โพลชี้! ปชช. "เบื่อพรรคเก่า" อยากได้พรรคการเมืองใหม่ ๆ เป็นรัฐบาล

25 พ.ย. 2561 | 03:42 น.
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง "ประชาชนอยากได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ตามกฎหมายการเลือกตั้งปัจจุบัน (ครั้งที่ 5)" ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 20-22 พ.ย. 2561 จากประชาชนจำนวน 1,260 หน่วยตัวอย่าง สรุปผลได้ ดังนี้

1.ท่านอยากได้พรรคการเมืองพรรคใหม่หรือพรรคการเมืองพรรคเก่าเข้ามาเป็นรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

อันดับ 1 พรรคการเมืองพรรคใหม่ ๆ ร้อยละ 61.67
เพราะอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง มีคนใหม่ ๆ นโยบายใหม่ ๆ แนวคิดใหม่ ๆ เข้ามาบริหารและพัฒนาประเทศ ขณะที่ บางส่วนระบุว่า เบื่อการบริหารงานของพรรคการเมืองพรรคเก่า

อันดับ 2 พรรคการเมืองพรรคเก่า ร้อยละ 38.33
เพราะมีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ชอบการบริหารงานแบบเก่า ๆ บริหารงานดีอยู่แล้ว การทำงานมีระบบ เคยเห็นผลงานมาแล้ว มั่นใจในผลงาน รู้จักและคุ้นเคยกับประชาชนเป็นอย่างดี มีความเข้าใจและสามารถแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าพรรคการเมืองพรรคใหม่


ประชาชนอยากได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไ

2.ท่านอยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีตามกฎหมายการเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

อันดับ 1 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคเพื่อไทย) ร้อยละ 25.16
อันดับ 2 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) ร้อยละ 24.05
อันดับ 3 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่) ร้อยละ 14.52
อันดับ 4 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์) ร้อยละ 11.67
อันดับ 5 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส (หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย) ร้อยละ 6.90
อันดับ 6 พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ (หัวหน้าพรรคเพื่อไทย) ร้อยละ 5.32
อันดับ 7 นายชวน หลีกภัย (อดีตนายกรัฐมนตรี) ร้อยละ 4.29
อันดับ 8 หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล (หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย) ร้อยละ 1.35
อันดับ 9 นายอุตตม สาวนายน (หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ) ร้อยละ 1.19
อันดับ 10 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ (รองนายกรัฐมนตรี) ร้อยละ 1.11


3.ท่านอยากให้พรรคการเมืองพรรคใดได้คะแนนเสียงมากที่สุด และเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

อันดับ 1 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 31.75
อันดับ 2 พรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 19.92
อันดับ 3 พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 16.98
อันดับ 4 พรรคอนาคตใหม่ ร้อยละ 15.63
อันดับ 5 พรรคเสรีรวมไทย ร้อยละ 5.32
อันดับ 6 พรรคชาติไทยพัฒนา ร้อยละ 2.14
อันดับ 7 พรรคไทยรักษาชาติ ร้อยละ 1.83
อันดับ 8 พรรครวมพลังประชาชาติไทย ร้อยละ 1.67
อันดับ 9 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 1.35
อันดับ 10 พรรคพลังชาติไทย ร้อยละ 0.79


4.ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ใช้ในการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของท่าน คือ

อันดับ 1 เป็นบุคคลที่มีผลงานประจักษ์ ทำประโยชน์ในพื้นที่หรือต่อประเทศไทย ร้อยละ 44.21
อันดับ 2 ชอบพรรค/นโยบายของพรรค ที่ผู้สมัครสังกัด ร้อยละ 33.33
อันดับ 3 ต้องการได้ ส.ส. หน้าใหม่ ร้อยละ 10.24

อันดับ 4 ชื่นชอบเป็นการส่วนตัว (เช่น บุคลิก หน้าตา ท่าทาง มีแนวคิดคล้ายตนเอง เป็นคนบ้านเดียวกัน เป็นต้น) ร้อยละ 7.94

อันดับ 5 ต้องการได้นายกรัฐมนตรี ตามมติของพรรคที่ผู้สมัครสังกัด ร้อยละ 1.75
อันดับ 6 เป็นอดีต ส.ส. หรือนักการเมืองในพื้นที่ หรือเป็นญาตินักการเมืองเดิมในพื้นที่ ร้อยละ 1.35
อันดับ 7 ผู้สมัครสังกัดพรรคที่อยู่ตรงข้ามกับพรรคที่ตนเองไม่ชอบ ร้อยละ 0.63
อันดับ 8 ผู้สมัครสังกัดพรรคที่จะได้เป็นรัฐบาลแน่นอน ร้อยละ 0.55


5.ท่านอยากให้นายกฯ ที่ท่านเลือกคนต่อไปเข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องใดมากที่สุด

อันดับ 1 ปัญหาปากท้องและหนี้สินของประชาชน ร้อยละ 44.13
อันดับ 2 ปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ ร้อยละ 28.81
อันดับ 3 ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน การใช้อำนาจโดยมิชอบ ผู้มีอิทธิพล ร้อยละ 9.21
อันดับ 4 ปัญหายาเสพติด อาชญากรรม มิจฉาชีพ ร้อยละ 5.08
อันดับ 5 ปัญหาการว่างงานและแรงงานนอกระบบ ร้อยละ 5.00
อันดับ 6 ปัญหาด้านคุณภาพการศึกษาของเด็กไทยในปัจจุบัน ร้อยละ 2.62
อันดับ 7 ปัญหาด้านสุขภาพการรักษาพยาบาลและการคุ้มครองความเสี่ยงของผู้บริโภค ร้อยละ 1.11

อื่น ๆ ได้แก่ ปัญหาด้านการคมนาคม ความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม ปัญหาด้านการบังคับใช้กฎหมายและระบบงานราชการ ร้อยละ 1.42


6.ท่านเชื่อมั่นหรือไม่ว่าจะมีการเลือกตั้ง ภายในเดือน ก.พ. 2562 โดยไม่มีการเลื่อนออกไปอีก

อันดับ 1 ไม่เชื่อมั่น ร้อยละ 50.71
เพราะหลายพรรคการเมืองยังไม่พร้อม ไม่ชัดเจนในหลาย ๆ เรื่อง มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขณะที่ บางส่วนระบุว่า เลื่อนการเลือกตั้งมาแล้วหลายครั้ง เลยทำให้ขาดความเชื่อมั่น

อันดับ 2 เชื่อมั่น ร้อยละ 48.81
เพราะสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ เป็นไปตามโรดแมปที่รัฐบาลวางไว้ มีการประกาศให้ทราบโดยทั่วกันแล้ว ถึงกำหนดการเลือกตั้ง และเชื่อมั่นในความสามารถ และความพร้อมของรัฐบาล

ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ ร้อยละ 0.48


บาร์ไลน์ฐาน