จีนโต้กลับสหรัฐฯ หยุดใส่ร้าย - ปกปิดเป้าหมายคุมคลองปานามา

จีนออกแถลงการณ์ตอบโต้สหรัฐอเมริกาอย่างตรงไปตรงมา ภายหลังจากที่สื่อในปานามาเผยแพร่บทวิจารณ์ร้อนแรงเกี่ยวกับแผนการแทรกแซงของสหรัฐฯ ในภูมิภาคลาตินอเมริกา โดยเฉพาะความพยายามเข้าควบคุม "คลองปานามา" ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเรือยุทธศาสตร์ของโลก การตอบโต้ครั้งนี้ถูกนำเสนอผ่านถ้อยแถลงของ กัว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ที่ระบุว่า "ไม่มีคำโกหกใดสามารถปกปิดความอยากมีอยากได้ของสหรัฐฯ ได้" และย้ำชัดว่าสหรัฐฯ ควรหยุดใส่ร้ายจีน พร้อมเรียกร้องให้หยุดขัดขวางความร่วมมือที่เป็นปกติระหว่างจีนกับประเทศในลาตินอเมริกา ซึ่งรวมถึงปานามา

คำกล่าวของ กัว เจียคุน มีขึ้นเพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับบทวิจารณ์จากสื่อปานามา ที่ระบุว่าสหรัฐฯ กำลังใช้ "ภัยคุกคามจากจีน" เป็นข้ออ้างในการเข้าแทรกแซงกิจการภายในของประเทศต่างๆ ในอเมริกากลาง พร้อมทั้งเปิดโปงถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะตั้งฐานทัพถาวรในปานามา ซึ่งอาจนำมาซึ่งความเสี่ยงของการแทรกแซงทางทหารและการเอารัดเอาเปรียบทางเศรษฐกิจในระยะยาว บทวิจารณ์ดังกล่าวยังวิพากษ์แผนของสหรัฐฯ ว่าอาจสร้างความเสียหายอย่างลึกซึ้งต่อผลประโยชน์ของปานามาเอง

กัว เจียคุน ย้ำว่า การที่สหรัฐฯ ประดิษฐ์เรื่องราวที่จีนพยายามควบคุมคลองปานามา และใช้ประเด็นดังกล่าวมาโจมตีจีนอย่างมุ่งร้าย ถือเป็นความพยายามสร้าง "ข้ออ้าง" เพื่อเปิดทางให้สหรัฐฯ ขยายอิทธิพลและปักหมุดการครอบงำในภูมิภาคอย่างถาวร โดยเฉพาะภายใต้แนวคิดแบบลัทธิมอนโร (Monroe Doctrine) ที่เน้นการแทรกแซงและอ้างสิทธิ์ความเป็นผู้นำเหนือลาตินอเมริกา

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนยังกล่าวชื่นชมบทวิจารณ์ที่ "เฉียบคม" จากสื่อปานามา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง "ธาตุแท้ของพฤติกรรมการใช้อำนาจครอบงำของสหรัฐฯ" พร้อมระบุว่าประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงประชาชนในปานามา ต่างก็มองเห็นพฤติกรรมเหล่านี้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ โฮเซ ราอูล มูลิโน ประธานาธิบดีของปานามา ได้ออกมาปฏิเสธอย่างชัดเจนต่อข้อกล่าวหาที่ว่า จีนเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของปานามา

จีนยังส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯ ควรหันมาให้ความสำคัญกับ "การดำเนินการที่จับต้องได้จริง" ที่จะส่งเสริมการพัฒนาและความรุ่งเรืองของภูมิภาค รวมถึงประชาคมโลก มากกว่าการสร้างวาทกรรมใส่ร้ายหรือหาข้ออ้างในการยึดครองพื้นที่ยุทธศาสตร์อย่างคลองปานามา

สำหรับคลองปานามา เส้นทางเดินเรือที่เชื่อมมหาสมุทรแอตแลนติกและแปซิฟิกนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบโลจิสติกส์โลก ซึ่งการครอบครองหรือควบคุมเส้นทางดังกล่าวย่อมมีนัยทางยุทธศาสตร์ทั้งในมิติความมั่นคงและเศรษฐกิจระดับโลก การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจต่อบทบาทและอิทธิพลในภูมิภาคจึงไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ความชัดเจนในการออกมาโต้กลับอย่างแข็งกร้าวของจีนในครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณเตือนว่า ประเด็นคลองปานามาอาจกลายเป็นอีกหนึ่งจุดร้อนในความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่โลกไม่อาจมองข้าม