ปรับ ครม.ไร้ราคา แค่ขย่มเก้าอี้ รมว.พลังงาน

01 ต.ค. 2564 | 12:24 น.

ปรับ ครม.ไร้ราคา แค่ขย่มเก้าอี้รมว.พลังงาน : คอลัมน์อยู่บนภู โดย...กระบี่เดียวดาย

ศุกร์บ่ายๆ สักครู่ใหญ่ๆ มีข่าวปล่อยเรื่องปรับครม.ออกมา สะพัดทำเนียบรัฐบาล รายงานข่าวที่ออกมาอ้างทำเนียบรัฐบาล แน่นอนมีข่าว "ปรับ ครม." ออกมา คอการเมืองทั้งขาจร และขาประจำต่างจับตา เช็กข่าวกันวุ่น สายตาจ้องจับกันอย่างไม่กระพริบ 

 

หลายสำนักข่าวกระโดดฮุบข่าวปล่อยชิ้นนี้ ประดุจชิ้นเนื้อก้อนโตและโยนขึ้นไปในโลกโซเชียลให้สะพัดทันที ไปดูกันก่อน เนื้อหาข่าวชิ้นนี้เป็นอย่างไร เป็นรายงานระบุการปรับครม.ประยุทธ์ 2/5 ปรับใคร อย่างไร

 

ชื่อ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย โผล่มาคนแรก จะควบเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี ชื่อ ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) โผล่ถัดมา จะมานั่งเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ควบ รมว.พลังงาน แทน สุพัฒน์พงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ขีดเส้นใต้สีแดงๆ กันเอาไว้

 

ถัดมารายงานระบุจะปรับตำแหน่งรมว.การต่างประเทศ แทน ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ นั้น อยู่ระหว่างนายกฯพิจารณาบุคคลที่เหมาะสม

 

มีชื่อ ปลัดฉิ่ง - ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะเข้ามาดำรงตำแหน่งรมช.กระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง

แน่นอนข่าวปรับครม.ท่ามกลางความขัดแย้งของหลายก๊ก หลายขั้วในพรรคพลังประชารัฐ ย่อมเป็นที่น่าสนใจและต้องมีการปรับครม.ในยามที่ พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปรับ ผู้กองธรรมนัส และ นฤมล กล่องดวงใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.และรองนายกรัฐมนตรี ออกไปจากครม.

 

เวลาเขาจะปรับครม.กันนั้น เขาจะโยนโผที่จะปรับขึ้นไปบนอากาศ ทดสอบกระแสสังคม หยั่งเสียงเพื่อพลิกเกมดันคนของตัวเองเข้าเป้า ชื่อจึงออกมาเป็นแผงว่าจะรับคนโน้นคนนี้

 

เอากันทีละเรื่องว่ากันทีละมุม ชื่อแรกก็ว่ากันไป ท่ามกลางความร้าวลึกของ 3 ป. เลยเชิด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา บิ้กป๊อก รมว.มหาดไทย ไปควบรองนายกฯ ตอกลิ่มความไม่สมาน 2 ป. กับ ป.ป้อม และขุมข่ายอีกที เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือแห่งโผ

 

แต่ที่ต้องสะดุดเป็นพิเศษ ตรงชื่อ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ ที่รายงานให้เป็นรองนายกฯ ควบรมว.พลังงาน หมายความให้ศุภชัย เข้าดูแลเศรษฐกิจ แทนที่ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ซึ่งใกล้ชิดกับทุนขาใหญ่พลังงาน อันนี้ไม่ค่อยสมเหตุสมผลที่คนปล่อยข่าวไม่เฉลียวใจ และน่าจะไม่รู้จัก ดร.ศุภชัย ดีพอ

ดร.ศุภชัย ดีกรีอดีตผู้อำนวยการใหญ่ WTO และสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา(อังถัดค์) 2 ตำแหน่งนี้บารมี ความน่าเชื่อถือ ศักดิ์ศรี พูดง่ายๆใหญ่กว่านายกรัฐมนตรีประเทศไทย นับประสาอะไรกับรองนายกรัฐมนตรี

 

แต่ถ้า ดร.ศุภชัย จะเข้า ก็เข้าได้ แต่ต้องดูว่าภายใต้เงื่อนไขอะไร  เช่น ถูกขอร้องให้มาช่วยแก้วิกฤติชาติในด้านเศรษฐกิจ ในเงื่อนไข ดร.ศุภชัย ยอมลดเพดานบินของตัวลงมา แต่ต้องไม่ใช่ตำแหน่ง รองนายกฯ และรมว.พลังงานที่ถูกโยนขึ้นมา แต่ถ้าจะเข้าจริงๆ ตำแหน่ง รองนายกฯ ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือ รองนายกฯ ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เพื่ออาศัยศักยภาพชื่อเสียงของ ดร.ศุภชัย ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ เชื่อมโยงสร้างความสัมพันธ์ดึงทุนต่างประเทศเข้ามา ตรงนั้นข่าวปล่อยจะเหมาะสมมากกว่า  

 

ที่สำคัญ ดร.ศุภชัย เองไม่ใช่มือใหม่ทางการเมือง จะมองไม่ออกเชียวหรือ ว่าเป็นปลายๆ ของรัฐบาลแล้ว จะเอาชื่อเสียงที่สั่งสมมาไปทิ้งเสียกระนั้นหรือ 

 

ก่อนหน้านี้ต้องไม่ลืมว่า ก่อนปรับ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พ้น ครม.และหลัง ปรีดี ดาวฉาย ลาออกจากรมว.คลัง เคยมีการทาบทามโดยตรงให้ ดร.ศุภชัย เข้ามา เป็นรองนายกฯควบรัฐมนตรีคลังดูแลเศรษฐกิจ แต่ถูกปฏิเสธมาแล้ว

 

ส่วนชื่อ ปลัดฉิ่ง ฉัตรชัย ที่ติดโผเข้ามานั้น ก็เป็นที่เข้าใจได้กับความเคลื่อนไหวทางการเมืองก่อนหน้านี้ หลังจากเกษียณจะให้ไปต่อในการทำงานและทำพรรคการเมืองรองรับ 2 ป. จากเดิมที่หมายมั่นปั้นมือกันว่าให้บิ้กฉิ่งเข้าไปรับไม้ที่พรรค พปชร. แต่ถูกตั้งกำแพงแน่นหนาและปิดประตูสนิทในการเข้าจากพี่ใหญ่และผู้กอง

 

ข่าวปล่อยในการปรับครม.ครั้งนี้  สดับตรับฟังถ้วนทั่ว และให้เป็นเหตุบังเอิญหรือไม่ ไม่ทราบได้ ข่าวปล่อยปรับครม.ชิ้นนี้ไปเจือสม เข้ากับข่าวขย่มการตั้งบอร์ดคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ถ้าไม่ทบทวน ไม่ปรับขาใหญ่พลังงานยึดเบ็ดเสร็จแน่ๆ ในธุรกิจพลังงาน และบังเอิญอีกเช่นกันคนที่จี้ให้ทบทวนนั้นเคยเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม

 

เป้าขย่ม เขย่า เป้าแซะ จริงๆ จึงกลายเป็น “เก้าอี้รัฐมนตรีพลังงาน”

 

ไม่อาจปฏิเสธเช่นกัน ตั้งแต่ตั้งรัฐบาลลุงตู่ เมื่อปี 62 หลังเลือกตั้ง เก้าอี้รัฐมนตรีพลังงาน เป็นที่หมายปองแบบไม่ปิดบังของ สุริยะ และ กลุ่มสามมิตร 

 

แต่ประเด็นวันนี้ยังไม่ขอพูดถึงการบริหารกระทรวงพลังงานของรัฐมนตรีพลังงาน ว่า เป็นอย่างไร เอื้อประโยชน์ประชาชนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือไม่ นโยบายต่างๆ ที่ออกมาใครได้ประโยชน์อย่างไร วันหลังมาว่ากันเต็มๆ

 

ว่าที่การ “ปรับ ครม.” ที่แน่ๆ รายงานการปรับครม.ชิ้นนี้ เป็นข่าวปล่อยที่แทบไร้ราคาและไม่ใกล้เคียงความจริง เป็นได้แค่การพยายามจุดพลุสร้างกระแสและสร้างการมองเห็น สร้างความกระเพื่อมให้เกิดขึ้นในท่ามกลางเสถียรภาพรัฐบาลที่ง่อนแง่น

 

พล.อ.ประยุทธ์ อาจต้องคิดให้มากหน่อย ปรับครม.รอบนี้ ให้มองให้พ้นจากการเมือง แต่ต้องปรับโดยคิดถึงบ้านเมือง

 

จะปรับเพื่อสานต่ออำนาจยืดเวลาตัวเอง หรือปรับทำงานให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤติ คิดให้ดี หัวเลี้ยวหัวต่อ ทางแยกสำคัญ เส้นทางวีรบุรุษ หรือเส้นทางที่หมิ่นเหม่แห่งความอัปยศ เลือกเอา!!!