KEY
POINTS
การเจรจาระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง โดยทั้งสองฝ่ายนั่งโต๊ะถกกันที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน ซึ่งการหารือรอบนี้ถือเป็นครั้งที่ 4 ภายในเวลาเพียง 4 เดือน และเป็นอีกหนึ่งสมรภูมิสำคัญในศึกการค้าระหว่างสองมหาอำนาจที่ยังไม่คลี่คลาย การเจรจาในวันแรกกินเวลาราว 6 ชั่วโมง ที่พระราชวังบาโรก “Palacio de Santa Cruz” ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของกระทรวงการต่างประเทศสเปน แต่แม้จะยาวนานก็ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนถึงการบรรลุข้อตกลง
หัวใจหลักของการถกเถียงอยู่ที่สามประเด็นใหญ่ ได้แก่ อนาคตของแอปพลิเคชันวิดีโอสั้น TikTok ที่สหรัฐฯ กำหนดเส้นตายให้ ByteDance เจ้าของสัญชาติจีน ต้องขายกิจการในสหรัฐฯ ภายในวันที่ 17 กันยายน มิเช่นนั้นอาจเผชิญชะตากรรมถูกสั่งปิด การขึ้น-ลดภาษีนำเข้าสินค้า และภาพรวมของเศรษฐกิจโลก ซึ่งล้วนเป็นประเด็นร้อนที่โยงใยทั้งด้านการค้า เทคโนโลยี และภูมิรัฐศาสตร์
ผู้นำการเจรจาครั้งนี้คือ สกอตต์ เบสเซนท์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และ เหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน โดยก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายเคยประชุมที่สตอกโฮล์มเมื่อเดือนกรกฎาคม และสามารถบรรลุข้อตกลง “สงบศึกการค้า” ชั่วคราว 90 วัน ซึ่งช่วยลดอัตราภาษีตอบโต้ที่พุ่งสูงถึงระดับสามหลัก และเปิดทางให้จีนกลับมาส่งออกแร่หายากไปยังสหรัฐฯ อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าส่วนใหญ่ประเมินไปในทิศทางเดียวกันว่า การเจรจาที่มาดริดไม่น่าจะก่อให้เกิด “ดีลใหญ่” ได้จริง สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดคือการยืดเส้นตายให้ ByteDance ออกไปเพิ่มเติม เพื่อเลี่ยงการปิด TikTok ในสหรัฐฯ ซึ่งกำลังเป็นแรงกดดันสำคัญที่อาจปะทุความขัดแย้งรอบใหม่
วิลเลียม ไรน์ช ที่ปรึกษาอาวุโสด้านการค้าของศูนย์วิจัย CSIS ในกรุงวอชิงตัน ให้ความเห็นว่า ตราบใดที่ยังไม่มีการพบกันแบบตัวต่อตัวระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก็ยากที่จะเห็นผลลัพธ์เชิงรูปธรรมออกมา เขามองว่าการหารือเหล่านี้คือ “การวัดกันว่าอีกฝ่ายมีเส้นแดงตรงไหน” มากกว่าจะเป็นการหาทางออกระยะยาว
ทรัมป์เองเคยแสดงท่าทีต้องการเจรจาโดยตรงกับผู้นำจีน แต่ฝ่ายปักกิ่งยังไม่ตอบรับ โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่าจีนต้องการเห็นสหรัฐฯ ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการส่งออกชิปและสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงเสียก่อน จึงพร้อมเปิดทางสู่การประชุมสุดยอดผู้นำ
สถานเอกอัครราชทูตจีนในมาดริดยังได้แจ้งผู้สื่อข่าวว่ามีโอกาสจะจัดแถลงข่าวสรุปผลในช่วงบ่ายวันจันทร์ ซึ่งสะท้อนว่าการเจรจาอาจจบเร็วกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา อย่างเช่นการพูดคุยที่ลอนดอนเรื่องการส่งออกแร่หายาก ที่เคยยืดเยื้อจนถึงวันที่สาม
หลังเสร็จสิ้นภารกิจที่มาดริด เบสเซนท์มีกำหนดเดินทางต่อไปยังลอนดอนในวันอังคาร เพื่อพบกับรัฐมนตรีคลังอังกฤษ เรเชล รีฟส์ ก่อนการเยือนรัฐพิธีของประธานาธิบดีทรัมป์ที่จะเข้าพบพระเจ้าชาร์ลส์ในวันพุธ ซึ่งสะท้อนว่ามิติการเจรจาเศรษฐกิจและการทูตของสหรัฐฯ ในยุโรปกำลังเดินหน้าเข้มข้นในเวลาเดียวกัน