GEN Z เตือนว่า "อย่าเยอะ!" ฉากที่ 12

24 ต.ค. 2568 | 23:00 น.

GEN Z เตือนว่า "อย่าเยอะ!" ฉากที่ 12 : คอลัมน์เปิดมุกปลุกหมอง โดย... ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4143

KEY

POINTS

  • บทความเตือนสติไม่ให้ทำอะไร "เยอะ" หรือทำตัวอวดรู้เกินงาม โดยยกเรื่องเล่าและมุกตลกต่างๆ มาประกอบ
  • ชี้ให้เห็นผลเสียของการกระทำโดยไม่ไตร่ตรอง เช่น ชายที่วิจารณ์กระจกโดยคิดว่าเป็นภาพวาด หรือ การล่วงล้ำพื้นที่ของผู้อื่น
  • สรุปด้วยคำสอนของคนรุ่นก่อนว่า "พอดีจะเพลิน เกินไปจะเพลีย" เพื่อเน้นย้ำให้ยึดหลักทางสายกลางและความพอดี

หนุ่มใหญ่ไฟแรงไปชมงานพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เขามีอาการฟิวส์ขาด เพราะลืมเอาแว่นตามาด้วยจึงมองภาพไม่ชัด เขามองภาพแรกก็เริ่มหงุดหงิดบ่นพึมพำว่า "ภาพอะไรหมุนกันไฟไขว้กันมา หาจุดเริ่มต้นไม่พบ หาจุดจบก็ไม่เจอ?" 

ไกด์เดินเข้ามาอธิบายว่า "ภาพ Abstract ไร้คำอธิบาย เขาวาดภาพมีหลายลวดลายเอามาซ้อนกันให้ผู้ชมจินตนาการเองตามอัธยาศัย ไม่มีใครคิดผิดแล้วแต่จิตจะคาดฝันนะครับ" 

ไกด์ยิ้มแล้วชักชวนเดินชมเพื่อลดอุณหภูมิหนุ่มวัยใจกระจาย แกเดินไปสักพักก็บ่นเต็มสูบว่า "ภาพนี้ใครวาดวะเนี่ย หน้าตาไม่เอาอ่าวเลยอ่ะ" ไกด์พยายามระงับเสียงหัวเราะ รีบกระซิบเบาๆ ที่หูว่า "ท่านครับ กรอบนี้ไม่ใช่ภาพวาดครับ มันเป็นกระจกวิเศษที่สามารถจะสำแดงให้เห็นชัดเป็นพิเศษว่า เราหล่อรึเปล่านะครับ" (ฮา)

เรื่องแทรกย่อหน้านี้คล้ายกับนิทานตลกแต่ไม่พกลม เพราะจะบอกว่า เทวดาแต่ละองค์ เขาจะมีพื้นที่พักพิงไม่เท่ากัน เนื่องจากทำความดีเอาไว้มากน้อยไม่เท่ากัน แมกไม้แต่ละต้นที่เทวดาใช้อาศัยประทับอยู่ ก็จะมีพื้นที่รอบต้นไม้ใกล้ หรือ ไกลมันไม่เท่ากัน เขาอยู่กันต้นใครต้นมัน

ยกเว้นในกรณีที่มีเทวดามาขอพักพิงแล้ว องค์ที่ถือครองอยู่จะเป็นผู้ใช้เอกสิทธิ์ว่าจะให้มาพักแรม หรืออยู่เป็นขาประจำจะขึ้นอยู่กับผู้ครองโฉนด พื้นที่รอบต้นไม้จะแผ่วงกว้างกี่มากน้อยแล้วแต่วาสนาบารมี 

ถ้ามี "เทวดูด" แอบมาลักไก่ฮุบพื้นที่สร้างกระท่อมก็จะเตือน หรือขับไล่ ถ้าไม่ปฏิบัติตามก็ขอแรงท่านกัน ให้มาเปิดเพลงเตือนบรรดาสมุน "เทวดูด"  ให้รู้แก่ใจว่า การถือครองพื้นที่ด้วยสิทธิปรปักษ์ชาวบ้านชาวเมืองเขาก็เรียกกันแบบชิวๆ ว่ามันเป็น "สิทธิหน้าด้าน" (ฮา)

ไอ้ที่ผมเมาท์กันมายาวเฟื้อยก็เพราะจะสะกิดว่า หากไม่รู้จริงก็อย่ารีบผลีผลาม ถ้าไม่เคยถามก็อย่าหุนหันพลันแล่น ในยุคปู่ย่าตายายเขากำชับเสมอว่า ถ้าไปเดินป่า ต้องขอขมาก่อนที่จะฉี่รดพื้นที่ล้ำเส้นเขตแดนเทวดา ไม่เชื่อก็ไม่ว่า ไม่วันใดก็วันหนึ่งก็จะรู้ว่า มัชฌิมา คือ สายกลาง ไม่อยากซวยอย่ากร่างจนเยอะ

พูดไปก็ไลฟ์บอย นิ่งไว้หน่อยก็จะเซฟการ์ด คือ สำนวนอมตะ สมัย 80s (พ.ศ. 2523) เขาเกทับกันว่า สบู่เหลวแพงกว่าไลฟ์บอย คนคิดกะจะล้อเลียน พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง ก็ไม่ว่ากัน มันก็เท่ใช้ได้ คุ้ยบรรยากาศเช่นนี้เอามาเขี่ยดูกันใหม่ก็ใช้ได้

ยกเอากรณี วินสตัน เชอร์ชิล มาเล่าประกอบอีกทีหนึ่งว่า ส.ส. วัยสาวราวบันได ไม่พอใจความคิดและคำพูดของ เชอร์ชิลล์ จึงพูดแดกดันว่า "ถ้า วินสตัน เป็นสามีของฉัน ชั้นจะเอายาพิษมาเทใส่ไว้ในถ้วยกาแฟ" เชอร์ชิลล์ ท่านพูดสวนกลับไปว่า "ถ้าคุณเป็นภรรยาผม ผมจะซดกาแฟในแก้วนั้นให้หมดแก้วเลย" (ฮา)

ถ้าจะบอกว่า เชอร์ชิลล์ ท่านปากจัดเหมือนคนเขียนบทความนี้ ขอยกให้ นายหนังตะลุง มาคุยเพื่อคลายเครียด เนื่องจากนายหนังตะลุงส่วนใหญ่จะเป็น เด็กซน และ ทะเล้น มุกทะลึ่งตึงตังก็สร้างเสน่ห์ให้แฟนคลับครึกครื้นได้ไม่ใช่ย่อย ท่านเล่นมุกที่คิดได้เองไม่ต้องไปดูดมุกของใครอื่นมาเล่า อย่างเช่น

ครู : บอกนักเรียนว่า ทุกคนจงเขียนความหมายของคำว่า "ไหลลื่น" เอามาส่งในชั่วโมงนี้

นักเรียนหญิง : เขียนมาส่งว่า "เห็นครูเดินมาน้ำตาไหล"

ครู : ให้เขียนเรื่อง ลื่นไหล จัะ ♡ นักเรียนชาย : เขียนแล้วอ่านให้ฟังดังทั้งห้องว่า "แม่ของผมนม คัพ C เสื้อทุกตัวจะมีกระดุม 8 เม็ด ไม่งั้นมันจะลื่นไหล อายคนอ่ะครับ" (ฮา) 

คนที่มีบารมี จะโชว์ฝีมือ เยอะ กันสักกี่ดอก ก็ไม่มีใครว่าอะไร ถึงกระนั้นก็ควรระวังเอาไว้บ้างก็จะดี

ผู้มีอายุยืนจึงสอนคนรุ่นหลังว่า "พอดีจะเพลิน เกินไปจะเพลีย" ได้ไม่มีเสีย ควรจะสนใจ ใช้หลักสายกลาง อย่าแปลผิดทาง "การยืนขวางตรงกลาง" มันคนละอย่างกับ "สายกลาง" ใครขวางตรงกลาง ควรจะระวัง ไม่งั้นจะเจอ "สายสิญจน์" (ฮา) 

คอลัมน์เปิดมุกปลุกหมอง โดย... ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4143