น้ำผึ้งหยดเดียว เผาบ้านเผาเมืองเม็กซิโก

22 ม.ค. 2567 | 02:44 น.

เม็กซิโกเร่งสอบ 4 ตำรวจคดียิงทิ้งหนุ่ม 27 หลังชาวบ้านเดือดประท้วงเผาเมือง สะท้อนปัญหาการใช้อำนาจเกินขอบเขตและการทุจริตคอร์รัปชันในแวดวงคนในเครื่องแบบที่ฝังรากลึกมายาวนาน

 

สื่อต่างประเทศรายงานความคืบหน้าคดี ตำรวจเม็กซิโก ยิงหนุ่มวัย 27 เสียชีวิต เหตุไม่หยุดรถเมื่อถูกเรียกตรวจ ทำให้เกิด การชุมนุมประท้วง เจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ จนลุกลามบานปลายกลายเป็น จลาจล เผาทำลายทรัพย์สินราชการ และเกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจกับชาวบ้าน ล่าสุด 4 นายตำรวจเกี่ยวเนื่องคดีถูกสั่งสอบเข้ม

สำนักงานตำรวจรัฐเบราครูซ (Veracruz) ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเม็กซิโก ออกแถลงข่าววานนี้ (21 ม.ค.) ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายในเมืองเลอร์โด เดอ เตฆาดา  (Lerdo de Tejada) ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งทางตอนใต้ของรัฐดังกล่าว ได้ถูกสั่งพักงานและถูกส่งตัวไปยังสำนักงานอัยการเพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบปากคำกรณีพัวพันการลั่นกระสุนสังหารนายแบรนดอน อาเรลลาโน ชายหนุ่มวัย 27 ปี โดยเบื้องต้นตำรวจอ้างว่า นายอาเรลลาโนถูกยิงเสียชีวิตคาที่ในรถยนต์ส่วนตัวของเขา หลังจากที่ตำรวจสั่งให้เขาหยุดรถ ณ ด่านตรวจ แต่เขาไม่ยอมหยุด โดยเหตุเกิดในคืนวันศุกร์ (19 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น

รถตำรวจสองคันถูกชาวบ้านเผาวอด เหลือแต่ซาก

น้ำผึ้งหยดเดียว เผาบ้านเผาเมืองเม็กซิโก

ฝ่ายญาติของนายอาเรลลาโนกล่าวว่า เป็นไปได้ที่ชายหนุ่มคนนี้ไม่ยอมหยุดรถเพราะความหวาดกลัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มีชื่อเสียงในทางไม่ดีนักทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจ พ่อของนายอาเรลลาโนเปิดเผยกับสำนักข่าวเอพีว่า ลูกชายโทรหาเขาและบอกว่ากำลังถูกตำรวจขับรถไล่ล่า ลูกชายตั้งใจขับรถหนีไปที่บ้านย่า ตัวเขาเองหลังจากได้คุยกับลูกชาย ก็รีบรุดไปยังบ้านมารดา (ย่าของนายอาเรลลาโน) และยังทันได้เห็นรถของลูกชายพุ่งเข้ามาจอดหน้าบ้าน ก่อนจะได้ยินเสียงปืน 2 นัด และเมื่อวิ่งไปดูที่รถซึ่งกระจกแตกละเอียด ก็พบว่าลูกชายฟุบหน้าอยู่ มีเลือดไหลหยดจากบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ

พ่อและแม่ของนายอาเรลลาโนซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ เข้าไปต่อว่านายตำรวจ และหลังจากนั้นชาวบ้านก็เริ่มเข้ามามุง พวกเขาเดือดดาลกับเหตุตำรวจยิงประชาชน จึงเข้าล้อมจะทำร้ายตำรวจ ซึ่งตำรวจนายหนึ่งหนีไปได้ ขณะอีก 4 นายถูกชาวบ้านทำร้ายบาดเจ็บกระทั่งมีเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันประเทศเข้ามาช่วยเหลือและพาตัวไปส่งโรงพยาบาล  รายงานข่าวระบุว่า ตำรวจ 4 นายดังกล่าว น่าจะเป็น 4 นายที่ถูกสั่งพักงานและถูกสอบสวนอยู่ในขณะนี้

อย่างไรก็ก็ตาม ดูเหมือนความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่อการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะไม่อาจหยุดยั้งได้แล้วเพราะพวกเขาจำนวนนับสิบๆคน ได้รวมตัวกันประท้วง และทำลายทรัพย์สินราชการ พวกเขาเริ่มจุดไฟเผาอาคารศาลากลาง และเผารถตำรวจ 2 คัน

ภาพจากสถานีโทรทัศน์สกายนิวส์ แสดงให้เห็นนาทีชาวบ้านกำลังห้อมล้อมรุมยำนายตำรวจในจุดเกิดเหตุตำรวจลั่นไกสังหารหนุ่มวัย 27 ปี

ความรุนแรงสะท้อนปัญหาหมักหมมมานาน 

มาเรีย เอสเธอร์ แอร์โรนิส นายกเทศมนตรีเมืองเลอร์โด เดอ เตฆาดา ได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของนายอาเรลลาโน แต่ขณะเดียวกันก็ได้ประณามการกระทำของชาวบ้านที่เธอระบุว่า “ฉวยโอกาส” ระบายความเดือดดาลและเติมเชื้อไฟให้กับความเกลียดชัง (เจ้าหน้าที่) ป่วนเมือง สร้างความเสียหาย และทำลายความมั่นคง-ปลอดภัยในสังคม    

อย่างไรก็ตาม ประชาชนจำนวนมากในเมืองดังกล่าวแสดงความเห็นว่า พวกเขาสุดทนและเบื่อหน่ายกับการใช้อำนาจบาตรใหญ่ของคนในเครื่องแบบมาเนิ่นนานแล้ว เจ้าของร้านขายของรายหนึ่งกล่าวกับเอพีว่า ในคืนวันศุกร์ที่เป็นวันเกิดเหตุสังหารนายอาเรลลาโน ตัวเขาเองก็ถูกตำรวจเข้ามาคุมตัวถึงสองครั้งและพยายามยัดข้อหาครอบครองสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งที่เขาไม่ได้ทำผิดอะไร “การเผาบ้านเผาเมืองไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำ ผมรู้ แต่เราก็ต้องเข้าใจด้วยว่าประชาชนเองก็เหลืออดเหลือทนแล้วกับการใช้อำนาจเกินขอบเขตของเจ้าหน้าที่”

ทั้งนี้ การกระทำผิดโดยไม่ได้รับโทษนั้นเกิดขึ้นบ่อยๆในเม็กซิโก ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ก่ออาชญากรรม มีเพียงราวๆ 1% เท่านั้นที่มีการแจ้งความและมีการสอบสวนดำเนินคดี (ข้อมูล ณ ปี 2565 โดยการรวบรวมของสถาบัน National Institute of Statistics and Geography ของเม็กซิโก)

ในรัฐเบราครูซ (Veracruz) ที่เกิดเหตุการณ์ล่าสุดนี้ มีรายงานการใช้ความรุนแรงมานานหลายปีแล้ว โดยส่วนหนึ่งเกี่ยวโยงกับแก๊งอาชญากร เนื่องจากรัฐนี้ตั้งอยู่บนเส้นทางหลวงที่สามารถเดินทางได้เร็วที่สุดระหว่างอเมริกากลางและสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังมีหลายคดีที่หน่วยงานภาครัฐหลายหน่วยงานเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตคอร์รัปชันและการละเมิดสิทธิมนุษยชน