เขียวมะม่วง

24 ธ.ค. 2564 | 23:35 น.

คอลัมน์ Cat out of the box โดย พีรภัทร์ เกียรติภิญโญ

สีเขียวเปนอะไรบางอย่างของความสด เปนความสดที่มากกว่าความชื่น เพราะว่าความชื่นนั้นสีอื่นๆก็ทำได้โดยเฉพาะสีฟ้า ฟ้าอย่างครามน้ำทะเล ให้ความรู้สึกชื่นในอารมณ์ประกอบความใส_สดใส 
 

อดีตกาลนานมาศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะในรูปแบบยานยนต์อันลือนาม อย่างเช่น เมอร์ชิเดส เบนซ์ยุคร่วมสมัย w123 ไขว่และค้นคว้าในธรรมชาติเพื่อหาความเขียว มาประดับกายาแห่งพวกมัน

ต้นสน cypress นั้นเปนความเขียวอันสะพรั่งและสดชื่น โดยเฉพาะยามเมื่อลมเย็นพริ้วแผ่วพัดมา
 

เมอร์ซิเดสสีเขียวต้นสนไซเปรส เจือเอาเม็ดอณูของวาวโลหะเอาไว้ด้วย เพื่อสะท้อนความพยับพโยมของอากาศและสายลมอันไหวพริบโพรยพรายแสงเข้ามาในคลองจักษุแห่งสายตายามเมื่อจ้องมองเหล่าพวกมัน

ในขณะเดียวกันหากมองผืนพิภพด้วยสายตาแห่งนกมองโลก ก็จะเห็นความเขียวบางอย่างบนพื้นเรี่ยดิน_มอส  
 

ฝรั่งมองตะไคร่หญ้ามอสต่างกับคนเอเชีย ไทยเชียงใหม่ (และโดยเฉพาะบาหลีชาวเกาะ) เรามองหญ้ามอสว่าเขียวอื๋อ ในละอองอากาศแห่งมอสนั้นเย็นชื่นอย่างว่ามีความชื้นมวลหมอกละอองไอเจือมาด้วย ฝรั่งว่ามอสเปนสีเขียวที่เจือแดด ด้วยเหตุว่าไม่มีแดด_ไม่มีมอส
 

สีของแดดนั้นฝรั่งแทนด้วยสีเหลือง_ทอแสง เมื่อหยดเหลืองลงในเขียวทีบ ก็พลันกระจ่างขึ้นมา คล้ายว่าเจือด้วยนมโคขาวอันสว่างสดใส ตัวแทนของมอสบ่งบอกคาแรกเตอร์ในการเดินทางสมบุกสมบัน
 

ในนิยามความหมาย Dependability ซึ่งแตกต่างจาก Reliability รถอังกฤษแลนด์โรเวอร์นิยมใช้สีเขียวมอส คนลุยๆนิยมใช้สีเขียวมอสเช่นกัน ในขณะที่มะม่วง_mango นั้นมันม่วงตรงไหน? คนทั้งไทยแลฝรั่งอาจถาม_ก็ขอบังอาจเรียนว่ามันม่วงตรงที่ใบ
 

ใบอันเปนเพสลาด โดยฝนแล้วกิ่งงอกให้ใบบาง แจกรสเปรี้ยวชื่นยามเด็ดมากินแนมสำรับ และความเปรี้ยวชื่นนั้นจะสุขุมขึ้นอีกอักโขเมื่อนำช่อเพสลาดใบมะม่วงกำเข้าแล้วโบกพวกมันบนเปลวไฟแห่งถ่านไม้โกงกาง (manglove) อันระอุ เอาหั่นๆทำส้า ตามประสาสล่าล้านนาก็ได้ ยำเข้าเครื่องหมูหั่นก็ดี


 

ในขณะที่อินเดียแลฝรั่งคงว่า มันม่วงที่ผิวแห่งผลมันตะหาก ตามรูปที่แนบมานี้
 

เมอร์ซิเดส แห่งสตุ้ทการ์ด เยอรมัน ก็ทำรถสีเขียวมะม่วง_ mango green ตามประสาความตื่นเต้นที่ฝรั่งยุโรปได้ทดลองกินผลไม้อันรอนแรมมาจากเส้นศูนย์สูตร tropical_งามงด
 

พระราชินีม่าย แห่งจักรวรรดิอังกฤษ สมเด็จพระนางเจ้าเอลิซาเบธพระบรมราชินีนาถเมื่อครั้งเป็นจักรพรรดิราชินีแห่งอินเดียและพม่าด้วย ได้ทรงทราบข่าวผลไม้นามว่ามะม่วง_mango
 

ข่าวว่าผลไม้ประหลาดนี้มีรสอร่อยเอร็ดชื่นปากชุ่มใจ ทรงหงุดหงิดพระราชหฤทัยยิ่งนัก ที่เมื่อทรงเป็นจ้าวครองอาณาจักรวรรดิอันไกลโพ้นทะเลแล้ว กลับมิเคยได้ทอดพระเนตรเห็น มิเคยได้เสวยทดลองชิมซึ่งผลมะม่วงวิเศษโภชนา
 

ครั้นเสนามหาอำมาตย์ทราบความขัดข้องพระราชหฤทัยนี้ จำจะสนองพระราชเสาวนีย์โองการแบกขนผลไม้_มะม่วงนี้จากแดนไกลมาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย ทว่าด้วยระยะเวลาอันยาวนานและด้วยการเดินทางอันยาวไกล เข้าที่เสวยแล้วมะม่วงนั้น_เน่า!


 

อันเจ้าอาณานิคมมีความปรารถนาในสมบัติแห่งเส้นศูนย์สูตรอันไกลโพ้นเป็นที่ยิ่ง เรียกอาการลิงโลดที่ปิดบังมีอยู่ยามเมื่อได้พบสมบัติในแดนห่างไกลนั้นว่า แหม่ มันช่าง ‘exotic’ จำเนียรกาลผ่านมาต่อเมื่อเวลาผ่านพ้นรัชสมัย การเดินทางไม่ได้ไกลราวอ้อมโลก ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้เหล่าวิเสทพ่อครัวทำขนมใส่มะม่วง
 

พวกเขาทั้งนั้นก็ประจงทำหน้าตาออกมาเรียงชั้นใช้ไข่ขาวตีฟูแข็งในนำ้ตาลทรายขาวเข้าประดับด้วยมะม่วงฝาน โรยสตอรว์เบอรรี่หั่นแก้เขิน แต่งเปนยอดพระมหามงกุฏรับประทานในวันเวลาแห่งความสุข
 

ในขณะที่ไทยผู้ดีพิจารณาไปๆมาๆ ในรถยนต์เมอร์ซิเดสสีเขียวมะม่วง_Mango Green แล้วผิวปากหวือ
 

เขียวมะม่วงที่ไหน, นี่มันเขียวก้านมะลิ !


นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 หน้า 17 ฉบับที่ 3,743 วันที่ 26 - 29 ธันวาคม พ.ศ. 2564