เมื่อวันจันทร์ แถลงการณ์บนเว็บไซต์ “วิทยาลัยโตเกียว” ซึ่งอยู่ภายใต้มหาวิทยาลัยโตเกียว ประกาศว่า "แจ็ค หม่า" มหาเศรษฐีชาวจีนคนดัง ได้เข้าร่วมงานกับวิทยาลัย ตำแหน่ง "เป็นที่ปรึกษาของวิทยาลัย" โดยจะทำงานร่วมกับนักวิจัย และเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย ใน“สาขาเกษตรกรรมยั่งยืนและการผลิตอาหาร”
ก่อนที่หม่าจะเข้ารับตำแหน่งทางวิชาการป้ายแดงนี้ มีรายงานว่า เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เขา “สละสิทธิ์” การควบคุมการบริหารบริษัทใน “เครือ Ant Group” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้น นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โครงสร้างบริษัทก็ถูกปรับใหม่ โดยแบ่งออกเป็น 6 หน่วย
มีรายงานว่า หม่าและครอบครัวเดินทางมาอาศัยอยู่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเมื่อไม่นานมานี้ พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยส่วนตัว เขาใช้ชีวิตในโตเกียวเงียบๆ ควบคู่ไปกับการสำรวจตลาด เพื่อวางแผนธุรกิจของเขา
มีรายงานว่าบ้านที่เขาอาศัยนั้น เป็นบ้านของ “มาซาโยชิ ซัน” ซีอีโอ "SoftBank" (SFTBF) เพื่อนและนักลงทุนของอาลีบาบา รวมถึงช่วงที่อยู่ในฮ่องกงด้วย
แจ็ค หม่า ผู้ร่วมก่อตั้งอาลีบาบา (Alibaba ) ที่ปัจจุบันมีทรัพย์สินประมาณ 33,000 ล้านดอลลาร์ ยังคงทำตัว "โลว์โปรไฟล์ (Low Profile)" เก็บตัวไม่ออกสื่อ นับตั้งแต่รัฐบาลจีนเข้ามาตรวจสอบ และเอาผิดกับบรรดาบริษัทเทคโนโลยีต่างๆอย่างเข้มข้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
เมื่อปี 2563 หม่า เคยวิพากษ์วิจารณ์นโยบายกำกับดูแลด้านการเงินของจีนว่า ล้าสมัย ไม่เหมาะสมกับการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ และไม่เป็นมิตรกับธุรกิจขนาดเล็ก
เพียงไม่กี่วันต่อมา มีคำสั่งระงับการเสนอขายหุ้น IPO บริษัท Ant Group บริษัทลูกของอาลีบาบาที่ให้บริการทางการเงิน “อาลีเพย์ (Alipay)” มูลค่า 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ด้วยเหตุผลว่า อาลีบาบา "ผูกขาดตลาด" และหม่ายังถูกปรับเงินถึงเกือบ 2.8 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ "มากที่สุดเป็นประวัติการณ์" ของจีน
หลังจากนั้น ยังมีข่าวออกมาว่า เขาและเพื่อนร่วมงานบางคนถูกรัฐบาลจีนเรียกตัวไปพบ จากนั้นหม่าไม่ปรากฏตัวในหน้าสื่อเลย แต่มีรายงานว่า มีผู้พบเห็นหม่าปรากฏตัวอยู่ที่สหรัฐฯ และอิสราเอลอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงที่เกาะมายอร์กาของสเปนเมื่อปีที่แล้ว และ "กรุงเทพ ประเทศไทย" เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
จาก "จุดสูงสุด สู่สามัญ" แจ็ค หม่า เคยเป็น "มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของจีน" ด้วยทรัพย์สินขณะนั้นสูงถึง 6.66 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 2.32 ล้านล้านบาท เนื่องจากหุ้นอาลีบาบามีการซื้อขายอยู่ในระดับสูงสุดประวัติการณ์ แต่ปัจจุบันทรัพย์สินของเขา "ลดลงครึ่งหนึ่ง" อยู่ที่ประมาณ 33,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.12 ล้านล้านบาท และเขาตกลงมาอยู่อันดับ 6 ทำเนียบมหาเศรษฐีของจีน
แม้จะเจอกับพายุที่ถาโถม ทำให้ชีวิตพลิกผัน แต่เส้นทางของแจ๊ค หม่าไม่หยุดแค่นั้น เขายังคงเดินหน้าทำธุรกิจในหลายประเทศ และไม่ลืมทำประโยชน์เพื่อสังคม ผ่าน “มูลนิธิแจ็ค หม่า” องค์กรการกุศลที่เขาจัดตั้ง โดยมีนาคมที่ผ่านมา เขาได้เดินทางไปที่เมืองหางโจวบ้านเกิด เพื่อเยี่ยมโรงเรียนที่ได้รับทุนสนับสนุนจากบริษัทของเขา
ตัวแทนจากมูลนิธิแจ็ค หม่า กล่าวกับซีเอ็นเอ็นว่าเขา “เขาเดินทางบ่อยมากทั้งในจีนและต่างประเทศ”
ที่มา : CNN