สี จิ้นผิงเปิดประชุมสมาคมชาวจีนโพ้นทะเลอลังการ "สุภกิต CP" ร่วมงาน

10 พ.ค. 2566 | 09:43 น.

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เปิดการประชุมมิตรภาพโลกของสมาคมชาวจีนโพ้นทะเลอลังการต้นสัปดาห์นี้ โดยมี"สุภกิต เจียรวนนท์"ประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมงาน

สื่อจีนรายงาน การประชุมสมัชชาเพื่อมิตรภาพ แห่ง สมาคมชาวจีนโพ้นทะเลทั่วโลก ครั้งที่ 10 ของสมาคมชาวจีนโพ้นทะเล ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง เมื่อวันจันทร์ (8 พ.ค.) เปิดงานอย่างอลังการ โดยงานนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ให้การต้อนรับและพบปะกับตัวแทนชาวจีนโพ้นทะเลเกือบ 500 คนจาก 130 ประเทศ ซึ่งรวมถึง นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ บุตรชายคนโตของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสธนินท์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี)นายกสมาคมนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้การต้อนรับและทักทายบรรดาผู้นำชาวจีนโพ้นทะเลจากกว่าร้อยประเทศทั่วโลกเมื่อวันจันทร์ (8 พ.ค.) ซึ่งมีนายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ในวงกลมแดง) รวมอยู่ด้วย

นายสือ ไท่เฟิง กรรมการกรมการเมืองและประธานฝ่ายแนวร่วมแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้และได้กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุมในเช้าวันเดียวกัน เขากล่าวว่าชาวจีนโพ้นทะเลมีความได้เปรียบที่ไม่เหมือนใครในการหลอมรวมบูรณาการจีนกับต่างประเทศ เป็นสะพานเชื่อมและสายสัมพันธ์ที่สำคัญที่เชื่อมโยงจีนกับทั่วโลก และเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันแห่งมนุษยชาติ เขาหวังว่าชาวจีนโพ้นทะเลที่มีมากมายมหาศาลจะลงลึกปฏิบัติตามแนวคิดว่าด้วยการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันแห่งมนุษยชาติ ส่งเสริมสันติภาพของโลกและมิตรภาพระหว่างจีนกับต่างประเทศ ส่งเสริมการพัฒนาและความร่วมมือที่ได้ชัยชนะร่วมกันกับทั่วโลกอย่างแข็งขัน และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อารยธรรมซึ่งกันและกันระหว่างจีนกับต่างประเทศ

ทั้งนี้ การประชุมสมัชชาเพื่อมิตรภาพแห่งสมาคมชาวจีนโพ้นทะเลทั่วโลกเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนและกระชับมิตรภาพสำหรับผู้บริหารและสมาคมชาวจีนโพ้นทะเลทั่วโลกที่มีบทบาทสำคัญ หัวข้อการประชุมปีนี้คือ "หลอมรวมเชื่อมโยงจีนกับต่างประเทศ ผลักดันการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันแห่งมนุษยชาติ" โดยมีผู้นำสมาคมชาวจีนโพ้นทะเลประมาณ 500 คนจาก 130 กว่าประเทศและภูมิภาคเข้าร่วมการประชุม

นับตั้งแต่การประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั่วประเทศครั้งที่ 18 เป็นต้นมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลได้กำหนดยุทธศาสตร์บรรลุการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่งใหญ่ของประชาชาติจีน โดยเสนอว่า"ประชาชาติจีนที่เป็นเอกภาพและสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันนั้น คือรากเหง้าร่วมกันของลูกหลานชาวจีนทั้งในและต่างประเทศ วัฒนธรรมจีนที่ยิ่งใหญ่ไพศาลและลึกซึ้งเป็นจิตวิญญาณร่วมกันของลูกหลานชาวจีนทั้งในและต่างประเทศ การฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่งใหญ่ของประชาชาติจีนคือความฝันร่วมกันของลูกหลานชาวจีนทั้งในและต่างประเทศ"

นอกจากนี้ ยังย้ำว่า"ความสมัครสมานสามัคคีของชาวจีนโพ้นทะเลอันไพศาลรวมถึงเครือญาติที่มีความชิดใกล้กันและส่งเสริมให้พวกเขามีบทบาทอย่างแข็งขันในกระบวนการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองอย่างยิ่งใหญ่ของประชาชาติจีน ถือเป็นภารกิจสำคัญประการหนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลจีน"

ในรายงานการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั่วประเทศครั้งที่ 20 ยังมีการระบุถึงชาวจีนโพ้นทะเลด้วยว่า "ต้องส่งเสริมและยกระดับกิจการชาวจีนโพ้นทะเล เพื่อก่อรูปขึ้นเป็นขุมพลังที่มีความมุ่งมั่นร่วมกันในการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติ"

ถ้อยแถลงที่สำคัญและการวางนโยบายและแผนงานดังกล่าวนี้ ได้สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อกิจการชาวจีนโพ้นทะเลของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีนายสี จิ้นผิงเป็นแกนนำ 

แซ่เจี่ยต้นกำเนิดแห่ง ‘เจียรวนนท์’

เมื่อ 100 ปีก่อน  'เจี่ย เอ็กชอ' ชาวกวางตุ้งรวบรวมเงินก้อนหนึ่งที่สะสมมาจากการค้าขาย และตัดสินใจลงเรือที่ซัวเถา หอบเมล็ดพันธุ์ผักข้ามน้ำข้ามทะเลมาลงหลักปักฐานที่เยาวราช ก่อนเติบโตขึ้นเป็นบริษัท เจียไต๋ จำกัด กระทั่งกิจการเติบใหญ่และแผ่กิ่งก้านสาขาขยายออกไปไกลทั่วโลกกลายเป็นเครือเจริญโภคภัณฑ์เฉกเช่นปัจจุบัน  

นายเจี่ย เอ็กชอ เป็นลูกชายคนโตของครอบครัว มีน้องชาย 2 คน น้องสาวอีก 2 คน เดิมทีครอบครัวตั้งรกรากที่ตำบลฮั่วซัว อำเภอเท่งไฮ้ มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน  โดยพ่อของเขามีที่ดินให้ชาวนาเช่า ชีวิตความเป็นอยู่จึงไม่ลำบากนัก กระทั่งคุณพ่อเสียชีวิต ภาระทั้งหมดของครอบครัวจึงตกมาที่ลูกชายคนโต ซึ่งต้องเริ่มทำการค้าขายตั้งแต่เด็ก ที่ในตอนนั้นคือการค้าขายเมล็ดพันธุ์ผัก 

จนในปี 2462 ที่รัฐบาลไทยในสมัยนั้นสนับสนุนให้ชาวจีนโพ้นทะเลเข้ามาเปิดกิจการในประเทศ จึงมีชาวจีนจำนวนไม่น้อยเดินทางมาเสี่ยงโชคและหาโอกาสใหม่ให้ชีวิต เช่นเดียวกับเจี่ย เอ็กชอ ที่เปิดกิจการร้านขายเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยเคมี และอุปกรณ์สำหรับการเพาะปลูกในปี 2464 ด้วยชื่อร้าน "เจียไต้จึง" ก่อนจะเปลี่ยนเป็นบริษัท เจียไต๋ จำกัด ในปัจจุบัน 

ร้านเจียไต้จึงเป็นกิจการในห้องแถว 2 ชั้นบนถนนทรงสวัสดิ์ อยู่ในย่านทรงวาด ซึ่งเป็นทั้งที่อยู่อาศัยของครอบครัวและร้านค้า ที่ดูแลโดยสองพี่น้องคือ เจี่ย เอ็กชอ และน้องชาย เจี่ย จิ้นเฮี้ยง (ชนม์เจริญ เจียรวนนท์) ซึ่งจุดสำคัญที่ทำให้กิจการรุ่งเรืองมาจากที่ เจี่ย เอ็กชอ พกวิชาปลูกเก๊กฮวย ให้ออกดอกนอกฤดูได้ มาเริ่มต้นทำธุรกิจที่เมืองไทย 

กระทั่งมาถึงมือทายาทรุ่นสอง ที่ขยายกิจการจากจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ผัก มาสู่กิจการผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ภายใต้ชื่อร้านเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งเติบโตต่อมาเป็นเครือ CP ในฐานะบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจหลากหลายจนปัจจุบัน  

CPกลายเป็นกลุ่มบริษัทขนาดยักษ์ใหญ่ที่มีกิจการครอบคลุม 8 สายธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจสื่อและโทรคมนาคม ธุรกิจอีคอมเมิร์ซและดิจิทัล ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจยานยนตร์และอุตสาหกรรม ธุรกิจยาและเวชภัณฑ์ ตลอดจนธุรกิจการเงินและการธนาคาร โดยธุรกิจอาหาร คือส่วนสำคัญที่ต่อยอดความมั่งคั่งให้แก่ตระกูลเจียรวนนท์ จนขึ้นแท่นเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของไทยด้วยทรัพย์สินสุทธิถึง 9.33 แสนล้านบาท จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์เมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 

ปัจจุบัน ประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์ ผู้เป็นประมุขของตระกูลและเป็นนายกสมาคมนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน มอบหมายให้บุตรชายคนโตคือ สุภกิต เจียรวนนท์ เป็นประธานกรรมการบริษัท และศุภชัย เจียรวนนท์ ลูกชายคนเล็กเป็นประธานคณะผู้บริหาร