‘สุชีลา การ์กี’ อดีตประธานศาลฎีกา เข้ารับตำแหน่งนายกฯ เฉพาะกาลเนปาล

13 ก.ย. 2568 | 04:09 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ก.ย. 2568 | 04:13 น.

อดีตประธานศาลฎีกาหญิงของเนปาล 'สุชีลา การ์กี' สาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อประกาศยุบสภา เลือกตั้งใน 5 มี.ค.69 หลังจากการประท้วงต่อต้านการทุจริตที่นองเลือดจนทำให้รัฐบาลต้องถูกขับพ้นทั้งคณะ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 กันยายน ซูชิลา การ์กี อดีตประธานศาลฎีกาเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรักษาการของเนปาล หลังการประท้วงในเนปาลที่รุนแรงทำให้นายเค.พี. ชาร์มา โอลี ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

"ข้าพเจ้าสุชีลา คาร์กี ขอสาบานตนในนามของประเทศและประชาชนว่าจะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีให้สำเร็จ" คาร์กี วัย 73 ปี ประธานศาลฎีกาหญิงคนแรกของเนปาลกล่าว

การ์กีเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งกับประธานาธิบดีราม จันทรา พูเดลของเนปาลที่ทำเนียบประธานาธิบดี ทำให้เธอเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเนปาล เธอได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีพูเดลภาย หลังการเจรจาระหว่างพูเดลและผู้บัญชาการทหารเนปาลกับกลุ่มผู้ประท้วงที่เรียกว่าตัวเองว่า เป็นกลุ่มคน Gen Z

ภายหลังเข้ารับตำแหน่ง การ์กีจะแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีในไม่กี่วันข้างหน้า และจะต้องจัดการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรภายในวันที่ 11 มีนาคม ปี 2026

‘สุชีลา การ์กี’ อดีตประธานศาลฎีกา เข้ารับตำแหน่งนายกฯ เฉพาะกาลเนปาล

ถือเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้นหลังกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านคอร์รัปชั่นที่ไม่พอใจกับนโยบายแบนโซเชียลมีเดียได้ออกมาก่อจลาจลโดยเผาสถานที่ราชการและบ้านพักของรัฐมนตรีหลายคน รวมถึงมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 51 คน และบาดเจ็บกว่า 1,300 คน

กลุ่มผู้ประท้วงต้องการให้การ์กีเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการของเนปาล เพราะการ์กีถูกพูดถึงในเรื่องความซื่อสัตย์และจุดยืนต่อต้านการคอร์รัปชั่น

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์มองว่าความท้าทายแรกที่รอให้เธอจัดการคือการสอบสวนเหตุการณ์ความรุนแรงและความเสียหายของสถานที่สาธารณะ รวมถึงยังต้องบริหารประเทศให้ดี กำจัดการคอร์รัปชั่น รักษากฎระเบียบ และฟื้นฟูเรื่องความมั่นคงของประเทศ ซึ่งล้วนเป็นความท้าทายใหญ่ทั้งสิ้น