สหรัฐ-จีน ลุ้นชี้ขาดเกมการค้า ใครได้เปรียบในสมรภูมิชิป-แร่

10 มิ.ย. 2568 | 02:55 น.
อัปเดตล่าสุด :10 มิ.ย. 2568 | 07:32 น.

สหรัฐฯ–จีน เจรจาการค้ารอบใหม่ที่ลอนดอนเป็นวันที่สอง หวัง“คลายข้อจำกัดชิป” กับ “ปลดล็อกแร่หายาก” ขณะที่เศรษฐกิจจีนสะดุด ส่งออกดิ่ง ราคาผู้ผลิตหดตัวแรง

KEY

POINTS

  • จีนควบคุมกระบวนการแปรรูปแร่หายากมากถึง 90% ของโลก และเริ่มใช้มาตรการควบคุมการส่งออกอย่างเข้มงวดตั้งแต่เดือนเมษายน 
  • ทีมเจรจาของทรัมป์ได้รับมอบหมายให้ผ่อนปรนข้อจำกัดการส่งออกสินค้าสหรัฐฯ บางรายการ โดยยังคงเข้มงวดกับเทคโนโลยีชั้นสูงอย่างชิป Nvidia สำหรับ AI 
  • การส่งออกโดยรวมของจีนในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นเพียง 4.8% ลดลงจาก 8.1% ในเดือนเมษายน โดยเฉพาะการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ร่วงลงถึง 34.5% 

การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนเปิดฉากอีกครั้งที่กรุงลอนดอน โดยมีเดิมพันสำคัญคือ “แร่หายาก” และ “เทคโนโลยีชิป” ซึ่งต่างฝ่ายต่างถือเป็นแต้มต่อเชิงยุทธศาสตร์ในการต่อรอง

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ และจีนจะกลับมาเจรจาการค้ากันอีกครั้งเป็นวันที่สองในลอนดอน โดยหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงควบคุมการส่งออกสินค้า เช่น แร่ธาตุหายาก ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกและการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจ  

การเจรจารอบใหม่นี้มีการประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้พูดคุยทางโทรศัพท์ ซึ่งเป็นการพูดคุยที่รอคอยมานานและดูเหมือนจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดที่เกิดขึ้นตลอดเดือนที่แล้ว ภายหลังการทำข้อตกลงอย่างไม่คาดคิดที่นครเจนีวา

เดือนพฤษภาคม ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะลดภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันอย่างมากในช่วงแรกเป็นเวลา 90 วัน บรรยากาศในตอนนั้นเป็นไปในเชิงบวก อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกนั้นก็แปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสองประเด็นสำคัญที่ยังคงเป็นข้อขัดแย้ง ได้แก่ การควบคุมของจีนต่อแร่หายาก และการเข้าถึงเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ที่มีต้นกำเนิดจากสหรัฐฯ

การส่งออกแร่หายากที่เกี่ยวข้องของจีนคาดว่าจะกลายเป็นหัวใจของการเจรจาที่กรุงลอนดอน ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า จีนไม่น่าจะยอมเสียอิทธิพลเชิงยุทธศาสตร์ต่อแร่หายากเหล่านี้ ซึ่งมีความจำเป็นต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยานพาหนะ และระบบป้องกันประเทศหลากหลายชนิด

โรบิน ซิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนประจำมอร์แกน สแตนลีย์ เขียนในบันทึกการวิเคราะห์ ว่า การควบคุมของจีนต่อซัพพลายแร่หายากกลายเป็นเครื่องมือที่ถูกวางแผนและแสดงออกอย่างหนักแน่นเพื่อใช้เป็นอิทธิพลทางยุทธศาสตร์ การที่จีนครอบงำซัพพลายเชนอย่างเกือบเบ็ดเสร็จ หมายความว่าแร่หายากจะยังคงเป็นไพ่ต่อรองสำคัญในการเจรจาการค้า

นับตั้งแต่การเจรจาที่เจนีวา ทรัมป์ได้กล่าวหาว่าจีนได้ขัดขวางการส่งออกแร่หายาก พร้อมประกาศข้อจำกัดเพิ่มเติมด้านชิป และขู่ว่าจะยกเลิกวีซ่านักเรียนจีนในสหรัฐฯ การดำเนินการเหล่านี้กระตุ้นให้เกิดการตอบโต้จากจีน ซึ่งมองว่าสหรัฐฯ ละเมิดข้อตกลงการค้าที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้า

สายตาจับจ้องไปที่การเจรจาในกรุงลอนดอนว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงในประเด็นพื้นฐานได้หรือไม่ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีพาณิชย์ โฮเวิร์ด ลัทนิค และผู้แทนการค้า เจมีสัน เกรียร์ จะเข้าร่วมประชุมกับคณะผู้แทนจีนซึ่งนำโดยรองนายกรัฐมนตรี เหอ ลี่เฟิง 

สิ่งที่สหรัฐฯ อาจยอมแลกเปลี่ยน

ทรัมป์ได้อนุญาตให้ทีมเจรจาการค้า ซึ่งนำโดยเบสเซนต์ ผ่อนคลายข้อจำกัดการส่งออกสินค้าบางประเภทของสหรัฐฯ ไปยังจีน ซึ่งข้อจำกัดเหล่านี้เคยถูกกำหนดไว้ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ แหล่งข่าวกล่าวกับ CNN

ยังไม่แน่ชัดว่าทีมเจรจาจะยื่นข้อเสนออะไรออกไป แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลทรัมป์จะยังคงรักษาขีดเส้นไว้ที่เทคโนโลยีบางประเภทที่สหรัฐฯ มองว่ามีความสำคัญต่อขีดความสามารถในการแข่งขันกับจีน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับสองของโลก

แลกกับการผ่อนปรนหรือยุติข้อจำกัดการส่งออกจำนวนหนึ่งหรือจำนวนมากในทันที สหรัฐฯ ต้องการให้จีนปล่อยปริมาณแร่หายากออกมาในระดับสูง

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จีนดูเหมือนจะส่งสัญญาณในเชิงประนีประนอม โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลการควบคุมการส่งออก กล่าวว่าได้ อนุมัติใบขออนุญาตบางส่วนที่เป็นไปตามข้อกำหนดแล้ว

จีนยินดีที่จะเพิ่มการสื่อสารและการเจรจากับประเทศที่เกี่ยวข้องในประเด็นควบคุมการส่งออก เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการค้าตามระเบียบ

เควิน แฮสเส็ตต์ หัวหน้าสภาเศรษฐกิจแห่งชาติประจำทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์ในรายการ Face the Nation ของ CBS ว่า ฝ่ายสหรัฐฯ จะพยายามฟื้นฟูกระแสการส่งออกแร่หายากที่สำคัญเหล่านั้นกลับมาเพิ่มขึ้น แม้จะยังไม่ถึงระดับที่เชื่อว่าเคยตกลงกันไว้ที่เจนีวา พร้อมเสริมว่ามั่นใจมาก จะมีข้อตกลงการค้าเกิดขึ้นหลังการเจรจา

แฮสเส็ตต์กล่าวว่า รัฐบาลทรัมป์อาจเปิดรับการผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วนต่อไมโครชิปที่จีนถือว่ามีความสำคัญต่อภาคการผลิต แม้ว่าสหรัฐฯ จะยังคงจำกัดการเข้าถึง ชิป Nvidia ขั้นสูง ซึ่งสามารถใช้กับระบบปัญญาประดิษฐ์ โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลไบเดนได้ตัดการเข้าถึงชิป AI ส่วนใหญ่จากจีนด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง และรัฐบาลทรัมป์ยังคงนโยบายดังกล่าวไว้

ไพ่สำคัญ

เดือนเมษายน ขณะที่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศยกระดับ จีนได้ออกระเบียบใบอนุญาตใหม่ต่อแร่หายาก 7 ชนิด และแม่เหล็กหลายประเภท โดยกำหนดให้ผู้ส่งออกต้องขออนุมัติเป็นรายครั้ง และแสดงเอกสารยืนยันการใช้งานปลายทางของวัสดุนั้น

ภายหลังการเจรจาที่เจนีวา รัฐบาลทรัมป์คาดว่าจีนจะยกเลิกข้อจำกัดเหล่านั้น แต่ CNN รายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่า การอนุมัติอย่างล่าช้าของจีนก่อให้เกิดความไม่พอใจอย่างมากภายในทำเนียบขาว

แร่หายากเป็นกลุ่มธาตุ 17 ชนิดที่พบมากกว่าทองคำ และมีอยู่ในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ แต่แร่เหล่านี้มีต้นทุนการสกัดและกระบวนการแปรรูปสูง รวมถึงสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จีนควบคุมการแปรรูปแร่หายากทั่วโลกอยู่ถึง 90%

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เป็นไปได้ที่จีนจะใช้ข้อได้เปรียบด้านแร่หายากนี้เป็นไพ่ต่อรอง เพื่อให้สหรัฐฯ ผ่อนคลายข้อจำกัดการส่งออกของตนเอง ที่มีเป้าหมายเพื่อสกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงจากสหรัฐฯ

หอการค้าอเมริกันในจีนกล่าวว่า ซัพพลายเออร์จีนบางรายที่ส่งของให้บริษัทสหรัฐฯ ได้รับใบอนุญาตการส่งออกแบบมีระยะเวลา 6 เดือน Reuters รายงานโดยอ้างแหล่งข่าว 2 รายว่า ซัพพลายเออร์ของบริษัทรถยนต์สหรัฐฯ รายใหญ่ เช่น เจเนอรัล มอเตอร์ส, ฟอร์ด และผู้ผลิต Jeep อย่าง Stellantis ก็ได้รับใบอนุญาตชั่วคราวเช่นกัน

แม้จีนอาจเร่งการอนุมัติใบอนุญาตเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศทางการทูต แต่บันทึกการวิจัยเมื่อวันศุกร์จาก Leah Fahy นักเศรษฐศาสตร์ด้านจีนของ Capital Economics บริษัทที่ปรึกษาในลอนดอน ระบุว่า การเข้าถึงแร่หายากจากจีนน่าจะยังจำกัดมากกว่าช่วงก่อนเดือนเมษายน

ปัญหาเศรษฐกิจของจีน

ขณะที่จีนเผชิญหน้ากับสงครามภาษีกับสหรัฐฯ ความเสียหายทางเศรษฐกิจก็ยังดำเนินต่อไป ข้อมูลการค้าและราคาที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์แสดงภาพเศรษฐกิจจีนที่พึ่งพาการส่งออกอย่างหนักในภาวะซบเซา

การส่งออกโดยรวมในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นเพียง 4.8% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลของสำนักงานศุลกากรแห่งชาติจีน ถือเป็นการชะลอตัวลงอย่างมากจากระดับ 8.1% ในเดือนเมษายน และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลของ Reuters คาดไว้ที่ 5.0%

การส่งออกของจีนไปยังสหรัฐฯ ลดลงอย่างมากถึง 34.5% การลดลงรายเดือนนี้รุนแรงกว่าการลดลง 21% ในเดือนเมษายน แม้จะมีการประกาศสงบศึกทางการค้าเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ทำให้อัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีนของสหรัฐฯ ลดจาก 145% เหลือ 30%

ขณะเดียวกัน ความเสี่ยงด้านเงินฝืดยังคงกดดันเศรษฐกิจจีน จากข้อมูลของสำนักสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ที่เผยแพร่แยกเมื่อวันจันทร์ ในเดือนพฤษภาคม ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน ซึ่งเป็นตัววัดเงินเฟ้อ ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน

อัตราเงินฝืดจากภาคอุตสาหกรรม ซึ่งวัดจากดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 3.3% ในเดือนพฤษภาคมเมื่อเทียบปีต่อปี การลดลงครั้งนี้ถือว่าเป็นการหดตัวมากที่สุดในรอบ 22 เดือนตามข้อมูลของ NBS