ทรัมป์เล็งแจกเงินชาวอเมริกันคนละ 2,000 ดอลลาร์ จากรายได้ภาษีศุลกากร

11 พ.ย. 2568 | 04:05 น.
อัปเดตล่าสุด :11 พ.ย. 2568 | 04:05 น.

ทรัมป์เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ-เรียกคะแนนนิยม ชูแผนแจกเงินคนละ 2,000 ดอลลาร์ จากรายได้ภาษีศุลกากร หลังศาลฎีกาตั้งคำถามอำนาจประธานาธิบดีในการเก็บภาษีฝ่ายเดียว

KEY

POINTS

  • โดนัลด์ ทรัมป์ เสนอนโยบายแจกเงินให้ชาวอเมริกันคนละ 2,000 ดอลลาร์ โดยจะยกเว้นผู้มีรายได้สูง
  • แหล่งที่มาของเงินทุนสำหรับนโยบายนี้จะมาจากรายได้ภาษีศุลกากรที่รัฐบาลจัดเก็บ
  • ข้อเสนอดังกล่าวเป็นนโยบายประชานิยมที่มุ่งคืนผลประโยชน์ให้ประชาชนโดยตรง
  • นโยบายนี้เกิดขึ้นขณะที่ศาลฎีกาสหรัฐกำลังพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจของทรัมป์ในการเก็บภาษีศุลกากร

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเดินหน้าสร้างกระแสประชานิยมครั้งใหญ่ ด้วยการเสนอแนวทางแจกเงินให้ชาวอเมริกันคนละ 2,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 64,000 บาท โดยเงินจำนวนนี้จะมาจากรายได้จากภาษีศุลกากรที่รัฐบาลจัดเก็บ เพื่อแสดงให้เห็นถึง “นโยบายภาษีของทรัมป์” ที่มุ่งหวังจะคืนผลประโยชน์ให้กับประชาชนโดยตรง

ข้อเสนอดังกล่าวถูกประกาศออกมาไม่นานหลังจากที่ศาลฎีกาสหรัฐเริ่มพิจารณาคดีเกี่ยวกับการเก็บภาษีศุลกากรหลายรายการของรัฐบาล โดยพิจารณาว่าการใช้ดุลยพินิจของฝ่ายบริหารในการประกาศเก็บภาษีโดยไม่ผ่านสภาคองเกรสนั้นถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยมีผู้พิพากษาหลายคนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับขอบเขตอำนาจของประธานาธิบดีภายใต้กฎหมายว่าด้วยอำนาจในภาวะฉุกเฉินระหว่างประเทศ (IEEPA) ที่มีมาแต่ทศวรรษ 1970

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ยกย่องความสำเร็จของรัฐบาลในการสร้างรายได้จากภาษีศุลกากร พร้อมบอกว่า สหรัฐฯ กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ “ร่ำรวยและมีความเคารพในระดับสูงสุดทั่วโลก” มีเงินเฟ้อเกือบเป็นศูนย์ และตลาดหุ้นอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ เขายังประกาศว่าจะมีการแจกเงิน “อย่างน้อย 2,000 ดอลลาร์ต่อคน ยกเว้นผู้มีรายได้สูง”

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการจ่ายเงินหรือเกณฑ์การเลือกผู้ที่มีสิทธิรับเงิน ซึ่งสร้างความสนใจอย่างมากในวงการการเมืองและเศรษฐกิจ เพราะนี่เป็นมาตรการที่อาจมีผลกระทบทางการคลังและช่วยเพิ่มความนิยมในหมู่ประชาชน ก่อนที่ศาลฎีกาจะมีคำตัดสินเกี่ยวกับอำนาจการเก็บภาษีของเขาในปลายปีนี้

ในอดีต ทรัมป์เคยใช้มาตรการลักษณะนี้มาแล้วในช่วงการระบาดของโควิด-19 ในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งในวาระแรก โดยรัฐบาลได้ออกเช็คช่วยเหลือให้ประชาชนเพื่อช่วยดึงเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว ขณะเดียวกัน ในต้นปีที่ผ่านมา เขาก็เคยเสนอแนวคิดที่จะคืนเงินจาก “นโยบายประหยัดของรัฐบาล” ผ่านหน่วยงานกระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล (Department of Government Efficiency: DOGE) ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของอีลอน มัสก์ ที่สามารถลดค่าใช้จ่ายและงบประมาณของหน่วยงานรัฐบาลกลางได้หลายส่วน

ข้อมูลจากทำเนียบขาวระบุว่า ในยุคของทรัมป์ รายได้จากภาษีศุลกากรมีมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ และถือเป็นหนึ่งในนโยบายเศรษฐกิจสำคัญของรัฐบาล โดยทางการยืนยันว่าเงินเหล่านี้ไม่ใช่รายได้ปกติ แต่เป็นเครื่องมือที่มีเป้าหมายเพื่อปกป้องความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ และรัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ชาวอเมริกัน

อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและรัฐบาลมลรัฐหลายแห่งได้ฟ้องร้องต่อศาล เพื่อท้าทายอำนาจดังกล่าวของทรัมป์ โดยให้เหตุผลว่าการเรียกเก็บภาษีฝ่ายเดียวภายใต้กฎหมาย IEEPA อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากการจัดเก็บภาษีเป็นอำนาจที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็นหน้าที่ของสภาคองเกรส