เศรษฐีจีนย้ายออกนอกประเทศมากที่สุด ขณะ UAE เป็นสวรรค์ดูดคนรวย

15 มิ.ย. 2566 | 00:02 น.

เฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำ ระบุเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและมาตรการบางส่วนของภาครัฐ ทำให้ “จีน” มีการไหลออกของเศรษฐีมากที่สุดในปีที่ผ่านมา(2565)

 

จีน ครองแชมป์ประเทศที่มี เศรษฐีอพยพออกจากประเทศ มากที่สุดในโลก โดยมีเศรษฐีย้ายออกสุทธิ 10,800 คนในปีที่ผ่านมา(2565) และคาดว่าจะเพิ่มเป็นสุทธิ 13,500 คนในปีนี้ (2566) ท่ามกลางการผลักดันนโยบายรุ่งเรืองร่วมกัน(Common Prosperity) ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่สร้างแรงกดดันทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ระดับมหาเศรษฐี (High Net Worth Individual) ในจีนแห่โยกย้ายความมั่งคั่งไปยังประเทศที่เป็นมิตรมากกว่า เช่น สิงคโปร์

รายงานของเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส (Henley & Partners) บริษัทชั้นนำที่ปรึกษาด้านการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานและขอสัญชาติ ยังระบุด้วยว่า การบังคับใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เคร่งครัดและยืดเยื้อในช่วงสองปีที่ผ่านมา ยังเป็นการเพิ่มเหตุผลที่ทำให้เศรษฐีจีนต้องการย้ายออกนอกประเทศไปใช้ชีวิตในต่างแดนมากขึ้น

ทั้งนี้ นอกจากจีนแล้ว ในปี 2565 ประเทศที่พบเศรษฐีโยกย้ายออกจากประเทศมากเป็นอันดับที่ 2 คือ รัสเซีย ย้ายออกสุทธิ 8,500 คน และคาดว่าจะมีอัตราอพยพชะลอตัว เหลือย้ายออกสุทธิ 3,000 คนในปีนี้ (2566)

สำหรับ นิยามของคำว่า มหาเศรษฐี ซึ่งใช้คำว่า ผู้มีความมั่งคั่งสูง (High Net Worth Individual หรือ HNWI) ในรายงานฉบับนี้ หมายถึง ผู้ที่มีความมั่งคั่งตั้งแต่ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป

ในอังกฤษก็มีแนวโน้มการอพยพออกจากประเทศของคนกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า จาก 1,600 คนในปี 2565 เป็น 3,200 ในปี 2566 เนื่องจากแรงกดดันด้านภาษีและผลกระทบจากการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) คือแชมป์ประเทศที่ดึงดูดบรรดามหาเศรษฐีจากนานาประเทศมากที่สุด แต่อาจถูกแซงโดยออสเตรเลียในปีนี้

ในทางกลับกัน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) คือแชมป์ประเทศที่ดึงดูดบรรดามหาเศรษฐีจากนานาประเทศมากที่สุด ท่ามกลางสถานะศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ การเป็นประเทศรายได้สูง และความแข็งแกร่งในภาคส่วนสำคัญๆ มากมาย ตั้งแต่การเป็นศูนย์กลางบริการทางการเงิน แหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ อสังหาริมทรัพย์ การเดินทาง-ท่องเที่ยว เทคโนโลยี และการดูแลสุขภาพ

นอกจากนี้ ผู้อยู่อาศัยใน UAE ยังได้ประโยชน์จากอัตราภาษีที่ต่ำมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

อย่างไรก็ดี รายงานของเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส คาดการณ์ว่า ออสเตรเลีย มีแนวโน้มจะแซงหน้า UAE ขึ้นเป็นประเทศที่ดึงดูดเศรษฐีกลุ่ม HNWI มากที่สุดในปีนี้ (2566) โดยรายงานคาดการณ์ว่า จะมีเศรษฐีจำนวน 5,200 คนย้ายไปอยู่ที่ออสเตรเลียในปีนี้ ขณะที่สิงคโปร์ จะเป็นประเทศที่ดึงดูดบรรดาเศรษฐีได้มากเป็นอันดับที่ 3

รายงานจากบลูมเบิร์กระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงตัวเลขที่มุ่งเน้นไปยังเศรษฐีที่ย้ายถิ่นฐานไปแล้ว เช่นผู้ที่ย้ายไปอยู่ในประเทศใหม่นานเกินกว่าหกเดือน เป็นต้น

 

ข้อมูลอ้างอิง