รัฐบาล 4 เดือน นโยบาย 4 ด้าน แก้ปัญหาตรงจุดได้ใจประชาชน

26 ก.ย. 2568 | 23:30 น.

รัฐบาล 4 เดือน นโยบาย 4 ด้าน แก้ปัญหาตรงจุด ได้ใจประชาชน : บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4135

KEY

POINTS

  • นโยบายด้านเศรษฐกิจมุ่งลดภาระค่าครองชีพโดยการลดราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้า พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการคนละครึ่งและเราเที่ยวด้วยกัน
  • ด้านความมั่นคงจะใช้การทูตเชิงรุกเพื่อแก้ปัญหาชายแดนกับกัมพูชาโดยสันติวิธี และร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ
  • เร่งแก้ไขปัญหาสังคมโดยเน้นปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์อย่างจริงจัง เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์และการพนันออนไลน์
  • เตรียมความพร้อมรับมือภัยธรรมชาติ โดยพัฒนาระบบเตือนภัยที่แม่นยำ และมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว

รัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เตรียมจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 กันยายน 2568 เพื่อเริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ ร่างนโยบายที่จัดทำขึ้นมีความยาว 8 หน้ากระดาษ เกิดจากการผนึกกำลังของพรรคร่วมรัฐบาลและรับฟังข้อเสนอจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเอกชน และ สถาบันการเงิน ที่ต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนในช่วงการทำงาน 4 เดือนของรัฐบาล

เมื่อมาพิจารณานโยบายเร่งด่วน 4 ด้านหลักที่ นายอนุทิน ได้แถลงก่อนหน้านี้ จากการสำรวจความคิดเห็นของหลายๆ ฝ่าย ต่างมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า พุ่งเป้าแก้ปัญหาที่ตรงจุด ทั้งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ความมั่นคง และ สังคม ที่สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน

ด้านเศรษฐกิจ ที่หยิบยกการแก้ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ในการลดภาระค่าครองชีพ ที่จะลดราคานํ้ามัน ค่าไฟฟ้า ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้ สามารถดำเนินการได้ทันที่ จากการลดการส่งเงินเข้ากองทุนนํ้ามัน หรือลดภาษีสรรพสามิตลงมา ขณะที่ค่าไฟฟ้า หากจะให้ปรับลดลงมาจาก 3.94 บาทต่อหน่วย ก็ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) แบกรับการเก็บค่าเอฟที ที่จะช่วยลดค่าไฟฟ้าลงได้

รวมถึงเร่งผลักดันโครงการ “คนละครึ่ง” ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว ใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หากดำเนินการได้เร็วในเดือนพฤศจิกายน 2568 นี้ ก็จะช่วยให้มีเม็ดเงินไหลเวียยในระบบมากขึ้น และยังช่วยลดรายจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน และการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ปัดฝุ่นนำโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่ประสบความสำเร็จในอดีตมาปรับใช้ รวมถึงการอำนวยความสะดวกในการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ด้านความมั่นคง การมีแนวทางที่ชัดเจนในการใช้การทูตเชิงรุก เพื่อแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี โดยการเร่งเจรจากับกัมพูชา หาทางออกร่วมกัน เช่น การถอนอาวุธหนัก การเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการร่วมมือกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะข้อเรียกร้องของพี่น้องประชาชนต่อการสร้างรั้วชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา หากสามารถดำเนินการได้อย่างครอบคลุม เชื่อว่าจะสร้างคะแนนเสียงให้กับรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น

ด้านปัญหาสังคม การเร่งแก้ไขปัญหาอาชญากรรม และภัยสังคมที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน มุ่งเน้นการปราบปรามอย่างจริงจังและเด็ดขาด ตลอดจนจัดการอาชญากรรมไซเบอร์ การดำเนินงานอย่างเข้มงวดเพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (สแกมเมอร์) และการพนันออนไลน์ ซึ่งสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก รวมถึงไม่ส่งเสริมการตั้งบ่อนกาสิโนในประเทศ

ด้านภัยธรรมชาติ ที่ต้องเน้นการเตรียมพร้อมและตอบสนองอย่างรวดเร็ว จากภัยพิบัติทั้งนํ้าท่วมนํ้าแล้ง โดยมีการป้องกันและเฝ้าระวัง มีการพัฒนาระบบเตือนภัยที่ทันสมัยและแม่นยำ เพื่อให้ประชาชนสามารถเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติได้

พร้อมทั้ง มีมาตรการช่วยเหลือและเยียวยา เมื่อเกิดภัยพิบัติ ในการเร่งรัดการให้ความช่วยเหลือ ทั้งในด้านการจัดหาที่พักชั่วคราว การจัดสรรอาหารและนํ้าดื่ม และการซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างที่เสียหาย โดยลดขั้นตอนทางราชการที่ไม่จำเป็น เพื่อให้การช่วยเหลือถึงมือประชาชนอย่างทันท่วงที

ดังนั้น นโยบาย 4 ด้าน ที่ระบุออกมา สามารถตอบโจทย์ความต้องการของทุกภาคส่วนได้อย่างตรงจุด ในยามที่ประเทศเจอมรสุมรอบด้าน แม้จะมีระยะเวลาบริหารอันสั้น แต่หากผลลัพธ์ออกมาดี ก็เชื่อว่าจะได้ใจจากพี่น้องประชาชนไปอีกนาน

บทบรรณาธิการ หน้า 6 ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,135 วันที่ 28 กันยายน - 1 ตุลาคม พ.ศ. 2568