุกปีเราจึงเห็นชาวไทยจำนวนไม่น้อยที่เดินทางไปประเทศอินเดีย​ เพื่อกราบนมัสการ​ ปฏิบัติธรรมที่ประเทศอินเดียกัน​ อย่างน้อยอานิสงส์แห่งบุญก็มากพอควร​ มีคำกล่าวกันว่า​ ตนจะไปถึงอินเดียได้นั้น​ ต้องมีศรัทธา​ มีเวลา​ มีสุขภาพดี​ มีทรัพย์พอควร​ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ไปไม่ถึง​ 

นักการเมืองบางคน​ เคยขึ้นเครื่องจะไปอินเดีย​ แม้ขณะนั่งรอบินเครื่องบินแล้ว​ แต่พอมีสายโทรเข้ามาก็ขอลงจากเครื่องบิน​ทันที​ โดยกล่าวว่ามีงานด่วน​ สุดท้ายไม่ได้ร่วมเดินทางไป​ นี่เรียกว่า​ เหตุปัจจัยแห่งกุศลไม่ถึงพร้อม​ 

สมัยนี้การเดินทางนั้นง่าย​ บินตรงไปลงสนามบินกาย่า​ รัฐพิหารได้ทันที​ ไม่ต้องเดินทางด้วยรถไฟเหมือนสมัย 50 ปีก่อน​ หลายคนที่เคยไปกลับมาต่างบอกอยู่สองอย่าง​ คือ​ กลับมาชีวิตเปลี่ยนดีขึ้น​ ด้วยผลบุญหนุนนำ​และ​อยากกลับไปอีก ทั้งที่คราวแรกไม่ค่อยมีใจอยากไปมากเสียเท่าไหร่​

ที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ​ ภายใต้การดูแลของวัดมหาโพธิ​มหาวิหาร​ ที่มีพระภิกษุนานาชาติร่วมกันบริหาร​ นำโดยศรีลังกา​ ไทย​ ไต้หวัน​ ทิเบต​ เป็นต้น​  

พระศรีอริยเมตไตย​ บนชั้นสองของวิหารโพธิ​  น้อยคนนักที่จะได้ขึ้นไปนมัสการ

พระพุทธเมตตา​ ภายในวิหาร​มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก​ ชาวพุทธทั่วโลกมีความศรัทธา​ เป็นพระพุทธรูปอายุกว่าพันปี​ มีเรื่องเล่าที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง​ โดยเล่ากันว่า​ ในช่วงพุทธศาสนารุ่งเรืองนั้น​ ครั้นมีต่างศาสนามารุกรานและทำลายวิหารแห่งนี้​ จอมทัพในครั้งนั้นมีคำสั่ง​ ให้ทุบทำลายพระพุทธเมตตาแห่งนี้ให้เป็นชิ้นๆ เพื่อทำลายขวัญชาวพุทธ​ 

อำมาตย์ผู้รับคำสั่ง​ บอกให้ท่านจอมทัพกลับไปก่อนเดี่ยวเขาจะดำเนินการให้เอง​ แต่สุดท้ายอำมาตย์​ ได้สั่งให้คนเอาปูนมาโบกทับพระพุทธรูปพระพุทธเมตตาองค์นี้ พร้อมจุดตะเกียงไฟไว้บูชา​ ครั้นครบเจ็ดวันแล้วเสร็จจึงกลับไปบอกกับจอมทัพว่า​  

"ข้าได้จัดการพระพุทธรูปตามที่ท่านต้องการแล้ว" 

จอมทัพเมื่อได้ยินดังนั้นคิดว่าทุบทำลายเป็นชิ้นๆ​ ฟังแล้วก็ยินดี​แต่สักครู่เดียวถึงกับกระอักเลือดออกมาแล้วก็สิ้นชีวิตในเวลาต่อมาในวันนั้น​ ชาวพุทธเล่าเรื่องนี้สืบกันมาว่า​ พระพุทธเมตตานั้นมากด้วยความศักดิ์สิทธิ์​  

อินเดีย เมืองผู้ขอ​ แม้จะมากไปด้วยขอทาน​ แต่สิ่งหนึ่งที่มีน้อยมาก​คือ​ ขโมยโจรปล้นชิงทรัพย์​ การลักวิ่งชิงปล้นไม่ค่อยมีแม้ว่าจะมากด้วยขอทานก็ตาม​ เขามาขอคนไทยเราก็ให้​ เชื่อไหมว่า​ คนอินเดียแคร์​และ​ดูแลคนไทยพิเศษกว่าคนชาติอื่นอย่างมาก​ ไม่มีใครคิดมาทำร้ายคนไทยเลย​ ถ้ารู้ว่าเป็นคนไทยลำบากอะไรเป็นอะไรทั้งคนอินเดีย เจ้าหน้าที่อินเดีย จะดูแลอย่างดี​ เพราะความมีน้ำใจของคนไทยที่มีให้พวกเขามาโดยตลอดนั่นเอง​ 

แต่ละปีนักท่องเที่ยวไทยทั้งพระทั้งโยม​ มุ่งหน้าสู่พุทธคยาเป็นล้านคน​ ขนเงินทองไปใช้จ่ายมากมายทำให้เมืองคยาในรัฐพิหารของเขามีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงมาก​ และโดยมากจะเป็นคนไทย เขาจึงดูแลคนไทยอย่างดี

แม้ชาวอินเดียโดยมากจะเป็นคนนับถือศาสนาฮินดู​ ทานมังสวิรัติ​ แต่เมื่อที่วิหารโพธิเขาก็นอบน้อมให้ความเคารพอย่างดี​ เขาถือว่าพระพุทธเจ้าเป็นปางหนึ่งขององค์ทวยเทพของเขา​

พระศรีอริยเมตไตย​ บนชั้นสองของวิหารโพธิ​  น้อยคนนักที่จะได้ขึ้นไปนมัสการ  

ผมเคยนั่งสังเกตการเดินเข้ามาในส่วนของวิหารโพธิ​ ถ้าเดินแล้วเวียนจากขวาไปซ้ายนั่นคือชาวพุทธ ​แต่ถ้าเป็นคนอินเดียที่เดินสวนทาง​คือ​เดินจากซ้ายไปขวานั่นแลชาวฮินดู​ เพราะคติความเชื่อการเดินเวียนศาสนสถานที่แตกต่างกัน​ (หมายถึงเราอยู่ในวิหารแล้วหันหน้าออกไปทางประตู)​ 

ผมเคยนอนใต้ต้นพระศรีมหาโพธิยาวนานหลายเดือน​ ท่ามกลางลมหนาวที่มาปะทะ​ ครั้นสามทุ่มปิดตา เปิดอีกครั้งตีห้า​ ผู้ที่นอนเพื่อปฏิบัติธรรมมีจำนวนไม่มาก​ (ทราบว่ายุคนี้ห้ามนอนแล้ว)​ ช่วงตีหนึ่งเศษอากาศหนาวเหน็บอย่างมาก​ เย็นไปถึงทรวง​ ก้าวขาเดินจงกรมยังไม่ค่อยจะออก​ ครั้นพอนั่งนิ่งจิตเป็นสมาธิร่างกายปรับสภาพไออุ่นจากสมาธิทำให้คลายได้อย่างอัศจรรย์​ 

ฝอยท่วมหลังช้าง​ ต้องเดินทางไปกันเอง​ แล้วจะเข้าใจ​ เพื่อนบางคนผมต้องบังคับให้มันไป​เมื่อไปแล้วมันก็อิดออด​ พอกลับมาคำแรกที่พูด​ มาเมื่อไหร่ชวนด้วยนะ​ แม้เขาจะเคยเดินทางไปต่างประเทศมาทั่วโลกแต่อินเดียมีเสน่ห์มาก​ มีคุณค่าทางจิตวิญญาณยิ่ง​  

สตีปจ็อบ เจ้าของบริษัทแอปเปิ้ล​ ที่คิดสร้างนวัตกรรมเปลี่ยนโลกทางโทรศัพท์มือถือ​ ก็เคยมาอินเดีย​ ศึกษาเรียนรู้ทางด้านจิตวิญญาณกระทั่งเปลี่ยนมานับถือพุทธศาสนา​มหายาน​ นิกายเซน​  

พระพรหมวัชรญาณมุนี​ หรือ​ ฌอน ไมเคิล ชิเวอร์ตัน ชาวอังกฤษ​ ลูกศิษย์หลวงพ่อชา​ วัดหนองป่าพง​ อุบลราชธานี​ ก่อนนับถือพุทธศาสนา​ ก็มาประเทศอินเดียศึกษาเรียนรู้ทางด้านจิตวิญญาณจึงมั่นใจแล้วจึงเดินทางไปบวชที่ประเทศไทย​ 

ถ้ามีโอกาสสักครั้งในชีวิต​ ควรเดินทางมาที่อินเดีย​ มากราบสังเวชนียสถาน​ กลับไปชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีทุกคน​ สมัยนี้สะดวก​สะอาดและปลอดภัย​