สหรัฐฯ นำโด่งสำรองทองคำโลก จีน-รัสเซีย เร่งสะสมเพิ่ม ลดพึ่งดอลลาร์

04 พ.ย. 2568 | 03:38 น.
อัปเดตล่าสุด :04 พ.ย. 2568 | 07:12 น.

สหรัฐฯ ยังคงครองตำแหน่งผู้นำในการสำรองทองคำ ขณะที่จีนและรัสเซียเร่งสะสมทองคำเพิ่มขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่ท้าทาย

KEY

POINTS

  • สหรัฐอเมริกายังคงเป็นประเทศที่มีทองคำสำรองมากที่สุดในโลกที่ 8,133 ตัน แม้ปริมาณจะคงที่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
  • จีนและรัสเซียเป็นประเทศที่เร่งสะสมทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จีนเพิ่มขึ้น 351 ตัน และรัสเซียเพิ่มขึ้น 30 ตัน
  • การเพิ่มการสำรองทองคำของจีนและรัสเซียมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินและลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

จากข้อมูลล่าสุดของ Statista แพลตฟอร์มข้อมูลและธุรกิจอัจฉริยะระดับโลก แสดงสถานะการสะสมทองคำของประเทศต่างๆ ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 พบว่า สหรัฐอเมริกายังคงเป็นผู้นำประเทศที่มีการสำรองทองคำมากที่สุดในโลก โดยมีการสำรองทั้งหมด 8,133 ตัน

ขณะที่เยอรมนีและอิตาลีมีการสำรองทองคำที่ 3,350 ตันและ 2,452 ตัน ตามลำดับ สำหรับฝรั่งเศสและรัสเซียมีการสำรองทองคำอยู่ที่ 2,437 ตันและ 2,330 ตันตามลำดับ

ในส่วนของจีนมีการสำรองทองคำ 2,299 ตัน ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์มีการสำรองทองคำที่ 1,040 ตัน ส่วนอินเดียและญี่ปุ่นมีการสำรองทองคำอยู่ที่ 880 ตันและ 846 ตันตามลำดับ

การเปลี่ยนแปลงของการสำรองทองคำในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยมีการปรับเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ เช่น รัสเซียเพิ่มขึ้น 30 ตันและจีนเพิ่มขึ้น 351 ตัน ขณะที่เยอรมนีลดลง 13 ตัน
 

ประเทศต่างๆ มีการเคลื่อนไหวในการสะสมทองคำอย่างไรบ้างในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา:

สหรัฐฯ นำโด่งสำรองทองคำโลก จีน-รัสเซีย เร่งสะสมเพิ่ม ลดพึ่งดอลลาร์ 1. สหรัฐอเมริกา (สำรองทองคำ 8,133 ตัน):

สหรัฐฯ ยังคงเป็นผู้นำในด้านการสำรองทองคำ โดยมีการสำรองทองคำที่สูงที่สุดในโลก แม้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขการสำรองทองคำของสหรัฐฯ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง (ไม่มีการเพิ่มหรือลด) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคงในฐานะ "ตัวป้องกันทางการเงิน" ของประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก

2. เยอรมนี (สำรองทองคำ 3,350 ตัน):

แม้ว่าเยอรมนีจะมีการสำรองทองคำในปริมาณมาก แต่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การสำรองทองคำของประเทศนี้ลดลงถึง 13 ตัน ซึ่งอาจสะท้อนถึงการบริหารการเงินที่เลือกใช้เครื่องมือการลงทุนอื่น ๆ ที่ไม่ได้เน้นทองคำเป็นหลัก

3. รัสเซีย (สำรองทองคำ 2,330 ตัน):

รัสเซียเป็นประเทศที่มีการเพิ่มการสำรองทองคำอย่างโดดเด่น โดยเพิ่มขึ้นถึง 30 ตันในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การเพิ่มขึ้นของการสำรองทองคำในรัสเซียอาจสะท้อนถึงความพยายามในการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและการพึ่งพาสกุลเงินต่างประเทศ

4. จีน (สำรองทองคำ 2,299 ตัน):

จีนแสดงให้เห็นถึงการสะสมทองคำที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นถึง 351 ตัน สอดคล้องกับความพยายามของจีนในการเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินภายในประเทศ โดยการสำรองทองคำจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับการลงทุนภายในประเทศและลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

5. อิตาลี (สำรองทองคำ 2,452 ตัน):

อิตาลีมีการสำรองทองคำที่ค่อนข้างสูงในอันดับที่ 3 แต่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการสำรองทองคำของประเทศนี้ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการรักษาระดับการสำรองทองคำในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

สหรัฐฯ นำโด่งสำรองทองคำโลก จีน-รัสเซีย เร่งสะสมเพิ่ม ลดพึ่งดอลลาร์

6. ฝรั่งเศส (สำรองทองคำ 2,437 ตัน):

ฝรั่งเศสมีการสำรองทองคำที่มาก แต่ไม่พบการเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แสดงถึงการรักษาความมั่นคงในระดับทองคำที่เพียงพอในการรองรับสถานการณ์ทางการเงิน

7. สวิตเซอร์แลนด์ (สำรองทองคำ 1,040 ตัน):

การสำรองทองคำของสวิตเซอร์แลนด์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด แม้ว่าสวิตเซอร์แลนด์จะเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่มีความมั่นคง แต่ดูเหมือนว่าประเทศนี้ไม่ได้มีการปรับเพิ่มทองคำในช่วงเวลานี้

8. อินเดีย (สำรองทองคำ 880 ตัน):

อินเดียมีการสำรองทองคำที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ แต่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การสำรองทองคำของอินเดียเพิ่มขึ้น 219 ตัน ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของทองคำในเศรษฐกิจอินเดียที่มีความเชื่อมโยงกับการค้าทองคำและการบริโภคภายในประเทศ

9. ญี่ปุ่น (สำรองทองคำ 846 ตัน):

ญี่ปุ่นก็มีการเพิ่มการสำรองทองคำขึ้นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้น 81 ตันในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าประเทศนี้จะมีการพึ่งพาเงินเยนในการบริหารการเงิน แต่การเพิ่มทองคำยังคงเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงในระบบการเงิน

การสะสมทองคำของแต่ละประเทศสะท้อนถึงกลยุทธ์ทางการเงินที่แตกต่างกัน ประเทศที่เพิ่มการสำรองทองคำ เช่น รัสเซีย จีน และอินเดีย แสดงถึงความพยายามในการกระจายความเสี่ยงและลดการพึ่งพาเงินตราต่างประเทศ เช่น ดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่บางประเทศเช่น เยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์มีการสำรองทองคำที่ค่อนข้างคงที่ ซึ่งอาจสะท้อนถึงการจัดการทรัพยากรทางการเงินที่ระมัดระวังในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน