สูตรโภชนบำบัดของข้าพเจ้า : งด≠อด

04 ธ.ค. 2564 | 00:55 น.

คอลัมน์ Cat out of the box โดย พีรภัทร์ เกียรติภิญโญ

คอลัมน์ข้างๆนี้ เขาว่า joie de la cuisine อิ่มโดยและอย่าง_โอชา เอนจอยอาหารปราณีตโออ่า แต่ทว่าคนปรุงทำกลับเสงี่ยมอยู่ในโสรัจจะคุณไม่โฉ่งฉ่างอวดโอ้ ก็ทำนองว่ากับข้าวผู้ดี_ว่างั้น 55
 

อันคนเราเมื่อเวลาสำเริงสำราญกับอาหารวิเศษโภชนามามากแล้วไซร้ทั้งฝรั่ง/จีน/ไทย ก็ต้องได้เวลาล้างท้อง บำบัดชำระซากอารยธรรมความโอชาที่ตกค้างมาอยู่ในร่างกายให้ออกๆไปเสีย มิฉะนั้นเบาหวานมาเยือนแก่ตัวลงต้องเจาะตัวล้างไต , มิฉะนั้นไขมันมาอุดตะกรันเลือดต้องเจาะแยงเส้นขาหนีบ ดูทีรึพวกฝรั่งเศสยังมีเวลาพักตับจากเครื่องเมรัยแอลกอฮอล เดือนหนึ่งในหนึ่งปีมีแต่กินน้ำแร่แทนสุราเมรัย

ฤดูมรสุมปี 2012 ได้มีโอกาสเข้าไปรับบริการพักผ่อนฟื้นฟูกายใจที่รีสอร์ทสุขภาพชั้นเลิศของโลกอันตั้งอยู่ในเมืองไทยเรานี่เอง คือ ชีวาศรม หัวหิน เป้าหมายสำคัญในการนี้ คือ หวังใจว่าจะชำระอาการระบบย่อยอาหารตั้งแต่กระเพาะ, ลำไส้เล็ก, ตับ, ตับอ่อน, น้ำดี ให้มันเข้าทีเข้าที่ ทว่าพอได้ศึกษาวิธีการจาก Naturopathic Report Information Sheet, Chivasom ‘12 ที่เขาแจกให้และเช็คเอาท์ออกมาทำต่อเนื่องก็เกิดมีผลพลอยได้แถมมาอีกหลายอย่างคือ น้ำหนักลดบ้าง, นอนหลับดีขึ้นบ้าง, บรรเทากรน, และขับถ่ายสะดวก 
 

โบราณว่า ลางเนื้อชอบลางยา ควรหมายความว่า การบำบัดรักษาบางแบบบางสไตล์อาจถูกกับคนหนึ่งไม่ถูกกับอีกหลายคนก็เป็นได้ ที่นี้ก็บันทึกไว้เปนปูมแกมบันเทิงแม้อาการไม่หาย แต่ก็อาจพอได้เป็นเครื่องประเทืองอารมณ์บอกเล่าเก้าสิบเรื่องเทคนิฆลึกๆเร้นๆในวงการโภชนบำบัด เรียกได้ว่าแมวแถวหัวหินมันแผล็วออกกล่อง cat out of the box ตามคอนเซ็ปต์หัวชื่อคอลัมน์ ดังต่อไปนี้

1.งด : การ “งด” นี้จำเป็นมากแต่เป็นคนละเรื่องกับการ“อด” ในสถานการณ์เครื่องในทรุดโทรมเช่นนี้ เจ้าของเครื่องจำเป็นต้อง “งด” ของกินต่อไปนี้
 

1.1 เนื้อสัตว์ที่มีกล้ามเนื้อหยาบ ได้แก่ วัว, หมู, หอยแมลงภู่, แกะ โดยสามารถทดแทนกันด้วย ไก่, ไข่, ปลา หรือว่ารับประทานมังสวิรัติเป็นบางมื้อ หรือ รับประทานเต้าหู้เนื้ออ่อนเนื้อแข็งบ้าง
 

1.2 กาแฟ_กาแฟช่วยให้เราอยากอาหาร ช่วยย่อยได้ดี จึงช่วยให้เราอยากรับประทานอะไรๆซึ่งไปตรงข้ามกับแผนกา ‘งด’เข้า ควรทดแทนด้วย ชาเขียวจืด  
 

1.3 นม/ครีม/ครีมเทียม ว่ากันว่าไปก่อเมือกในลำไส้ จะพักลำไส้ ควรทดแทนด้วยกะทิ/ มะพร้าวเนื้อ
 

1.4 ข้าวมื้อเย็น จะทำให้ท้องไส้เครื่องในทำงานหนัก ทดแทนด้วยซุปใสอย่าง คอมโซเม่ หลับตาจิ้มเอาสักยี่ห้อ แล้วอุ่นร้อนๆ
 

1.5 น้ำตาล ทำให้ตัวของเราร้อนจากการสันดาปพลังงานทำให้ร้อนๆรุ่มๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว อึดอัดกินได้วันละ 1 ช้อนโต๊ะเท่านั้น(รวมที่มีอยู่ในอาหารแล้ว) นอกจากนี้ถ้าได้กินผลไม้รสหวานไปแล้วต้องงดน้ำตาลทุกชนิดใน 1 วัน


 

2.กิน :กินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ( complex carbohydrate) เท่านั้น คือ ข้าวกล้อง, ควินัว, คูสคูส โดยมีข้อเสนอว่า
 

เช้า : ข้าวกล้อง + โปรตีนจากไข่/ปลา หรือ : ข้าวกล้อง+ผัดมะเขือยาว+จับไฉ่ทำสดๆ
 

สาย : มะเขือเทศเชอรี่ +  คอตเตทชีส หรือ : ถั่วแมคคาเดเมียคั่ว + ขึ้นช่ายฝรั่งสด/แครอทสด
 

เที่ยง : โปรตีน + ผัก หรือ : คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน + ผัก
 

เย็น : สลัดผักต้มแบบเมืองนีซ ใส่เนื้อปลาทูน่าสดทำสุกและไข่ไก่ / ผักต้มเต้าหู้อย่างจับไฉ่ หรือ : ซุปใส มากเท่าที่ต้องการ 
 

มีข้อสังเกตว่า : ห้ามให้คาร์โบไฮเดรตปะทะ โปรตีนเปนอันขาด เว้นแต่มื้อเช้าเท่านั้น และอ้อ.. ดื่มน้ำกรอง หรือ น้ำแร่โซเดียมต่ำไม่ดื่มน้ำที่ผ่านกระบวนการกรองหนักๆอย่าง รีเวิร์ส ออสโมซิส (RO)
 

3.ห้าม
 

3.1 ห้ามกินผลไม้เป็นอาหารเช้า_มันหวาน กระเดี๋ยวน้ำตาลทะลักเส้นเลือด
 

3.2 ห้ามกินผลไม้รสหวานเกิน 3 คำ/ วัน
 

3.3 ห้ามกินเมื่อโมโห หรือ เครียด เพราะมันจะหยุดไม่อยู่ 55
 

3.4 ห้ามรีบกิน และเคี้ยวไม่ละเอียด
 

3.5 ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
 

3.6 ห้ามสูบยาเส้นเวลาเครียด  
 

3.7 ห้ามเข้าสมาคมคนชอบกินใน 7 -14 วันแรกของการดำเนินการ 
 

3.8 ห้ามน้อยใจว่าน้ำหนักไม่ยอมลง เพราะเราตั้งเป้าบำบัดระบบย่อยอาหารต่างหาก น้ำหนักลงเป็นผลพลอยได้


Tips ควรบริหารการบริโภคเป็นสามส่วนตามตำราราชบัณฑิตนิยาม คือ 
 

1. กิน 
 

2. เสพ 
 

3. ใช้สอย
 

ทั้งนี้เพื่อลดความสำคัญของการกินในเเต่ละวันลงมา เพราะการบริโภคไม่ใช่เรื่องกินแต่เพียงอย่างเดียว เสพ : ของอย่างอื่น เช่น ดอกไม้ที่สวยงาม, นก/หมา/ม้าสวยๆ, รูปภาพ, งานศิลปะ, หนังสือ, ภาพยนต์ ใช้สอย : เสื้อผ้า/ชุดชั้นในที่นุ่มสบายรองเท้าลดราคา, มือถือ, รถยนต์, รถมอเตอร์ไซค์, เครื่องมือช่างดีๆ, รีสอร์ท คิดไว้อย่างเดียวว่าโรคที่เราเป็น คือ “โรคเหงาปาก”


นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 หน้า 17 ฉบับที่ 3,737 วันที่ 5 - 8 ธันวาคม พ.ศ. 2564