ในช่วงที่สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชาตึงเครียดและส่งผลกระทบต่อประชาชนและเจ้าหน้าที่ด่านหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้แสดงจุดยืน “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ด้วยการนำทีมจิตอาสาและพันธมิตร เดินหน้าโครงการ No One Left Behind ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีอย่างเร่งด่วนเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือที่จำเป็นต่อชีวิตและขวัญกำลังใจ
ภารกิจครั้งนี้ แสนสิริร่วมกับคู่ค้าและยงสงวนกรุ๊ป จัดเตรียมและมอบถุงยังชีพจำนวน 1,000 ชุด รวมถึงเครื่องปั่นไฟ ให้แก่กองกำลังทหารในมณฑลทหารบกที่ 22 เพื่อกระจายความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ชายแดนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมกันนี้ยังมอบอาหารสด เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ เครื่องปรุง และของใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อสนับสนุนศูนย์อพยพในพื้นที่
นอกจากนี้ แสนสิริยังได้ร่วมมือกับสภากาชาดไทยจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อเสริมความพร้อมด้านการแพทย์ในพื้นที่เสี่ยง ด้วยเป้าหมายในการส่งต่อชีวิตและสนับสนุนระบบสาธารณสุขท่ามกลางสถานการณ์ไม่ปกติ
นอกเหนือจากการลงพื้นที่ครั้งนี้ แสนสิริยังเน้นย้ำประกาศจุดยืนชัดเจนที่จะเป็น “ศูนย์กลางการรวบรวมความช่วยเหลือ” สำหรับลูกบ้าน พนักงาน และชุมชนโดยรอบ พร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมแผนการช่วยเหลือระยะต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ
การลงพื้นที่และส่งมอบสิ่งของจำเป็นของแสนสิริในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การเยียวยาฉุกเฉิน แต่เป็นการตอกย้ำบทบาทของภาคเอกชนในการร่วมเป็นพลังเสริมให้แก่ภาครัฐ โดยใช้ทรัพยากรและเครือข่ายขององค์กรเชิงรุก เพื่อให้การดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนเกิดขึ้นอย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง
โดยยึดถือหลักการที่ว่า “ทุกความช่วยเหลือ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ล้วนมีค่า”ภายใต้ความเชื่อว่าทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันจึงจะสามารถฟันฝ่าวิกฤตไปได้ โดยไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ซึ่งจากพลังของการลงมือจริงในยามวิกฤตครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นชัดว่า เมื่อทุกแรงใจรวมกัน ไม่เพียงทำให้เกิดการบรรเทาทุกข์อย่างเป็นรูปธรรมเท่านั้น แต่ยังปลุกพลังความสามัคคีในสังคมไทยให้กลับมามั่นคงยิ่งขึ้นอีกครั้ง