สี จิ้นผิง เดินเกมรุก ‘ลงทุน-ขยายสัมพันธ์’ รัสเซีย จับมือแน่นกลางแรงกดดันตะวันตก

04 พ.ย. 2568 | 07:07 น.
อัปเดตล่าสุด :04 พ.ย. 2568 | 07:07 น.

สี จิ้นผิง เดินหน้ากระชับสัมพันธ์รัสเซีย จับมือขยายการลงทุน-เศรษฐกิจ แม้เจอแรงกดดันจากตะวันตกและสหรัฐฯ เน้นพลังงาน เกษตร ดิจิทัล อวกาศ และพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว ร่วมสร้างเครื่องยนต์การเติบโตใหม่

KEY

POINTS

  • ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยืนยันว่าการกระชับความสัมพันธ์ด้านการลงทุนและเศรษฐกิจกับรัสเซียเป็น "ทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์" ท่ามกลางแรงกดดันจากชาติตะวันตก
  • ทั้งสองประเทศจะขยายความร่วมมือในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น พลังงาน เกษตร อวกาศ และเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อเป็น "เครื่องยนต์แห่งการเติบโตใหม่"
  • ความร่วมมือนี้เกิดขึ้นเพื่อช่วยให้รัสเซียสามารถรับมือกับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตร และเพื่อปกป้องผลประโยชน์ความมั่นคงร่วมกัน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเดินหน้าขยายความร่วมมือด้านการลงทุนและเศรษฐกิจกับรัสเซียอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ท่ามกลางกระแสความผันผวนในเวทีโลกและแรงกดดันจากชาติตะวันตก โดยยืนยันว่า “การรักษา เสริมสร้าง และพัฒนาความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย คือทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์ของทั้งสองประเทศ”

การพบปะระหว่างผู้นำจีนและนายกรัฐมนตรีรัสเซีย มีคาอิล มิชูสติน จัดขึ้นที่มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน นายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เฉียง ได้เปิดการหารือกับผู้นำรัสเซียที่เมืองหางโจว เพื่อย้ำเป้าหมายเดียวกันในการ “ยกระดับความร่วมมือ” และ “ปกป้องผลประโยชน์ความมั่นคงร่วมกัน”

แหล่งข่าวจากสำนักข่าวของรัฐจีนรายงานว่า สี จิ้นผิง ได้เน้นถึงพลังของความสัมพันธ์จีน-รัสเซียที่ “ยังคงเดินหน้าอย่างมั่นคงแม้เผชิญแรงสั่นสะเทือนจากปัจจัยภายนอก” พร้อมระบุว่า ทั้งสองประเทศมีศักยภาพในการสร้างความร่วมมือในหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น พลังงาน เกษตร อวกาศ เศรษฐกิจดิจิทัล และการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งจะกลายเป็น “เครื่องยนต์แห่งการเติบโตใหม่” ให้กับทั้งสองประเทศ

ด้านมิชูสตินกล่าวเสริมว่า ทั้งจีนและรัสเซียจำเป็นต้อง “สร้างเงื่อนไขที่เอื้อต่อการลงทุนร่วม และสนับสนุนโครงการที่ทั้งสองฝ่ายดำเนินการร่วมกัน” เพื่อผลักดันความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้ก้าวไปอีกระดับ

สำหรับรัสเซีย การเยือนจีนของมิชูสตินครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณสำคัญ เนื่องจากอยู่ในช่วงเวลาที่มอสโกกำลังเผชิญกับ มาตรการคว่ำบาตรขนาดใหญ่จากตะวันตก ภายหลังสงครามยูเครน และต้องการลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ ขณะเดียวกันยังต้องเผชิญกับภาวะชะลอตัวของการค้ากับจีนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซียได้ถูกยกระดับขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 เมื่อ สี จิ้นผิง และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ลงนามใน “ข้อตกลงหุ้นส่วนไร้ขีดจำกัด” เพียงไม่กี่วันก่อนที่รัสเซียจะเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ซึ่งนับจากนั้น รัสเซียได้พึ่งพาจีนมากขึ้นเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการคว่ำบาตร โดยเฉพาะในด้านการค้า การชำระเงินด้วยเงินหยวน และความร่วมมือด้านพลังงานที่ลึกซึ้งขึ้น

อย่างไรก็ตาม การค้าระหว่างสองประเทศเริ่มชะลอตัวในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางแรงกดดันจากสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นต่อจีนในประเด็นการค้าและเทคโนโลยี โดยรายงานจากรอยเตอร์เมื่อเดือนก่อนระบุว่า บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของจีนได้ ระงับการซื้อน้ำมันรัสเซียทางทะเล หลังสหรัฐฯ คว่ำบาตรบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัสเซียอย่าง Rosneft และ Lukoil ซึ่งส่งผลให้การค้าพลังงานระหว่างสองประเทศสะดุดชั่วคราว

แม้จะเผชิญแรงกดดันจากภายนอก แต่จีนและรัสเซียยังคงย้ำถึงความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง โดยในแถลงการณ์ร่วมที่เผยแพร่บนเว็บไซต์รัฐบาลรัสเซีย ทั้งสองประเทศได้ประกาศว่าจะ “เสริมสร้างความร่วมมือในทุกมิติ และตอบสนองต่อความท้าทายจากภายนอกอย่างเหมาะสม”

นอกจากนี้ รัสเซียยังได้ยืนยันจุดยืนสนับสนุนนโยบาย “จีนเดียว” และแสดงการคัดค้านการเคลื่อนไหวใดๆ ที่นำไปสู่ “เอกราชของไต้หวัน” ซึ่งจีนถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน ขณะที่รัฐบาลไต้หวันยังยืนยันว่าอนาคตของตนต้องถูกตัดสินโดยประชาชนบนเกาะเท่านั้น