“หัวใจวายเฉียบพลัน” ไม่ใช่เรื่องไกลตัว

14 มิ.ย. 2568 | 22:06 น.

“หัวใจวายเฉียบพลัน” ไม่ใช่เรื่องไกลตัว : Tricks for Life

“โรคหัวใจ” ไม่ได้เกิดขึ้นกับเฉพาะคนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงเท่านั้น แม้คนที่ดูแข็งแรงจากภายนอกก็อาจไม่รู้ตัวว่าหัวใจกำลังส่งสัญญาณบางอย่าง

การออกกำลังกายแม้จะช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกาย และลดความเสี่ยงของโรคหลายชนิด แต่ก็ไม่ได้เป็นเกราะป้องกันโรคหัวใจได้ 100% โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบแฝง ดังนั้น การออกกำลังกายอย่างหนักอาจกระตุ้นให้เกิดภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือหัวใจวายเฉียบพลันได้ และยังสะท้อนว่าโรคหัวใจสามารถคุกคามได้ในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบ และมั่นใจในสุขภาพของตนเองมากเกินไป

อย่างไรก็ดีแม้จะออกกำลังกายเป็นประจำ กินอาหารดี แต่หากมีพันธุกรรมของโรคหัวใจ หรือมีไขมันสะสมในเลือด ก็ยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้ หลายคนเสียชีวิตกะทันหันเพราะไม่เคยตรวจสุขภาพหัวใจมาก่อน ความฟิตของร่างกายภายนอกไม่ได้สะท้อนความแข็งแรงของหลอดเลือดหัวใจภายใน

ปัจจุบันโรคหัวใจหลายชนิด เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หลอดเลือดหัวใจตีบ กล้ามเนื้อหัวใจหนา อาจไม่แสดงอาการใด ๆ จนกระทั่งเกิดเหตุฉับพลัน และอาจเกิดได้แม้ในผู้ที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงชัดเจน เช่น โรคอ้วนหรือเบาหวาน ดังนั้น การดูแลหัวใจที่ดีจึงไม่ใช่เพียงการรักษาเมื่อเจ็บป่วย แต่คือการเฝ้าระวัง ป้องกัน และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเหมาะสม

“หัวใจวายเฉียบพลัน” ไม่ใช่เรื่องไกลตัว

สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำหรือผู้ที่เริ่มออกกำลังกาย ควรสังเกตอาการผิดปกติต่อไปนี้อย่างใกล้ชิด ได้แก่ เจ็บหน้าอกขณะออกกำลังกายหรือมีอาการเจ็บหน้าอกร้าวมายังแขนซ้าย หัวใจเต้นผิดจังหวะ เหนื่อยหอบแม้ในขณะพัก เหนื่อยง่ายกว่าปกติ หมดสติระหว่างออกกำลังกาย

ขาบวมหรือข้อเท้าบวม หายใจไม่สะดวกเวลานอนราบ รู้สึกอ่อนเพลียผิดปกติ อัตราการเต้นของหัวใจไม่สม่ำเสมอ หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคหัวใจในระยะเริ่มต้น หรือภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาทันที

ปัจจัยเสี่ยงบางอย่างอาจจะควบคุมได้ เช่น ออกกำลังกายพอเหมาะ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่เรื่องอาหารเป็นหนึ่งปัจจัยที่ใครหลายคนยังคงละเลย ทั้งที่ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อสุขภาพหัวใจในระยะยาว อาหารที่ดีต่อหัวใจไม่จำเป็นต้องมีรสจืดจนกินไม่ได้ แต่ควรเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของหัวใจ และลดอาหารที่มีผลเสียต่อหลอดเลือด

หลักการกินเพื่อหัวใจที่แข็งแรง ได้แก่ การเพิ่มผักและผลไม้หลากสีในทุกมื้อโดยเน้นผักสดและผลไม้ไม่หวานจัด เลือกไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก อะโวคาโด ซึ่งอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ลดปริมาณเกลือและน้ำตาล หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและไขมันทรานส์ เปลี่ยนจากแป้งขัดขาวเป็นธัญพืชไม่ขัดสี งดหรือจำกัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

 

ขอบคุณ : โรงพยาบาลวิมุต–เทพธารินทร์

 

Tricks for Life หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,105 วันที่ 15 - 18 มิถุนายน พ.ศ. 2568