แม้ทองคำจะถูกค้นพบและสะสมมาตลอดประวัติศาสตร์มนุษยชาติ แต่ข้อมูลล่าสุดชี้ให้เห็นว่า เมื่อเฉลี่ยจากปริมาณทองคำที่ถูกค้นพบทั้งหมดจนถึงปัจจุบัน ประชากรโลกแต่ละคนจะมีทองคำอยู่ในมือได้เพียงแค่หนึ่งออนซ์เท่านั้น
ตามรายงานของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐฯ (U.S. Geological Survey) ทองคำที่ถูกค้นพบทั่วโลกจนถึงปัจจุบันมีปริมาณรวม 244,000 เมตริกตัน ตัวเลขนี้ครอบคลุมทั้งทองคำที่ถูกขุดขึ้นมาแล้วในประวัติศาสตร์ และทองคำสำรองที่ยังคงหลงเหลือในแหล่งที่รู้จัก
เมื่อคำนวณด้วยจำนวนประชากรโลกในปี 2024 ที่อยู่ที่ 8.16 พันล้านคน (อ้างอิงจาก United Nations World Population Prospects 2024) จะพบว่าทองคำเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 29.89 กรัม หากนำมาเปรียบเทียบจะเห็นได้ว่าเท่ากับประมาณ1 ออนซ์ หรือเทียบเท่ากับแหวนทองคำมาตรฐาน 6 วงต่อคน
ทองคำส่วนใหญ่ ปัจจุบันถูกใช้ไปกับการผลิตเครื่องประดับ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งอยู่ในการถือครองของธนาคารกลางทั่วโลก โดย สหรัฐ เป็นประเทศที่ถือทองคำสำรองมากที่สุดในโลก ราว 8,000 ตัน
ขณะที่ จีน อยู่ในอันดับที่ 6 ถือครองอยู่ประมาณ 2,200 ตัน และยังคงเพิ่มปริมาณอย่างต่อเนื่องเพื่อกระจายความเสี่ยงจากการถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
แม้ว่าทองคำที่ค้นพบแล้วจะมีจำนวนจำกัด แต่โลกยังคงมีการขุดทองอย่างต่อเนื่องทุกปี โดย จีน ครองตำแหน่งประเทศผู้ผลิตทองคำอันดับหนึ่งของโลก แม้จะไม่มีเหมืองขนาดใหญ่แบบออสเตรเลียหรือสหรัฐฯ แต่ก็อาศัยเหมืองขนาดเล็กจำนวนมากและระบบกลั่นที่มีประสิทธิภาพ ส่วน ออสเตรเลีย รั้งอันดับสองและเป็นเจ้าของเหมืองทองคำขนาดใหญ่สองแห่งใน 10 อันดับแรกของโลก
ย้อนกลับไปในอดีต แอฟริกาใต้ เคยเป็นผู้นำด้านการผลิตทองคำของโลกระหว่างปี 1900-1970 โดยเคยผลิตได้สูงสุดถึง 1,000 เมตริกตันต่อปี ซึ่งยังไม่มีประเทศใดสามารถทำลายสถิตินี้ได้ในหนึ่งปี
ตัวเลข "เฉลี่ยทองคำต่อคน" ที่ออกมาเพียง 1 ออนซ์ นอกจากจะย้ำถึงความหายากของทองคำแล้ว ยังเป็นเครื่องสะท้อนว่าทำไมทองคำจึงยังถูกยกให้เป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” ที่มีมูลค่า แม้ในภาวะเศรษฐกิจผันผวนก็ตาม