ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งของประธานาธิบดี เพื่อห้ามพลเมืองจาก 12 ประเทศเดินทางเข้าสหรัฐฯ โดยสมบูรณ์ โดยให้เหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ
ประเทศที่ถูกห้ามเข้าสหรัฐฯ โดยสมบูรณ์ ได้แก่ อัฟกานิสถาน, เมียนมา, ชาด, สาธารณรัฐคองโก, อิเควทอเรียลกินี, เอริเทรีย, เฮติ, อิหร่าน, ลิเบีย, โซมาเลีย, ซูดาน และเยเมน
ขณะเดียวกัน ยังมีการจำกัดการเดินทาง “บางส่วน” สำหรับพลเมืองจาก 7 ประเทศ ได้แก่
บุรุนดี, คิวบา, ลาว, เซียร์ราลีโอน, โตโก, เติร์กเมนิสถาน และเวเนซุเอลา
เราจะไม่อนุญาตให้ผู้คนที่ต้องการทำร้ายเราเข้ามาในประเทศของเรา
คำสั่งฉบับนี้ถือเป็นการนำนโยบายห้ามเดินทางที่เคยใช้ในปี 2017 กลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่งนโยบายเดิมเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นการเลือกปฏิบัติต่อประเทศมุสลิม ก่อนจะถูกยกเลิกโดยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในปี 2021
ฝ่ายบริหารของทรัมป์ระบุว่า การห้ามเดินทางครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้รัฐบาลต่างประเทศปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัย และเพิ่มการแบ่งปันข้อมูลกับสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม กลุ่มสิทธิมนุษยชนและนักวิจารณ์หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่ามาตรการดังกล่าวอาจเข้าข่ายการเลือกปฏิบัติและละเมิดสิทธิมนุษยชน
คำสั่งนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2025 และคาดว่าจะเผชิญกับการท้าทายทางกฎหมายจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนและองค์กรต่างๆ