ทรัมป์ขีดเส้นตาย 2 สัปดาห์ ชี้ชะตาสหรัฐฯ ร่วมถล่มอิหร่าน

19 มิ.ย. 2568 | 23:30 น.
อัปเดตล่าสุด :20 มิ.ย. 2568 | 00:05 น.

ทำเนียบขาวเผย ทรัมป์จะตัดสินใจภายใน 2 สัปดาห์ วันว่าจะร่วมศึกถล่มอิหร่านหรือไม่ ท่ามกลางแรงกดดันเจรจาสงบศึกจากนานาชาติ

KEY

POINTS

  • ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะชี้ขาดว่าจะร่วมโจมตีอิหร่านเคียงข้างอิสราเอลหรือไม่ ภายใน 2 สัปดาห์ พร้อมเปิดช่องเจรจายุติความขัดแย้ง
  • รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลประกาศเป้าหมายล้มระบอบอิหร่าน 
  • อิหร่านขู่ตอบโต้รุนแรง ยุโรปและรัสเซียเสนอไกล่เกลี่ย อิหร่านเตรียมปิดช่องแคบฮอร์มุซ เคลื่อนขีปนาวุธ หากสหรัฐฯ ร่วมโจมตี ถือเป็นวิกฤตใหญ่สุดนับจากปี 1979

ทำเนียบขาวระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กำหนดเส้นตายสองสัปดาห์ในการตัดสินใจว่าสหรัฐฯ จะเข้าร่วมสงครามกับอิหร่านเคียงข้างอิสราเอลหรือไม่ โดยให้เวลานี้เป็นโอกาสในการหาทางออกโดยการเจรจา

การเปิดช่องทางการทูตดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ประกาศอย่างว่าเป้าหมายของสงครามคือการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในกรุงเตหะราน โดยระหว่างการเยือนโรงพยาบาลแห่งหนึ่งซึ่งถูกขีปนาวุธของอิหร่านโจมตี เขากล่าวว่า ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ไม่ควรได้รับอนุญาตให้มีชีวิตอยู่ พร้อมเปิดเผยว่าเขาได้สั่งเพิ่มการโจมตีเพื่อบ่อนทำลายรัฐบาลอิหร่าน

ต่อมา นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวย้ำว่า การโค่นล้มผู้นำอิหร่าน ไม่ใช่เป้าหมายอย่างเป็นทางการ 

แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการพิจารณาครั้งนี้เปิดเผยว่า การตัดสินใจของทรัมป์ว่าจะร่วมโจมตีอิหร่านหรือไม่ ยังขึ้นอยู่กับว่าระเบิด “บังเกอร์บัสเตอร์” พลังทำลายสูงของสหรัฐฯ จะสามารถทำลายสถานที่ผลิตนิวเคลียร์ที่มีการป้องกันแน่นหนาที่สุดของอิหร่านได้หรือไม่

อิสราเอลไม่มีอาวุธที่สามารถทำลายศูนย์ฟอร์โดว์ ซึ่งฝังลึกถึง 100 เมตรใต้ภูเขาใกล้เมืองศักดิ์สิทธิ์โกม เนทันยาฮูและพันธมิตรได้โน้มน้าวให้สหรัฐฯ เปลี่ยนบทบาทจากการสนับสนุนการป้องกันของอิสราเอล มาเป็นการเข้าร่วมการโจมตี โดยบอกกับทรัมป์ว่าเขาเป็นผู้เดียวที่สามารถยุติโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านได้

แม้จะมีการจัดเตรียมแผนโจมตีไว้แล้ว แต่ทรัมป์ยังรอดูว่าอิหร่านจะยอมตกลงในวินาทีสุดท้ายเพื่อยุติโครงการนิวเคลียร์หรือไม่

ท่ามกลางคำเตือนจากทั่วโลกเกี่ยวกับการยกระดับความขัดแย้งอย่างรุนแรง ยุโรปกำลังกดดันให้เกิดการเจรจาทางการทูต โดยรัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านกำลังเดินทางไปเจนีวา เพื่อพบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน และประเทศในภูมิภาครวมถึงโอมาน ก็ได้เสนอตัวเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ย

เมื่ออิสราเอลเปิดฉากโจมตีเมื่อสัปดาห์ก่อน เนทันยาฮูอธิบายว่า คือปฏิบัติการจำกัด เพื่อหยุดยั้งความคืบหน้าของอิหร่านในการสร้างระเบิดนิวเคลียร์ แต่ก็เริ่มแสดงออกชัดเจนมากขึ้นว่าต้องการให้รัฐบาลในอิหร่านล่มสลาย

ระหว่างเยือนโรงพยาบาลโซโรกาในเบเออร์เชวา ซึ่งถูกขีปนาวุธอิหร่านโจมตี เนทันยาฮู กล่าวว่า อิสราเอลกำลังสร้างเงื่อนไขให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในอิหร่าน แต่ประชาชนอิหร่านต้องเป็นผู้ลุกขึ้นสู้

การโจมตีโรงพยาบาลโซโรกาโดยอิหร่านไม่ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย  ขีปนาวุธลูกอื่น ๆ ตกในพื้นที่รอบกรุงเทลอาวีฟ ทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 200 คนทั่วประเทศ ในจำนวนนี้ 4 คนสาหัส หนึ่งลูกพุ่งชนฐานอาคารสูงในรามัตกัน ใกล้ใจกลางเทลอาวีฟ ห่างจากศูนย์ค้าเพชรประมาณ 200 เมตร

กองทัพอิหร่านได้เคลื่อนย้ายขีปนาวุธเพื่อเตรียมโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐฯ หากเข้าร่วมสงคราม และเจ้าหน้าที่กำลังพิจารณาทางเลือกตอบโต้หนึ่งในภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดตั้งแต่การปฏิวัติปี 1979 ที่นำโดยกลุ่มนักบวช

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ว่า เบห์นัม ซาอีดี สมาชิกคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งชาติของอิหร่าน กล่าวว่า อิหร่านอาจพยายามปิดช่องแคบฮอร์มุซ ช่องแคบแคบ ๆ แห่งนี้เป็นเส้นทางลำเลียงน้ำมันหนึ่งในห้าของความต้องการน้ำมันรายวันของโลก

ขณะนี้หลายประเทศกำลังเตรียมอพยพพลเมืองของตนออกจากอิหร่านและอิสราเอล ในขณะที่มีการจัดเที่ยวบินเพื่อพาชาวอิสราเอลหลายหมื่นคนที่ติดค้างในต่างประเทศกลับบ้าน โดยสนามบินหลักของอิสราเอลยังคงปิดตั้งแต่การโจมตีอิหร่านเริ่มต้นขึ้น