วันที่ 27 กรกฎาคม สำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซียและรอยเตอร์รายงานว่า นายโมฮัมหมัด ฮาซัน รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย และสมเด็จฯ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะเดินทางเยือนมาเลเซียในวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา
นายฮาซัน ระบุว่า ผู้นำทั้งสองประเทศมีกำหนดเดินทางถึงมาเลเซียในช่วงค่ำของวันที่ 28 กรกฎาคม และจะเข้าร่วมการเจรจาหารือเพื่อหาทางยุติปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
โดยเขาระบุว่า “ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งไทยและกัมพูชา ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่า ไม่ควรให้ประเทศอื่นเข้ามาแทรกแซง ทั้งสองฝ่ายมีความเชื่อมั่นในบทบาทของมาเลเซีย และขอให้ผมทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเจรจา”
นายฮาซันยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้เขากำลังเตรียมพูดคุยทางโทรศัพท์กับนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ซึ่งได้สอบถามว่าทางสหรัฐจะสามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่า เห็นว่าควรให้มาเลเซียเป็นผู้นำในการไกล่เกลี่ย เนื่องจากเป็นปัญหาภายในภูมิภาคอาเซียน และมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ควรแสดงบทบาทในเรื่องนี้อย่างเหมาะสม
พัฒนาการล่าสุดดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังมีการปะทะต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ขณะที่หลายประเทศแสดงความพยายามในการเสนอแนวทางเพื่อยุติความรุนแรงระหว่างทั้งสองฝ่าย
ขณะที่ สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานตรงกันว่า ไทยและกัมพูชาตกลงให้มาเลเซียทำหน้าที่เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทบริเวณชายแดน หลังทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันว่ามีการยิงปืนใหญ่ข้ามเขตพื้นที่พิพาทอีกครั้ง ตามรายงานของรัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียเมื่อวันอาทิตย์
นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สมเด็จฯ ฮุน มาเนต และรักษาการนายกรัฐมนตรีไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย มีกำหนดเดินทางถึงประเทศมาเลเซียในช่วงเย็นวันจันทร์นี้ รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย นายโมฮัมหมัด ฮาซัน เปิดเผยกับสำนักข่าวเบอร์นามา
“ทั้งสองฝ่ายมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ในมาเลเซีย และได้ร้องขอให้ผมทำหน้าที่เป็นคนกลาง” นายโมฮัมหมัดกล่าว พร้อมระบุว่า ได้มีการพูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งไทยและกัมพูชา และต่างเห็นพ้องกันว่าไม่ควรมีประเทศอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องในประเด็นนี้
การเจรจาในมาเลเซียครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เสนอให้มีการหยุดยิงเมื่อวันศุกร์ ขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า ผู้นำของไทยและกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันที่จะทำงานเพื่อให้เกิดการหยุดยิง
เหตุสู้รบที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่าทศวรรษระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ดำเนินมาเป็นวันที่สี่แล้ว โดยมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 ราย รวมถึงพลเรือนชาวไทย 13 ราย และพลเรือนชาวกัมพูชา 8 ราย ขณะที่มีประชาชนกว่า 200,000 คนถูกอพยพออกจากพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ ตามข้อมูลจากทางการ