แบงก์ชาติจีนออกโรงสกัดเงินหยวนอ่อนค่า หลังมูดี้ส์หั่นลดความน่าเชื่อถือ

08 ธ.ค. 2566 | 02:06 น.

แบงก์ชาติจีนออกโรงสกัดเงินหยวนอ่อนค่าผ่านการกำหนดอัตราอ้างอิงรายวัน หลังจากบรรยากาศการซื้อขายในตลาดจีนได้รับผลกระทบจากการที่มูดี้ส์ฯ ปรับลดความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้รัฐบาลจีน ส่งผลให้เงินหยวนทั้งในตลาดออนชอร์และออฟชอร์อ่อนค่าลงตั้งแต่ต้นสัปดาห์

 

ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้กำหนด อัตราอ้างอิงเงินหยวนรายวัน กลางสัปดาห์นี้ (6 ธ.ค.) ที่ระดับ 7.1140 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับการค่าเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กประมาณการไว้ที่ 7.1486 หยวนต่อดอลลาร์ โดยส่วนต่างของอัตราอ้างอิงที่กำหนดโดย PBOC และการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์นั้น มีความกว้างมากที่สุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า จีนกำลังเพิ่มความพยายามใน การป้องกันไม่ให้เงินหยวนอ่อนค่า ลงไปอีก

นายคริสโตเฟอร์ หว่อง นักกลยุทธ์จากบริษัทโอเวอร์ซี ไชนีส แบงกิง คอร์ป กล่าวว่า PBOC ยังคงส่งสัญญาณในรูปแบบเดิมว่าต้องการที่จะรักษาเสถียรภาพของค่าเงินหยวน และจะไม่ปล่อยให้มูดี้ส์ทำลายความพยายามของ PBOC ขณะที่นักลงทุนไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่า PBOC จะเข้ามาแทรกแซงตลาด หากเงินหยวนมีความผันผวนมากเกินไป

ทั้งนี้ มูดี้ส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ ได้ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลจีนลงสู่เชิงลบจากเดิมที่อยู่ในระดับมีเสถียรภาพเมื่อวันอังคาร (5 ธ.ค.) โดยระบุถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงในระยะกลาง และความเสี่ยงจากวิกฤตครั้งใหญ่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน รวมทั้งภาระหนี้สาธารณะที่ทะยานสูงขึ้น

ธนาคารกลางจีน (PBOC) กำหนดอัตราอ้างอิงเงินหยวนรายวันกลางสัปดาห์นี้ (6 ธ.ค.) ที่ระดับ 7.1140 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ

“การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือสะท้อนถึงหลักฐานที่เพิ่มขึ้นว่า รัฐบาลจีนจะต้องให้การสนับสนุนด้านการเงินกับรัฐบาลท้องถิ่นและบริษัทของรัฐที่มีปัญหาด้านหนี้สิน ซึ่งจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความแข็งแกร่งด้านการคลัง เศรษฐกิจ และสถาบันของจีน” แถลงการณ์ของมูดี้ส์ระบุ และว่า การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มความน่าเชื่อถือ ยังสะท้อนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะกลางที่ชะลอลง และการที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนมีขนาดเล็กลงอย่างต่อเนื่อง

ก่อนหน้านี้ ในปี 2560 มูดี้ส์เคยปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของจีนลงสู่อันดับ A1 โดยระบุถึงการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงและหนี้สินที่เพิ่มขึ้น

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนมีขนาดเล็กลงอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าว 3 รายระบุว่า จากสถานการณ์เงินหยวนที่อ่อนค่าลงในช่วงเวลานี้ ทำให้กลุ่มธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของรัฐบาลจีน ได้ออกโรงช่วยพยุงค่าเงินหยวน ด้วยการดำเนินการขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในตลาดปริวรรตเงินตราสปอตในประเทศ 2 วันติดต่อกัน ตั้งแต่ 5-6 ธ.ค. ที่ผ่านมา

รายงานระบุว่า กลุ่มธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของรัฐบาลจีนได้ดำเนินการเข้าซื้อเงินหยวนในตลาดต่าง ๆ ตั้งแต่เมื่อวันอังคาร (5 ธ.ค.) เพื่อป้องกันไม่ให้เงินหยวนอ่อนค่าลงมากจนเกินไป และกระหน่ำขายเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังการประกาศของมูดี้ส์

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า กลุ่มธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของรัฐบาลจีนดำเนินการในลักษณะดังกล่าวอีกครั้งในการซื้อขายภาคเช้าวันพุธ (6 ธ.ค.) แต่เทขายดอลลาร์สหรัฐน้อยลง เนื่องจากกลุ่มผู้ส่งออกจีนบางรายอาศัยจังหวะที่หยวนอ่อนค่าลงดำเนินการแปลงเงินรายได้สกุลดอลลาร์สหรัฐกลับเป็นเงินหยวนในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งช่วยให้ค่าเงินหยวนฟื้นตัวขึ้น

ปกติแล้วกลุ่มผู้ส่งออกจีนจะแปลงรายได้สกุลเงินต่างชาติกลับเป็นเงินหยวนก่อนสิ้นปีเพื่อนำไปใช้จ่ายในโอกาสต่าง ๆ เช่น การจ่ายโบนัสสิ้นปีให้พนักงาน ซึ่งการกระทำลักษณะดังกล่าวถือเป็นการหนุนค่าเงินหยวนตามฤดูกาล

อย่างไรก็ตาม แม้กลุ่มธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของรัฐบาลจีนจะเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่เงินหยวนยังคงอ่อนค่าลงโดยเงินหยวนสปอตเปิดตลาดที่ 7.1570 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐและซื้อขายที่ 7.1568 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ เวลา 10.00 น.ของวันพุธ (6 ธ.ค.) ตามเวลาไทย ซึ่งอ่อนค่าลง 0.0088 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดวันอังคาร ส่วนหยวนในตลาดออฟชอร์ซื้อขายที่ 7.1641 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันเดียวกัน ตามเวลาไทย