ต่างชาติจับตา ชายแดนไทย-กัมพูชา เสริมกำลัง-ฟ้องศาลโลก ศึกระอุยังไม่จบ

11 มิ.ย. 2568 | 03:40 น.
อัปเดตล่าสุด :11 มิ.ย. 2568 | 03:40 น.

ต่างชาติจับตา ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลาย แม้มีข้อตกลงถอนกำลังกลับสู่จุดเดิม แต่สถานการณ์ยังตึงเครียด

สื่อต่างประเทศรายงานตรงกันว่า ความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชายังไม่มีแนวโน้มคลี่คลาย แม้มีข้อตกลงถอนกำลังกลับสู่จุดเดิม แต่สถานการณ์ยังตึงเครียด ฝ่ายกัมพูชาประกาศจะนำข้อพิพาทขึ้นสู่ศาลโลก ขณะที่ไทยยืนยันแนวทางเจรจาทวิภาคี

ท่ามกลางกระแสความขัดแย้งชายแดนที่กลับมาร้อนแรงอีกครั้งระหว่างไทยและกัมพูชา สื่อต่างประเทศหลายสำนักต่างรายงานตรงกันว่า แม้จะมีการตกลงถอนกำลังทหารกลับสู่แนวแบ่งที่ใช้อยู่ในปี 2567 แต่สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนยังคงตึงเครียดอย่างมาก

จุดเริ่มต้นของความตึงเครียดรอบใหม่ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังมีรายงานการปะทะกันในพื้นที่ทับซ้อนระหว่างทหารสองฝ่าย ก่อนที่รัฐบาลไทยและกัมพูชาจะออกมาแถลงยืนยันการเสริมกำลังเพื่อ “รักษาความสงบเรียบร้อย” ของประเทศตนเอง

สำนักข่าว Reuters ระบุว่า กองทัพไทยได้เพิ่มความพร้อมด้านยุทธการ และเตรียม “ปฏิบัติการระดับสูง” หากสถานการณ์เลวร้ายลง ขณะที่ฝั่งกัมพูชาเดินหน้าทางการทูต โดยประกาศจะยื่นข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน 4 จุดขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) แม้ไทยจะไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลดังกล่าว

รายงานจาก AP News ชี้ว่า กระทรวงกลาโหมกัมพูชาระบุว่า แนวทางทางกฎหมายต่อ ICJ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการยืนยันสิทธิเหนือพื้นที่พิพาท โดยไม่รอการเจรจาทวิภาคีที่ยังไม่มีข้อสรุป ส่วนฝั่งไทยย้ำชัดว่าจะยึดแนวทางการพูดคุยผ่าน “คณะกรรมการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา” (JBC) ซึ่งมีการนัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 14 มิถุนายนนี้

ด้าน The Diplomat วิเคราะห์ว่า แม้ทั้งสองฝ่ายตกลง “ถอนกำลังแบบขนาน” เพื่อบรรเทาความตึงเครียด แต่ก็ยังไม่มีหลักประกันว่าจะสามารถป้องกันเหตุปะทะในอนาคตได้ โดยเฉพาะเมื่อกระแสชาตินิยมในประเทศทั้งสองกำลังพุ่งสูง

ขณะเดียวกัน ไทยเองก็มีการดำเนินมาตรการควบคุมพื้นที่ชายแดน อาทิ การลดระยะเวลาวีซ่าของชาวกัมพูชาเหลือเพียง 7 วัน และการตรวจเข้มผ่านด่านชายแดนหลัก เพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามากระทำการใดๆ ที่อาจกระทบความมั่นคง

แม้ยังไม่มีเหตุการณ์บานปลายรุนแรง แต่สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชายังถือว่า “เปราะบาง” เป็นอย่างมาก โดยมีความหวังว่าการประชุม JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ อาจเป็นเวทีสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่น และนำไปสู่แนวทางสันติภาพระหว่างทั้งสองประเทศ

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของกัมพูชาที่มุ่งสู่เวทีศาลโลก อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ และสร้างแรงกดดันต่อไทยให้ต้องทบทวนนโยบายการจัดการปัญหาเขตแดนในระดับสากล