การประกาศชื่อ “เทย์เลอร์ สวิฟต์” (Taylor Swift) เป็น “บุคคลแห่งปี” ประจำปี 2023 โดย นิตยสารไทม์ ถือเป็นครั้งแรกที่บุคคลจากสายงานด้านศิลปะได้รับตำแหน่งนี้ โดยไทม์ระบุว่า ระหว่างที่ความนิยมในตัวเธอเพิ่มขึ้นในช่วงหลายทศวรรษมานี้ นี่คือปีที่สวิฟต์ ในวัย 33 ปี ได้สร้างปรากฏการณ์ระดับนิวเคลียร์ฟิวชั่นขึ้นมา ซึ่งหมายถึงการถ่ายทอดผลงานที่เป็นทั้ง “ศิลปะ”และ “สินค้าเชิงพาณิชย์” ผนวกรวมกันเพื่อปลดปล่อยพลังงานที่ทรงพลังเลื่อนลั่นครั้งประวัติศาสตร์
สวิฟต์ให้สัมภาษณ์ไทม์ว่า จุดเริ่มต้นของเธออาจมีอุปสรรคบ้างแต่มันก็ตามมาด้วยเรื่องราวที่น่าประทับใจและดีเกินคาดด้วยซ้ำ ตอนอายุเพียง 17 ปี สวิฟต์มีทั้งพรสวรรค์และความสามารถที่เข้าตาซูเปอร์สตาร์เพลงคันทรีอย่างเคนนีย์ เชสนีย์ เธอได้รับเชิญให้ร่วมแสดงเป็นวงเปิด เธอจำได้ดีว่าตื่นเต้นแค่ไหนที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของทัวร์คอนเสิร์ตของศิลปินแถวหน้า นั่นจะเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับอาชีพการงานของเธอในวงการนี้แน่ๆ แต่ไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้นก็มีข่าวร้าย สปอนเซอร์ทัวร์คอนเสิร์ตของเชสนีย์เป็นบริษัทผู้ผลิตเบียร์ นั่นหมายความว่า สวิฟต์อายุไม่ถึงเกณฑ์จะเข้าร่วมงานอีเวนต์สำคัญที่เธอรอคอย หัวใจสลายกับโอกาสที่หลุดลอยได้ไม่นาน ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น สวิฟต์ก็ได้ฉลองวันเกิดอายุ 18 ปี เธอได้พบกับทีมงานของเชสนีย์และได้รับการ์ดใบเล็กๆจากเชสนีย์ที่เขียนว่า
“น่าเสียดายที่เธอไม่ได้มาร่วมทัวร์คอนเสิร์ตกับพวกเรา ผมก็เลยอยากจะให้อะไรเป็นการชดเชยนะ” พร้อมกับการ์ดใบนั้นคือเช็กเงินสดที่มูลค่าของมันทำให้หัวใจของสวิฟต์ฟูฟ่อง “มันเป็นเงินก้อนใหญ่ที่ฉันไม่เคยได้แตะมาก่อนในชีวิตนี้ มันมากพอจะจ่ายเป็นโบนัสให้สมาชิกในวงของฉัน มากพอจะจ่ายค่ารถบัสสำหรับทัวร์คอนเสิร์ต ...มากพอที่จะเป็นเชื้อเพลิงเติมความฝันให้ฉันด้วย”
เรื่องราวของสวิฟต์เต็มไปด้วยรายละเอียด ช่วงเวลาที่ขึ้นและลง และการหักมุม แต่ก็จบลงอย่างสวยงาม การเล่าเรื่องของเธอเป็นทักษะอย่างหนึ่งที่ส่งผลงานการแต่งเพลงของเธอให้โดดเด่น สวิฟต์เป็นศิลปินนักร้องที่แต่งเพลงเองได้อย่างดีเยี่ยม และปี 2023 ก็เป็นปีทองของเธอ ในวัย 33 ปี เทย์เลอร์ สวิฟต์ เป็นศิลปินอาชีพที่โด่งดังในระดับแถวหน้าไม่แตกต่างไปจากเอลวิส เพรสลีย์ ไมเคิล แจ๊คสัน และมาดอนนา และในฐานะนักแต่งเพลง เธอก็ไม่ต่างกับบ๊อบ ดีแลน พอล แมคคาร์ทนี และโจนี มิตเชล
ไม่เพียงเท่านั้น สวิฟต์ยังเป็นนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จและมีอาณาจักรธุรกิจของตัวเอง มูลค่าโดยประมาณสูงกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ และในฐานะเซเลบคนดังในสังคม เธอได้รับความสนใจจากสื่อในแทบจะทุกมิติของชีวิตไม่ว่าจะเป็นในเรื่องชีวิตรัก เธอกำลังออกเดตกับใคร ไปจนถึงเสื้อผ้าแฟชั่น เธอสวมใส่อะไร สวิฟต์ปรากฏชื่อในหัวข้อข่าวมากมายตลอดทั้งปีนี้ เพลงของเธอที่ออกมาก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เฉพาะปีนี้ปีเดียวก็ติดอันดับ 1 ไปแล้วถึง 3 อัลบั้ม เป็นศิลปินหญิงที่มีอัลบั้มติดอันดับ 1 มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ทัวร์คอนเสิร์ต Eras Tour ที่เต็มล้นทุกรอบจากตารางการแสดง 66 วันเฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกา ก่อให้เกิด “Taylor effect” หลายประเทศมีนักการเมืองออกมาขอให้เธอไปเปิดคอนเสิร์ตในประเทศของพวกเขาบ้าง นั่นหมายรวมถึงไทย ฮังการี และชิลี
กล่าวกันว่า ในที่ใหม่ๆที่เธอไปเปิดคอนเสิร์ตจะเกิดกระแสเงินสะพัด-กระเตื้องเศรษฐกิจแบบเล็กๆ โรงแรมและร้านอาหารในพื้นที่จะมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นในช่วงเวลาที่มีคอนเสิร์ตเทย์เลอร์ สวิฟต์
ภาพยนตร์ที่เกี่ยวโยงกับคอนเสิร์ตของสวิฟต์ ยังโกยรายได้แบบทุบสถิติภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับคอนเสิร์ตทั้งหมดทั้งมวลที่เคยมีมา นอกจากนี้ ปรากฏการณ์คนตบเท้าเข้าตีตั๋วดูภาพยนตร์ในโรงหนังยังเกิดขึ้นชนิดที่กลายเป็นข่าวฮือฮาเนื่องจากสวิฟต์ตัดสินใจที่จะจับมือกับโรงภาพยนตร์ในเครือ AMC ปล่อยผลงานชิ้นนี้ แทนการจับมือกับผู้ให้บริการสตรีมมิงเนื้อหาบันเทิงอย่างที่นิยมกันในยุคนี้ ความสำเร็จทั้งด้านการเป็นศิลปินเพลง นักแต่งเพลง และการเป็นนักธุรกิจของสวิฟต์ ถูกนำไปศึกษา-ตีความ จัดทำเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษาชั้นนำไม่ต่ำกว่า 10 คลาส รวมทั้งที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดด้วย
เรื่องราวของเทย์เลอร์ สวิฟต์ เป็นที่กล่าวขวัญถึงมาตลอดทั้งปีนี้ และส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากปีที่แล้ว เมื่อ Ticketmaster บริษัทจำหน่ายตั๋วคอนเสิร์ต เริ่มเปิดการจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ต Eras Tour ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ จนระบบล่มเมื่อแฟนๆ หรือแฟนด้อมของสวิฟต์ที่เรียกว่า “สวิฟตี้ส์” กระหน่ำกันเข้ามาซื้อตั๋ว และตลอดช่วงปี 2023 ตั๋วคอนเสิร์ตของศิลปินสาวสุดฮอตคนนี้ ก็ถูกจำหน่ายออกไปแล้ว 4.1 ล้านใบ เฉพาะวันแรกที่เปิดให้ซื้อนั้น ทำยอดไปกว่า 2 ล้านใบภายในวันเดียวซึ่งเป็นการทุบสถิติใหม่ ความต้องการซื้อตั๋วทำให้มีการปั่นราคาขายต่อในราคาสูงลิ่ว บางที่นั่งบางรอบสูงกว่า 22,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 7.7 แสนบาท ทำให้เกิดการร้องเรียนและกระทรวงยุติธรรมสหรัฐต้องออกโรงไต่สวนในเรื่องนี้ วุฒิสภาสหรัฐต้องเปิดการรับฟังการชี้แจง นับเป็นปรากฏการณ์วุ่นๆ ที่กลายเป็นข่าว แต่สวิฟต์ก็รับมือกับเรื่องราวเหล่านี้ได้ดี เธอกล่าวกับไทม์ว่า การแสดงในแต่ละรอบของคอนเสิร์ตความยาวกว่า 180 นาที เธอต้องร้องเพลงมากกว่า 40 เพลง จากอย่างน้อย 9 อัลบั้ม ต้องเปลี่ยนชุด 16 ชุด เพียบพร้อมด้วยเทคนิคแสง ภาพ และเสียง นั่นทำให้สวิฟต์ต้องฟิตซ้อมร่างกายแบบจัดหนัก 6 เดือนก่อนเปิดคอนเสิร์ตรอบแรก จากนั้นยังมีการฝึกซ้อมเต้น 3 เดือน “ฉันอยากจดจำท่าเต้นให้เข้าถึงกระดูกเลยหละ” จะได้พูดคุยเล่นกับผู้ชมได้ โดยไม่ลืมสิ่งที่จำไว้ในหัว
ทุ่มเทขนาดนี้ไม่น่าแปลกใจว่า เทย์เลอร์ สวิฟต์ ก้าวมาถึงจุดแห่งความสำเร็จในวันนี้ได้อย่างไร จากสาวน้อยที่หลงใหลในเพลงคันทรีจากเมืองไวโอมิง รัฐเพนซิลเวเนีย สู่การเซ็นสัญญากับค่าย Big Machine Records เป็นศิลปินแนวเพลงคันทรีขณะอายุเพียง 14 ปี และเป็นนักแต่งเพลงที่อายุน้อยที่สุดที่ได้เซ็นสัญญากับบริษัท Sony/ATV Music Publishing สร้างผลงานเพลงที่ติดอันดับท็อปชาร์ตของบิลบอร์ดมามากมายหลายเพลง เป็นเจ้าของสถิติโลกที่ได้รับการบันทึกในกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด 6 รายการในปี 2015 และเป็นผู้ที่มีรายชื่ออยู่ทำเนียบ “100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก” จัดโดยนิตยสารไทม์ ในปี 2010, 2015 และ 2019 เธอยังเป็นศิลปินที่ทำเงินมากที่สุดในปี 2016 และ 2019 อีกด้วย และปีนี้ 2023 เธอได้ขึ้นหน้าปกนิตยสารไทม์ เป็น “บุคคลแห่งปี” อย่างเต็มภาคภูมิ
ข้อมูลอ้างอิง