*** การทำไอพีโอถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่สมบูรณ์ หากจุดเริ่มต้นที่ว่านี้มาแบบหลุดๆ ขาดๆ มันก็จะเป็นตราบาปหรือแผลเป็น ที่ทำให้นักลงทุนกลัวหุ้นตัวนั้นไปอีกนานทีเดียว
*** ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา บรรยากาศการลงทุนกำลังเป็นไปด้วยดีต้องมาเสียทรงอีกครั้ง กับหุ้น โนวา ออร์แกนิค (NV) ซึ่งเป็นหุ้นไอพีโอตัวล่าสุดที่เข้าตลาดด้วยราคาเปิด ต่ำจอง และก็ปิดต่ำสุด หลุดราคาจองลงไปถึง 13%
*** แน่นอนว่าเจ๊เมาธ์ไม่คิดว่าตัวบริษัทฯ จะเป็นตัวปัญหา เพราะตามทรงแล้วบริษัทที่ขายไอพีโอแค่ 150 ล้านหุ้น แถมยังมีค่าพี/อี ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่เป็นมาตรฐานปกติ
*** เอาจริงๆ เจ๊เมาธ์ ก็ไม่รู้ว่าทั้งที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และผู้จัดการการจัดจำหน่าย (Underwriter) เค้าทำหุ้นกันยังไงถึงทำให้ราคาหลุดไปได้ไกลขนาดนี้ ไม่อยากพูดมาก แต่ก็อยากจะบอกว่าทั้ง FA และ UW ต่างก็เป็นบริษัทที่อยู่ในเครือเดียวกัน แต่ไม่รู้ว่าไม่คุยกันหรือยังไงถึงทำกันได้พังขนาดนี้ แล้วอนาคตใครจะกล้าให้คุณพี่ทำหุ้นให้...นี่ยังไม่นับรวมว่าจะมีนักลงทุนที่ไหนกล้ามารับหุ้นไอพีโอจากคุณพี่กันหละค่ะ บอกเลยว่าทำแบบนี้ พังกันทั้งบริษัทที่เข้าตลาดฯ และนักลงทุนก็พังเหมือนกันเลยเจ้าค่ะ
*** ย้อนหลังหลายเดือนก่อน ดราม่า ถังเช่า ของ NV ที่มีนักร้องดังเป็นพรีเซนเตอร์ อวดอ้างสรรพคุณรักษาโรค ออกสื่อหลายช่องทาง ซึ่งองค์การอาหารและยา (อย.) ตรวจสอบพบว่า เป็นการโฆษณาที่ฝ่าฝืนพ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 ผิด 2 กรณี คือ
*** 1. การโฆษณาผ่านเว็บไซต์ของบริษัท ด้วยข้อความ สรรพคุณของถั่งเช่า ลดระดับน้ำตาลในเลือก เสริมสมรรถภาพทางเพศ ...ฟื้นฟูระบบการทำงานของไต...ไตวายเรื้อรัง...รักษามะเร็งปอด...ภูมิแพ้...ยับยั้งมะเร็งไม่ให้แพร่กระจาย
*** 2. การโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สารสกัดถั่งเช่า ผสม ยูซี-ทู (เครื่องหมายการค้า ลีฟเนส) ทางช่องทางโทรทัศน์ ซึ่ง กสทช. พบว่า ออกอากาศในลักษณะรายการสัมภาษณ์ บอกเล่าประสบการณ์ใช้ผลิตภัณฑ์ กลับมาสดชื่น หายเจ็บป่วย กินอิ่ม นอนหลับ
*** โฆษณาทั้ง 2 ช่องทาง ไม่ได้รับอนุญาต และโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณ อันเป็นเท็จ หลอกลวงให้หลงเชื่อ มีบทลงโทษทั้งจำและปรับ ซึ่งอย. ได้สั่งระงับการโฆษณา พร้อมดำเนินมาตรการทางการปกครองกับบริษัทผู้ผลิตอาหาร, ผู้ทำโฆษณา รวมถึงพรีเซนเตอร์ และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
*** นอกจากนี้ ยังมีวิธีที่ FA, เจ้าของ รวมถึง UW มีข้อตกลงกับมาร์เก็ตเมคเกอร์ (MM) หุ้นที่ส่งถึงมือ MM ส่วนใหญ่จะให้ราคาที่มีส่วนลด ถ้า MM ไม่มีคุณธรรม ตีหัวเข้าบ้าน ขายเปิดราคาต่ำจอง ก็ยังมีกำไร ได้ MM ไร้คุณธรรมแบบที่ NV ได้ไป คนกำไรคือ MM คนบาดเจ็บ คือ รายย่อย ที่จองไอพีโอ... MM ทุบหัวแล้ว ลงไปรับ
*** ราคาต่ำๆ แล้วลากขึ้นมา กำไรอีกรอบ เป็นที่รู้กันว่า MM ชื่อเสีย แบบนี้มีแค่ ช. เจ้าเก่าขาประจำ เคยสร้างรอยจารึกไว้ในหุ้นพรีไอพีโอ (ก่อนเข้าตลาด ) หลายตัว
*** ถ้าจะบอกว่าหุ้นเจ้าสัวเป็นหุ้นที่เล่นยากก็น่าจะไม่ผิด เพราะถึงแม้ว่าการดึงเอาห้าง Lotus เข้ามาจะทำให้ MAKRO ขยับขึ้นเป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่ที่สุดของเอเชีย และมีโอกาสที่จะขยายธุรกิจออกไปนอกประเทศและเป็นโอกาสที่จะสร้างรายได้ที่มากขึ้นในอนาคต แต่มันก็ทำให้ MAKRO เข้าไปอยู่ในเกณฑ์ตาม “คำนิยาม” ของหุ้นในตระกูลเจ้าสัวนั่นคือ มีหุ้นจำนวนมาก ราคาแพง ปันผลน้อย ขยับช้า
*** ด้วยจำนวนหุ้นจดทะเบียนมากกว่าหมื่นล้านหุ้นก็เข้าเกณฑ์ในเรื่องของการมีหุ้นจำนวนมาก ในส่วนที่บอกว่าราคาแพงก็เป็นเพราะค่า P/E ที่สูงมากถึง 65 เท่าก็ทำให้ MAKRO กลายเป็นหุ้นค้าปลีกที่มีค่า P/E สูงมากที่สุดตัวหนึ่งของตลาด โดยในส่วนของเรื่องปันผลน้อยก็อย่างที่เห็นอยู่แล้วว่า MAKRO มีการแจกปันผลปีละ 2 ครั้งแต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็มีปันผลไม่ถึง 1 บาทต่อปี
*** ขณะที่เรื่องราคาหุ้นขยับช้ามันก็ยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่ต้องพูดถึง เพราะนักลงทุนหลายคนต่างก็รู้กันอยู่แล้ว
*** อย่างไรก็ตาม...นักวิเคราะห์จากหลายสำนักและนักลงทุนใหญ่หลายคนต่างก็พูดตรงกันว่าการลงทุนกับ MAKRO คือการลงทุนเพื่ออนาคต ดังนั้นใครจะชอบแบบไหนก็ว่ากันไปตามสะดวกนะคะ สำหรับเจ๊เมาธ์ ถ้าเจ๊จะเข้า...เจ๊ว่ารอราคาต่ำลงอีกสักนิดก็น่าจะดีเจ้าค่ะ
*** แนวโน้มที่ ครม.จะมีมติสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทำให้ GPSC กลายเป็นหุ้นที่น่าสนใจมากอีกตัว อย่าลืมว่านอกจากการที่ GPSC จะมี OR ซึ่งเป็นพันธมิตรในครอบครัวเดียวกัน โดยทาง OR จะมีหน้าลานซึ่งมีความพร้อมในการติดตั้งระบบประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (Charging System) ซึ่งมีโอกาสที่จะใช้ไฟฟ้าจะระบบการผลิตไฟฟ้าของ GPSC อยู่แล้ว นอกจากนี้ GPSC ยังอยู่ในขันตอนการดำเนินโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอร์รี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ากำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ต่อปี ที่คาดว่าเริ่มดำเนินการผลิตแบตเตอรี่เชิงพาณิชย์ภายในต้นปี 2565 อยู่ในมืออีกด้วย
*** ในมุมมองของเจ๊เมาธ์...เจ๊มองว่าก็ในเมื่อทาง EA ซึ่งมีทุกอย่างเหมือนกันกับ GPSC สามารถก้าวข้ามแนวต้านที่ราคาเกิน 100 บาทไปได้ ทางด้านของ GPSC ก็ควรจะไปต่อได้เหมือนกันนะคะ รออีกไม่นาน...ปีหน้าได้รู้เรื่องแน่เจ้าค่ะ
*** OCEAN เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่เจ๊เมาธ์อยากแนะนำให้จับตาดูให้ดี เพราะนอกจากเรื่องสายเขียวกัญชงกัญชาที่คาดว่าจะสร้างรายได้ที่จะเป็น New S-Cure ในปี 65 ก็ยังมีเรื่องของชื่อใหม่ที่กำลังจะเปลี่ยนเป็น ALPHAX ซึ่งหากนับตามประสบการณ์ที่ผ่านมาเจ๊มองว่าหุ้นที่เปลี่ยนชื่อใหม่หลายตัวจะพยายามสร้างสตอรี่ใหม่ กระซิบว่าบริษัทที่เปลี่ยนชื่อของหุ้นแล้วดึงเอาตัว X เข้ามาเสริมมักจะทำอะไรเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่เสมอ ไม่แน่ว่าเผลอๆ OCEAN ซึ่งจะมีชื่อใหม่เป็นตัว X ก็อาจจะทำธุรกิจเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัลกับเค้าด้วยนะคะ ลองมาตามดูกันดีกว่าเจ้าค่ะ