ไทม์ไลน์...การล่มสลายของ JKN

09 ธ.ค. 2568 | 23:30 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ธ.ค. 2568 | 01:10 น.

ไทม์ไลน์...การล่มสลายของ JKN : คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย...เจ๊เมาธ์ ฐานเศรษฐกิจออนไลน์

KEY

POINTS

  • JKN ถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิกถอนหุ้นออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน เนื่องจากเปิดเผยข้อมูลเท็จในงบการเงิน และไม่สามารถส่งงบการเงินได้ตามกำหนด
  • ปัญหาทางการเงินของบริษัทเริ่มต้นจากการเข้าซื้อกิจการขนาดใหญ่หลายแห่ง จนนำไปสู่ภาวะขาดสภาพคล่อง ไม่สามารถชำระคืนหุ้นกู้ได้ และต้องยื่นขอฟื้นฟูกิจการ
  • ผู้บริหาร "แอน จักรพงษ์" ถูก ก.ล.ต. ดำเนินคดีทางแพ่ง และถูกศาลออกหมายจับในคดีฉ้อโกงหุ้นกู้ ก่อนที่จะลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารใน JKN

*** ในที่สุด บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป หรือ JKN ของ แอน “จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” ก็ถูกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพิกถอนหลักทรัพย์ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน โดยสาเหตุก็เป็นเรื่องเดิมที่ไม่ว่าใครต่างก็รู้...นั่นก็คือ การเปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จในงบการเงินประจำปี 2566 และ แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1 One Report) ที่มีงบการเงินเท็จ ซึ่งอาจมีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้น และเรื่องที่ JKN ไม่สามารถส่งงบการเงินไตรมาส 1/67 จนถูกขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) ห้ามซื้อขายหุ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2567

ทั้งนี้ สิ่งที่ ตลท. พอจะช่วยนักลงทุนที่ยังติดหุ้น JKN ได้ ก็คือ การเปิดให้ซื้อขายหลักทรัพย์ชั่วคราว เป็นเวลา 7 วัน ระหว่างวันที่ 18-26 ธันวาคม 2568 ก่อนที่การเพิกถอนหลักทรัพย์จะมีผลอย่างถาวร...
หากไล่เรียงเส้นเวลา(Timeline) สำคัญที่เกิดขึ้นกับ JKN ตั้งแต่เข้าตลาดฯ มาจนถึงการปลดออกจากตลาดฯ จะมีเรื่องสำคัญๆ ดังนี้

- พฤศจิกายน 2560 เริ่มต้นซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 8.00 บาทต่อหุ้น

- เมษายน 2564 ทุ่มงบ 1,060 ล้านบาท เข้าซื้อกิจการช่องทีวีดิจิทัล NEW18 จาก "ดีเอ็น บรอดคาสท์" 100% และเปลี่ยนชื่อเป็น JKN18

- มิถุนายน 2564 “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” โดนปรับเงินกว่า 2 ล้านบาท หลังโพสต์ต่อสาธารณะเกี่ยวกับเรื่องผลิตภัณฑ์กัญชง และเรื่องทีวีช่อง NEW18 ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลแบบล้ำเส้นตามกฎของ กลต. ก่อนการแจ้งข้อมูลให้ทางตลาดฯ 

- ตุลาคม 2565 เข้าซื้อกิจการองค์กรนางงามจักรวาล (Miss Universe Organization - MUO) จาก Endeavor Group Holdings ด้วยมูลค่าราว 800 ล้านบาท

- กุมภาพันธ์ 2566 เพิ่มทุนด้วยการขายหุ้น RO อัตรา 2:1 ด้วยหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 589,297,523 หุ้น ในราคา 3 บาท และขายหุ้นแบบ PP จำนวน 66,666,666 หุ้น ให้แก่ บริษัท ยูนิสเตรทช์ จำกัด ในราคา 4.25 บาท/หุ้น

- สิงหาคม 2566 ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินจนไม่สามารถชำระคืนหุ้นกู้ ชุด JKN239A ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 1 กันยายน 2566 มูลค่าประมาณ 609 ล้านบาท 

- พฤศจิกายน 2566 ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอฟื้นฟูกิจการ

- มกราคม 2567 ขายหุ้น 50% ของ Miss Universe ให้กับ Legacy Holding Group USA ซึ่งเป็นของนายราอูล โรชา คานตู นักธุรกิจชาวเม็กซิกัน เพื่อระดมทุน

- พฤษภาคม 2567 ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งพักการซื้อขายหุ้น JKN (SP) เนื่องจากไม่สามารถส่งงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ได้ทันเวลา

- 16 สิงหาคม ถึง 15 กันยายน 67 ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดซื้อขายหลักทรัพย์ JKN เป็นการชั่วคราว 

- มิถุนายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีทางแพ่งต่อ JKN และ แอน จักรพงษ์ รวมถึงกรรมการคนอื่นๆ ในข้อหาเปิดเผยข้อมูลเท็จในงบการเงิน หลังจากนั้นแอนได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารทั้งหมดของ JKN (แต่ยังคงเป็น CEO ของ MUO)

- พฤศจิกายน 2568 ศาลออกหมายจับ แอน จักรพงษ์ หลังไม่มาฟังคำพิพากษาคดีฉ้อโกงหุ้นกู้

- ธันวาคม 2568 ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีคำสั่งให้เพิกถอนหลักทรัพย์ของ JKN ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน โดยจะเปิดให้ซื้อขายชั่วคราวระหว่างวันที่ 18-26 ธันวาคม 2568 ด้วยบัญชี Cash Balance ก่อนจะมีผลเพิกถอนอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 ธันวาคม 2568

จากไทม์ไลน์จะพบว่า JKN เริ่มส่งสัญญาณปัญหาทางการเงินตั้งแต่การเข้าซื้อกิจการ NEW18 มูลค่า 1,060 ล้านบาท ในช่วงเดือนเมษายน 2564 ก่อนที่ปัญหาจะทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อซื้อกิจการองค์กรนางงามจักรวาล (Miss Universe Organization - MUO) ในมูลค่าราว 800 ล้านบาท 

จนในที่สุดฝีก็มาแตก เมื่อบริษัทฯ ขาดสภาพคล่องทางการเงิน จนไม่สามารถชำระคืนหุ้นกู้บางส่วนได้ตามกำหนดในเดือนสิงหาคม 2566 จนท้ายที่สุดต้องยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอฟื้นฟูกิจการในเดือนพฤศจิกายน 2566 และถูกขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) ห้ามซื้อขายหุ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2567 หลังจากที่ไม่สามารถส่งงบการเงินไตรมาส 1/67 ในที่สุด 

ว่ากันตามตรงการที่ บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป สามารถเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็มีส่วนทำให้ แอน “จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” ซึ่งอยู่ในฐานะของผู้ถือหุ้นใหญ่ รวมถึงการเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัท กลายเป็นสาวข้ามเพศรวยที่สุดคนหนึ่งในโลก ด้วยมูลค่าของสินทรัพย์ที่มีอยู่กว่า 6,000 ล้านบาท 

ในขณะที่บริษัทฯ กลับอยู่ในภาวะที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน จนไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามสัญญา...ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย !!!

ไม่มีใครรู้ว่ากว่า 8 ปีของการระดมทุน และการซื้อขายหุ้นอยู่ในตลาดฯ จะมีใครได้ส่วนแบ่งและผลประโยชน์จาก JKN ไปมากแค่ไหน แต่

ล่าสุดมีข่าวที่ยังไม่ยืนยันว่า “แอน จักรพงษ์” ได้หอบเงินกว่า 6 พันล้านบาทไทย ไปแปลงเป็น โทเคน หรือ คริปโตเคอร์เรนซี หนีไปอยู่กับ นายราอูล โรชา คานตู พร้อมเปลี่ยนสัญชาติเป็นเม็กซิกันไปแล้ว

แม้ข่าวการย้ายไปอยู่ต่างประเทศ พร้อมสินทรัพย์ติดตัวเป็นจำนวนมากของ “แอน จักรพงษ์” อาจจะยังไม่ยืนยันว่าเป็นจริง...แต่ที่ยืนยันได้แน่นอนในตอนนี้ก็คือ JKN ได้เดินทางเข้าสู่จุดสิ้นสุด ของการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย 

เจ๊เมาธ์เชื่อว่า เงินที่เคยมีมันคงไม่หายไปไหนได้ง่ายๆ ถ้าจะหายก็เพียงแค่การโยกย้าย และปกปิดที่มาที่ไปเท่านั้น  

ท้ายที่สุดก็คงจะมีแต่นักลงทุนรายย่อย จำนวน 21,390 ติดดอย JKN ที่จะย่อยยับไปกับหลักทรัพย์ ที่กำลังจะถูกถอดออกไปจากตลาดฯ

ขณะเดียวกัน ก็คงจะมีใครสักคนที่จะล้มบนฟูก จากการที่ปล่อยให้บริษัทต้องออกจากตลาดฯ ส่วนที่ว่าจะย้ายไปอยู่ในกระเป๋าใคร หรือที่ไหน ของแบบนี้ถ้าไม่มีใครดำเนินการสอบสวนกันอย่างจริงจัง...ก็ไม่มีใครรู้...

คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย...เจ๊เมาธ์ ฐานเศรษฐกิจออนไลน์