***หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ “ลึก ตรงประเด็น เห็นโอกาส” ฉบับ 4,089 ระหว่างวันที่ 20-23 เมษายน 2568 โดย...กาแฟขม
*** ยังต้องติดตามกันแบบไม่กระพริบตากับสงครามการค้าโลก ที่ประกาศ โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา แม้อยู่ในระหว่างการยืดเวลา 90 วันให้กับคู่ค้าแทบทั้งหมด ยกเว้นจีนที่มีการตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีกลับกับสินค้าสหรัฐ ทาง “ทรัปม์” เลยเบิ้ลภาษีกลับมาอีกที และยังไม่มีทีท่าในการเปิดโต๊ะเจรจา แถมล่าสุดจีนยังสั่งเบรกรับมอบเครื่องบินจากบริษัทโบอิ้งของอเมริกันเข้าไปอีก เรียกได้ว่า “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” คุณเล่นฉัน ฉันก็เล่นคุณ แบบไม่มีลดราวาศอก
*** การประกาศตั้งกำแพงภาษีกับ 70 คู่ค้าทั่วโลกฝ่ายเดียวของทรัมป์ เป็นข้อพิสูจน์โลกนี้ การค้าเสรีไม่มีอยู่จริง การค้าที่เป็นธรรมไม่มีอยู่จริง ทั้งฟรีเทรด แฟร์เทรด มาตรฐานต่างๆ ที่ตั้งขึ้นเป็นแค่ลมปาก ที่หยาบหยามชาวบ้านเขาไปทั่ว และพร้อมฉีกทุกกฎด้วยความเป็นประเทศมหาอำนาจของตัวเอง เป็นนโยบายแบบนักเลงโต เจ้าพ่อมาเฟียมากกว่ามาตรฐาน หรือ ความแฟร์ ที่เรียกหา นี่คืออเมริกันโดยแท้
*** “ทรัมป์” เรียกคู่ค้าทุกรายไปมอบตัว กราบกรานเจรจาขอลดภาษี ไทยเองซึ่งได้รับผลกระทบหนักหน่วงเช่นกัน หากเก็บภาษี 36% ตามที่ประกาศก่อนหน้าแล้วเจรจาไม่ได้ ความเสียหายและผลกระทบต่อเนื่องที่ประเมินกันเฉียดล้านล้านบาท ว่าแล้ว พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีควบ รมว.คลัง เป็นหัวหน้าคณะบินลัดฟ้าไปเจรจาความ ด้วยความเป็นประเทศเล็กไร้อำนาจต่อรอง จึงต้องนำของไปเซ่นไหว้เพียบทั้งพร้อมนำเข้าก๊าซ ซื้อเครื่องบินจากสหรัฐ พ่วงเข้ากับสินค้าเกษตรหลายรายการ เพื่อลดดุลการค้าสหรัฐลง และขอให้ลดกำแพงภาษีลงมา ข้างฝ่าย สทร. บอกไม่ต้องเป็นห่วงคุยคนรอบตัว “ทรัมป์” หมดแล้ว ไม่มีปัญหา สบายใจได้ ต้องดูกันว่าสมราคาที่คุยไว้หรือไม่
*** ที่บอกสะเทือน เหมือนทุกคนไม่รู้จะทำอย่างไรดี ในช่วงนี้ วางแผนกิจการกันไม่ถูก จะผลิตไปเต็มที่กลัวเจอภาษี ส่งออกไม่ได้ ขายของยาก พวกผู้นำเข้าในสหรัฐ ห้างใหญ่ๆ เปิดการเจรจาขอราคาเดิม แถมกดลงมาด้วย บวกภาษีเข้าไปต้องไปขายแพงขึ้นไปอีก ขายไม่ออก ผู้ส่งออกไทยได้สัญญาณมาแล้ว ในทุกกลุ่มสินค้า ผู้ผลิตอาหารไทยออกมาส่งเสียงดังแล้ว
*** ความเคลื่อนไหวในไทย น่าสนใจไม่น้อย มีรายงานแว่บๆ เขาเคาะกันแล้ว สำหรับ ธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดให้ยื่นคำขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.-19 ก.ย. 2567 มีผู้ยื่นคำขอมา 5 ราย กลุ่มธนาคารกรุงไทย Gulf, AIS , OR ถัดมา กลุ่มซีกรุ๊ป (Sea Group) สิงคโปร์, BTS แบงก์กรุงเทพ ตามด้วย กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ร่วมกับ KakaoBank วีแบงก์ (WeBank) จากจีน ,กลุ่มบริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด ,ทรู ซีพี, Ant Financial Services Group สุดท้ายกลุ่ม Lightnet Group ร่วมกับ WeLab ผู้นำ Virtual Bank จากฮ่องกง ยื่น 5 ออกมา 3 กรุงไทย-GULF ได้ เอสซีบี เอกซ์ ได้ และ แอสเซนด์ มันนี่ทรูซีพี ได้
*** เปลี่ยนมือแล้ว ? บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เมื่อล่าสุด “อัลฟ่า ชาร์เตอร์ด เอนเนอร์จี” ได้เข้าซื้อหุ้นจำนวน 84,454,585 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 6.1335% ส่งผลให้ถือครองหุ้น BCP รวมทั้งสิ้น 275,500,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 20.0083% ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 1 เรียบร้อย “ณัฐกร อธิธนาวานิช” กรรมการบริษัท ผู้กุมบังเหียนดีลนี้บอกว่า การลงทุนเป็นเรื่องของโอกาสอย่างแท้จริง เขามีความรู้ในด้านพลังงานอยู่แล้ว เคยทำดีล IRPC มาก่อน และด้วย Charted Group มีความสนใจในการลงทุนธุรกิจในประเทศไทย จึงได้เสนอการลงทุนในธุรกิจพลังงาน BCP เป็นองค์กรใหญ่ และมีศักยภาพรอบด้าน มีโอกาสในการต่อยอดธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องได้อีกมากในอนาคต ห้วงนี้ BCP อยู่ในสถานะที่ต้องเร่ง Transform ไม่ใช่มุ่งเน้นแค่พลังงาน แต่ยังพัฒนาพลังงานในด้านอื่นๆ ร่วมด้วย เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน
หน้า 4 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,089 วันที่ 20 - 23 เมษายน พ.ศ. 2568