การโจมตีของอิสราเอลเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดการยกระดับความตึงเครียดครั้งใหม่ในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นภูมิภาคผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ และเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินเผชิญแรงกดดันจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ
ตลาดตอบสนองอย่างรวดเร็ว โดยฟิวเจอร์ส S&P E-mini ของสหรัฐฯ ร่วงลง 1.5% เมื่อเวลา 00.55 GMT (เวลาท้องถิ่น) และฟิวเจอร์ส Nasdaq ร่วงลง 1.7%
ดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่นลดลง 1.4% และ KOSPI ของเกาหลีใต้ลดลง 1.2%
น้ำมันดิบเบรนต์พุ่งขึ้นมากกว่า 6% แตะระดับ 73.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทองคำพุ่งขึ้น 1% มาอยู่ที่ราว 3,419 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ฟรังก์สวิสแข็งค่าประมาณ 0.4% มาอยู่ที่ 0.8072 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินเยนซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอีกชนิดหนึ่ง แข็งค่าขึ้น 0.3% มาอยู่ที่ 143.06 ต่อดอลลาร์
ยูโรอ่อนค่าลง 0.3% มาอยู่ที่ 1.1553 ดอลลาร์ หลังจากที่พุ่งขึ้น 0.9% เมื่อคืนก่อนหน้า
อิสราเอลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เตรียมรับมือการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนจากเตหะราน หลังจากที่ระบุว่าได้ดำเนินการโจมตีก่อนเพื่อสกัดกั้นโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน มีรายงานว่าเกิดเสียงระเบิดทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน ในช่วงเช้าวันศุกร์ ตามรายงานของสำนักข่าว Nour News ของรัฐบาลอิหร่าน
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ สองรายที่ไม่ประสงค์ออกนามเปิดเผยว่า อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการโจมตีต่ออิหร่านแล้ว โดยไม่มีความช่วยเหลือหรือการมีส่วนร่วมจากสหรัฐฯ CNN รายงานว่าประธานาธิบดีทรัมป์กำลังเรียกประชุมคณะรัฐมนตรี
ความตึงเครียดได้สะสมขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความพยายามของทรัมป์ในการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านดูเหมือนจะถึงทางตัน เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และอิหร่านมีกำหนดจัดการเจรจารอบที่หกเกี่ยวกับโครงการเพิ่มปริมาณยูเรเนียมของเตหะรานที่ประเทศโอมานในวันอาทิตย์ ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศและผู้ไกล่เกลี่ยชาวโอมาน
อิสราเอลกล่าวในช่วงเช้าวันศุกร์ว่า ได้โจมตีเป้าหมายนิวเคลียร์ของอิหร่านเพื่อขัดขวางไม่ให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และสื่อของอิหร่านรวมถึงพยานระบุว่า เกิดการระเบิดหลายจุด รวมถึงบริเวณศูนย์เพิ่มปริมาณยูเรเนียมหลักของประเทศ
อิสราเอลเรียกปฏิบัติการครั้งนี้ว่า "Rising Lion" โดยระบุว่าเป้าหมายรวมถึงผู้บัญชาการทางทหารของอิหร่านและโรงงานผลิตขีปนาวุธ พร้อมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อเตรียมรับมือการโจมตีตอบโต้ด้วยขีปนาวุธและโดรนจากเตหะราน
เรากำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของประวัติศาสตร์อิสราเอล
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวในวิดีโอที่บันทึกไว้ล่วงหน้า เเละระบุว่า อิสราเอลได้โจมตีนักวิทยาศาสตร์ชาวอิหร่านที่ทำงานเกี่ยวกับระเบิดนิวเคลียร์ โครงการขีปนาวุธของอิหร่าน และศูนย์เพิ่มปริมาณยูเรเนียมที่เมืองนันตานซ์ ซึ่งเป็นปฏิบัติการที่จะดำเนินต่อไปอีกหลายวัน
พยานในเมืองนันตานซ์กล่าวว่า ได้ยินเสียงระเบิดหลายครั้งใกล้กับศูนย์ดังกล่าว และเจ้าหน้าที่อาวุโสของอิหร่านเปิดเผยกับ Reuters ว่าผู้นำประเทศกำลังจัดการประชุมด้านความมั่นคงระดับสูง
สถานีโทรทัศน์ของรัฐอิหร่านรายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดหลายครั้งในกรุงเตหะราน และระบบป้องกันภัยทางอากาศของประเทศอยู่ในสถานะเตรียมพร้อมเต็มที่
เจ้าหน้าที่ทหารอิสราเอลรายหนึ่งกล่าวว่า อิสราเอลกำลังโจมตีหลายสิบเป้าหมายทั้งที่เป็นเป้าหมายนิวเคลียร์และทางทหาร โดยระบุว่า อิหร่านมีวัสดุเพียงพอที่จะผลิตระเบิดนิวเคลียร์ได้ถึง 15 ลูกภายในไม่กี่วัน
หลังจากการโจมตีก่อนของรัฐอิสราเอลต่ออิหร่าน คาดว่าจะมีการโจมตีด้วยขีปนาวุธและอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ต่อรัฐอิสราเอลและพลเรือนในระยะเวลาอันใกล้นี้
รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล อิสราเอล แคตซ์ กล่าวในแถลงการณ์ ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ กล่าวว่า อิสราเอลดำเนินการโดยลำพังเพราะมองว่าจำเป็นเพื่อการป้องกันตนเอง
คืนนี้อิสราเอลได้ดำเนินการฝ่ายเดียวต่ออิหร่าน เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีอิหร่าน และสิ่งสำคัญอันดับแรกคือการปกป้องกองกำลังอเมริกันในภูมิภาค เเละอิหร่านไม่ควรโจมตีผลประโยชน์หรือบุคลากรของสหรัฐฯ