เศรษฐีอเมริกันแห่เปิดบัญชีธนาคารสวิส-ซื้อทองคำ หนีภาษีทรัมป์

23 เม.ย. 2568 | 03:08 น.
อัปเดตล่าสุด :23 เม.ย. 2568 | 03:08 น.

ชาวอเมริกันผู้มั่งคั่งเทเงินใส่บัญชีธนาคารสวิสและซื้อทองคำ เตรียมรับมือภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังมาตรการภาษีของทรัมป์ ส่งแรงกระเพื่อมต่อตลาด-ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ

เงินกำลังเห็นกระแสไหลบ่าของนักลงทุนอเมริกันผู้มั่งคั่ง หลังจากที่มาตรการภาษีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งแรงกระเพื่อมต่อตลาดและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ กลุ่มคนรวยระดับ 1% กำลังเปิดบัญชีลงทุนในต่างประเทศและเทเงินซื้อทองคำแท่ง แต่นั่นไม่ใช่วิธีเดียวที่ชาวอเมริกันใช้เพื่อปกป้องความมั่งคั่งจากหายนะในตลาดหุ้น

นักเศรษฐศาสตร์จาก J.P. Morgan ไปจนถึง Apollo กำลังเตือนว่า สหรัฐฯ มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ดังนั้นชาวอเมริกันจึงกำลังนำเงินไปไว้กับสิ่งที่เห็นว่ามั่นคงกว่า นั่นคือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเปิดบัญชีลงทุนและซื้อทองคำอย่างล้นหลาม

 

เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ตกอยู่ในภาวะระส่ำระสาย

ตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัมป์เริ่มใช้มาตรการแข็งกร้าวกับการค้าระหว่างประเทศ "วันปลดปล่อย" เมื่อวันที่ 2 เมษายน เปิดตัวด้วยการกำหนดอัตราภาษีพื้นฐาน 10% สำหรับสินค้านำเข้าทุกประเภทเข้าสู่สหรัฐฯ คู่ปรับต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของทรัมป์อย่างจีนได้รับผลกระทบหนักที่สุด

โดยมีการเก็บภาษีสินค้าสูงถึง 145% นักลงทุนที่ตื่นตระหนกรีบเทขายหุ้นและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ส่งผลให้มูลค่าหุ้นทั่วโลมหายไปถึง 10 ล้านล้านดอลลาร์ ก่อนที่ทรัมป์จะ ระงับภาษีบางส่วนในวันที่ 9 เมษายน

แทนที่จะขายในช่วงตลาดร่วงหรือพยายามจับจังหวะการลงทุน คนอเมริกันผู้มั่งคั่งกลับเลือกกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของตน และพึ่งพาเศรษฐกิจที่ปลอดภัยและมั่นคงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอย่าง สวิตเซอร์แลนด์

ทำไมสวิตเซอร์แลนด์จึงดึงดูดคนอเมริกันผู้มั่งคั่ง

ธนาคารเอกชน Pictet ของสวิส เปิดเผยกับ NBC News ว่า มีคำร้องขอจากลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่สาขาซึ่งจดทะเบียนกับสำนักงาน ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ เพื่อให้บริการลูกค้าชาวอเมริกัน

บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินรายอื่นในประเทศ เช่น Alpen Partners International ก็ได้รับลูกค้าจากอเมริกาเหนืออย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของแผนลูกค้าที่ต้องการ “ลดความเป็นอเมริกัน” ของพอร์ตการลงทุนของตน และสวิตเซอร์แลนด์ก็ยินดีรับเงินของพวกเขา

ประเทศในยุโรปแห่งนี้กลายเป็นแหล่งหลบภัยทางการเงินด้วยเหตุผลหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การเมืองมักเป็นกลาง เศรษฐกิจมั่นคง และสกุลเงินมีเสถียรภาพ

นักลงทุนชาวอเมริกันสามารถฝากเงินเข้าบัญชีธนาคารในสวิสได้ในรูปสกุล "เงินฟรังก์สวิส" พร้อมตัวเลือกเป็นยูโรและดอลลาร์ด้วย แต่ฟรังก์สวิสซึ่งมีเสถียรภาพอาจเป็นที่ต้องการมากกว่า เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงในระยะหลัง

โดยฟรังก์เคยแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับทั้งยูโรและดอลลาร์สหรัฐฯ มาแล้วหลายครั้ง อัตราเงินเฟ้อของสวิสก็ยังอยู่ในระดับต่ำ และรัฐบาลก็มีแนวโน้มไม่แทรกแซงเศรษฐกิจ

ประเทศที่มีจุดยืนเป็นกลางนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องการเก็บรักษา "ทองคำ" และโรงกลั่นทอง ซึ่งนักลงทุนชาวอเมริกันสามารถซื้อได้ผ่านบัญชีธนาคารสวิส ทองคำจริงกลายเป็นสินทรัพย์ยอดนิยมในช่วงที่ตลาดผันผวน เพราะมูลค่าว่าไม่สั่นคลอน และในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทองคำยังให้ผลตอบแทนดีกว่า S&P 500 ด้วยซ้ำ

สถานะสินทรัพย์ปลอดภัยของทองคำยังไม่ลดลง

ลีนา โธมัส นักวิเคราะห์สินค้าของ Goldman Sachs กล่าวกับ นิตยสาร Fortune หลังจากความไม่แน่นอนในตลาด เช่น ภาษีแบบกวาดล้างของทรัมป์ ราคาทองอาจร่วงลงชั่วคราว ก่อนจะดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเราคาดว่าจะเห็นความต้องการทองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

การเปิดบัญชีธนาคารในสวิสค่อนข้างตรงไปตรงมา แต่กระบวนการนี้มีข้อกำหนดการเปิดเผยข้อมูลที่เข้มงวดของสหรัฐฯ ชาวอเมริกันต้องรายงานบัญชีของตนต่อกรมสรรพากร (IRS) ผ่านรายงานบัญชีธนาคารและการเงินในต่างประเทศ (FBAR) และธนาคารสวิสต้องตรวจสอบประวัติลูกค้าเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามกฎต่อต้านการฟอกเงิน

ชาวอเมริกันเตรียมพร้อมรับมือภาวะถดถอย

การเทเงินใส่บัญชีธนาคารสวิสและกักตุนทองคำแท่งไม่ใช่วิธีเดียวที่ชาวอเมริกันใช้ในการป้องกันตัวเองจากภาวะถดถอย

เมื่อปลายปีที่แล้ว ชาวอเมริกันเตรียมตัวรับมือกับภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเริ่มกักตุนสิ่งจำเป็นไว้ล่วงหน้า หนึ่งในสามของคนอเมริกันวางแผนจะซื้อของมากขึ้น โดย 39% ให้เหตุผลว่า “กลัวภาษี”

ตามการสำรวจของ CreditCards.com ในปี 2024 รายการสินค้าที่กักตุนมากที่สุดคือกระดาษชำระ ตามมาด้วยอาหารที่เก็บได้นาน อุปกรณ์การแพทย์ และยาแบบไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์

แม้แต่คนรุ่น Gen Z ที่เคยเป็นที่รู้จักจากพฤติกรรม “doom spending” หรือใช้เงินกับของฟุ่มเฟือยเล็ก ๆ เพื่อกระตุ้นโดพามีน ก็เริ่มละทิ้งพฤติกรรมการใช้เงินเหล่านั้น ตอนนี้พวกเขาลดการใช้จ่ายกับของจุกจิกด้วยรายการห้ามซื้อ ใช้ ChatGPT เป็นนักบำบัดฟรี และออกไปค้นหาสินค้าในถังขยะ คนรุ่นใหม่เหล่านี้กำลังเป็นแรงผลักดันให้เกิดกระแสรัดเข็มขัดครั้งใหม่