ดาวโจนส์ปิดบวก 218.16 จุด รับผลประกอบการบจ.-จับตาเจรจาการค้า

22 ต.ค. 2568 | 00:34 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ต.ค. 2568 | 00:34 น.

ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 218.16 จุด ขานรับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ

KEY

POINTS

  • ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 218.16 จุด หรือ +0.47%
  • ตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่งและดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
  • นักลงทุนจับตาความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนอย่างใกล้ชิด
  • นักลงทุนรอการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (21 ต.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน 

ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ รวมทั้งการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด (FED) ก่อนที่การประชุมนโยบายการเงินของเฟดจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า

  • ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 46,924.74 จุด เพิ่มขึ้น 218.16 จุด หรือ +0.47%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,735.35 จุด เพิ่มขึ้น 0.22 จุด หรือ +0.003% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,953.67 จุด ลดลง 36.88 จุด หรือ -0.16%

หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวลง 1% ตามด้วยหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารลดลง 0.85% ส่วนหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยดีดตัวขึ้น 1.32% และหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 0.88%

ดาวโจนส์ปิดบวก 218.16 จุด รับผลประกอบการบจ.-จับตาเจรจาการค้า

ฤดูกาลรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 เป็นไปอย่างคึกคัก โดยบริษัทรายใหญ่หลายแห่งมีผลประกอบการที่ดีเกินคาด รวมถึง GM ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ เปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 3/2568 ที่สูงเกินคาด และยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ในปีงบการเงิน 2568 ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนหุ้น GM ปิดตลาดทะยานขึ้น 14.9%

ข้อมูลจาก LSEG ระบุว่า นับจนถึงขณะนี้มีบริษัทในดัชนี S&P500 จำนวน 78 แห่งที่รายงานผลประกอบการแล้ว โดยในจำนวนนี้มี 87% รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ ล่าสุดนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ผลกำไรโดยรวมของบริษัทที่จดทะเบียนในดัชนี S&P500 จะมีการเติบโตที่ 9.2% ในไตรมาส 3/2568 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ระดับ 8.8%

หุ้น Warner Brothers Discovery ทะยานขึ้น 11% หลังจากบริษัทประกาศว่ากำลังพิจารณาขายกิจการโดยตรง โดยระบุว่ามีผู้ซื้อที่มีศักยภาพหลายรายกำลังให้ความสนใจเข้าซื้อกิจการ

นักลงทุนรอดูการรายงานผลประกอบการของบริษัทชั้นนำในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง Tesla, IBM และ Procter & Gamble ขณะเดียวกันก็จับตาการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าการเจรจาอาจมีความคืบหน้า โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า ภาษีศุลกากรในอัตราสูงถึง 100% ที่เขาขู่ว่าจะเรียกเก็บจากจีนเพิ่มเติมนั้น จะไม่มีความยั่งยืน ขณะเดียวกันทรัมป์ได้แสดงความหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าอย่างเป็นธรรมกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในระหว่างการประชุมร่วมกันที่เกาหลีใต้ในช่วงปลายเดือนนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ที่ 24 ต.ค. ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 28-29 ต.ค.

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 98.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 29 ต.ค. และให้น้ำหนัก 96.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมวันที่ 10 ธ.ค.